ชายาหมอเซี่ยจินอาน นิยาย บท 339

เซี่ยจินอานไม่ได้แสดงความเห็นของตัวเองโดยตรง แต่กลับหันไปมองขุนนางชั้นสูงและถามว่า: "ไม่ทราบว่าท่านไหนคือซ่างซูกรมพระคลัง และท่านไหนคือซ่างซูกรมกลาโหม?"

ขุนนางชั้นสูงต่างก็เลือกที่จะรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ไม่คิดจะพูดเยอะ

แต่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเริ่มเรียกชื่อ ในใจของทุกคนนั้นต่างก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในที่อันตราย

ดังนั้นตอนนี้แม้แต่หายใจยังไม่กล้าเลย ก้มหัวต่ำลงกว่าเดิมอีก

ก็เหมือนกับนักเรียนประถมกลัวถูกครูเรียกชื่อในชั้นเรียน

มีเพียงขุนนางสองท่านเท่านั้น ที่กัดฟันแล้วก้าวออกมา และพูดด้วยความหวาดกลัว: "ข้าคือซ่างซูกรมพระคลัง"

"ข้าคือซ่างซูกรมกลาโหม"

เซี่ยจินอานหันไปมองซ่างซูกรมกลาโหมและถามว่า:"ใต้เท้า ไม่ทราบว่าในราชวงศ์ฉีสุ้นนี้มีทหารกี่คน?เบี้ยเลี้ยงทุกเดือนของทหารแต่ละคนคือเท่าไหร่? "

ซ่างซูกรมกลาโหมก้มหัวนึกคิดไปสักครู่ และบอกคร่าวๆเกี่ยวกับการแบ่งกำลังทหารของราชวงศ์ฉีสุ้นให้เซี่ยจินอานฟัง

ราชวงศ์ฉีสุ้นอยู่ใกล้กับเป่ยตี๋ ซีจาวและหนานซิงสามแคว้นใหญ่และขนาดเล็กอีกหลายสิบแคว้น ซึ่งแคว้นขนาดเล็กนี้เคารพนับถือราชวงศ์ฉีสุ้นมาโดยตลอด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กองกำลังทหารมากเกินไปในการป้องกัน และทั้งหมดรวมกันก็คาดว่าน่าจะมีทหารเพียงสามแสนนายเท่านั้น

และจำนวนทหารทั้งหมดที่ประจำการอยู่ที่ชายแดนของเป่ยตี๋ ซีจาวและหนานซิงนั้นอยู่ที่ประมาณหกแสนคน

โดยแต่ละเมืองนั้นมีทหารคุมอยู่หนึ่งหมื่นคน สิบสามเมืองก็คือหนึ่งแสนสามหมื่นคน และเมืองหลวงเป็นที่อยู่อาศัยของจักรพรรดิ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของราชวงศ์ฉีสุ้น จะมีทหารทั้งหมดห้าหมื่นนายประจำการอยู่ในค่ายนอกเมืองหลวง

ควบคู่ไปกับกองกำลังอื่น ๆอีก ทั่วราชวงศ์ฉีสุ้นนั้นมีทหารประมาณเก้าแสนคน

เบี้ยเลี้ยงทุกเดือนของทหารทั่วไปคือสามตำลึงเงิน

"สามตำลึงเงิน" เซี่ยจินอานก้มหน้ากระซิบเบาๆ

สามตำลึงเงินนั้น ก็เท่ากับเงินสามถึงสี่แสนบาทของยุคปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นสวัสดิการที่ไม่เลว

พอเทียบแล้ว ก็กล่าวได้ว่ามันค่อนข้างเยอะ

ในเวลานี้ซ่างซูกรมกลาโหมก็กล่าวอีกว่า:"ในตอนนั้นหนึ่งปีเท่ากับหนึ่งตำลึงเงิน แต่ต่อมาเซ่อเจิ้งหวางเสนอให้เพิ่มเบี้ยเลี้ยงทุกเดือนของทหารเป็นสามตำลึงเงิน"

เซี่ยจินอานหันมองหยุนฝู้เฉินและยิ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน