หยุนฝู้เฉินเหลือบมองเทียนเฟิงอย่างเย็นชา "ข้าผ่าตัดสมองเจ้าก่อนจะดีกว่าไหม"
เทียนเฟิงกลัวจนตัวสั่น และก็รีบถอยหลังไปสองสามก้าว และพูดด้วยเสียงสั่นว่า:"ข้าน้อยพูดพลั้งปาก!"
ตี้เฟิงและคนอื่นๆก้มหัวกลั้นหัวเราะเอาไว้
เสวียนเฟิงเป็นคนที่ฉลาดที่สุดเสมอ และคิดได้แล้วว่าเหตุผลที่หยุนฝู้เฉินอยากป่วย!
อยากจะตามตื๊อคุณหนูเซี่ยและเข้าไปใกล้ชิดนางแน่เลย?
"ท่านอ๋องไปอาบน้ำเย็นดีหรือไม่?" เสวียนเฟิงเสนอ
เมื่อได้ยินคำพูดของเสวียนเฟิง ตี้เฟิงก็เริ่มเข้าใจเช่นกัน ยิ้มและบอกว่า: "หรือนอนกลางแจ้งในลานสักหนึ่งคืน?"
หวงเฟิงขมวดคิ้วและบอกว่า:"ท่านอ๋องมีกำลังภายในปกป้องร่างกาย และลมหนาวเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำอะไรร่างกายของท่านอ๋องได้อยู่แล้ว"
เทียนเฟิงยิ่งโหด: "นั่นก็นอนแช่น้ำเย็นกลางแจ้งในลานสักหนึ่งคืนโดยใช้กำลังภายในปกป้องร่างกาย"
ทุกคน:"......"
สงสัยกันอย่างยิ่งว่าเทียนเฟิงกำลังแก้แค้น!
หยุนฝู้เฉินได้พิจารณาอย่างรอบคอบและคิดว่าวิธีนี้ได้เรื่องจริง ดังนั้นจึงสั่งว่า:"ไปตักน้ำมาให้ข้า"
เพียงไม่นาน ในลานก็ได้เตรียมถังไม้สำหรับอาบน้ำ ซึ่งด้านในถังเต็มไปด้วยน้ำเย็น หยุนฝู้เฉินถอดเสื้อและรองเท้าทิ้งและเข้าไปในถังไม้โดยไม่กะพริบตาเลย
น้ำเย็นที่ตักโดนสภาพอากาศแบบนี้นั้นก็ใกล้เป็นเหมือนน้ำแข็งแล้ว! ต้องบอกว่าความอดทนของหยุนฝู้เฉินนั้นสูงจริงๆ!
แสงจันทร์โรยบนร่างกายของเขา ราวกับถูกเคลือบด้วยแสงอันเยือกเย็น ในคืนที่เงียบสงบนั้นทำให้ดูมีเสน่ห์ดึงดูดคนอย่างยิ่ง
วันรุ่งขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ค่อยๆขึ้นมาอย่างช้าๆ สี่องครักษ์คนสนิทเทียน ตี้ เสวียน หวงก็ลงมาจากทุกด้านและเดินไปที่ด้านข้างของถังไม้ เห็นเพียงว่าน้ำในถังไม้นั้นถูกแช่แข็งไปหมดแล้ว
บนเส้นผมสีเข้มดำดั่งผ้าไหมนั้นก็ปกคลุมไปด้วยหิมะและเมื่อมองดูดีๆบนขนตานั้นก็มีน้ำแข็งปกคลุมอยู่เช่นกัน
"ท่านอ๋อง เช้าแล้ว" เสวียนเฟิงพูดเตือนอยู่ข้างๆ
หยุนฝู้เฉินค่อยๆลืมตาขึ้น จากนั้นก็ลุกขึ้นจากถังไม้แล้วก้าวออกจากถังไม้ เห็นเพียงว่าร่างกายของเขาหนาวจนแดงไปหมด และผิวที่ขาวอยู่นั้น ตอนนี้กลับราวกับว่าถูกทาสีแดง
คำถามของเซี่ยจินอานทำให้ทั้งสี่คนไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จะบอกว่าท่านอ๋องของพวกเขาตกหลุมรักและเพื่อไล่ตามคนรัก จึงคิดอยากจะป่วยงั้นเหรอ?
ทั้งสี่คนไม่สามารถบอกเหตุผลออกมาได้ เซี่ยจินอานจึงทำได้เพียงให้พวกเขาแบกคนขึ้นไปที่ชั้นสองก่อน และเมื่อกงซุนหนันเสียนกับเพ้ยจิ่วชวนที่กำลังกินเมล็ดทานตะวันอยู่นั้น ก็ตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นฉากนี้
"ไอ้จิวจิ่ว ผู้ชายคนนี้จะตายแล้วเหรอ?" กงซุนหนันเสียนพูดอย่างน่าเศร้า
"ไม่" เพ้ยจิ่วชวนกล่าวอย่างมั่นใจ จากนั้นก็นำเมล็ดทานตะวันจานหนึ่งที่เขาปอกเปลือกเสร็จวางลงตรงหน้าของกงซุนหนันเสียน
"ดูแล้วประมุขจะกังวลยิ่งนัก" กกงซุนหนันเสียนยัดเมล็ดทานตะวันหนึ่งช้อนเข้าไปในปาก และพูดไม่ค่อยชัดเจน
"ห่วงใยผู้ใดก็จะก่อเกิดความกังวลและความสับสน"
กงซุนหนันเสียนก้มหน้าลงมองดูจานตรงหน้าตัวเอง จากนั้นก็ใช้ช้อนตักไปหนึ่งช้อนแล้วยื่นไปข้างปากของเพ้ยจิ่วชวนแล้วบอกว่า:"อย่าให้ข้าหมด เจ้าก็กินสิ!"
เพ้ยจิ่วชวนชะงักไปครู่หนึ่ง และมองดูช้อนนั้น เหมือนเสียนเพิ่งใช้มันเมื่อกี้นี้นี่นา
แต่ก็เพียงแค่เหลือบมองไปสักพัก สุดท้ายก็กินเมล็ดทานตะวันที่อยู่บนช้อนนั้นจนหมดเกลี้ยง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
น่าติดตาอ่าน แต่ตอนหลัง จบคือจบ ขอขอบคุณที่สรุปให้...
ทุกคนไม่ต้องเสียอารมณ์ที่ตัดจบแบบนี้เข้าไปดูเรื่องนี้ในแอปเสียตังค์แล้ว...ตัดจบแบบนี้เหมือนกัน...
เรื่องนี้สนุกมากก ทั้งความฟิน ตลก ไม่ปวดตับ แต่เสียตรงที่ตอนจบ ตัดจบง่ายไป ยังมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง 1. พระเอกหน้าเป็นยังไง? ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา หน้าตาไม่ดี? เป็นแผลเป็นบนใบหน้า? หรือเกิดจากปมอะไร 2. ครอบครัวของเซี่ยจินอาน น่าจะมีบรรยายต่ออีกหน่อย สมควรได้รับกรรมมากกว่านี้ 3. เสิ่นหลีซู องค์หญิง และหมอผู้หญิงที่ชอบพระเอก ควรบรรยายว่าจะมีจุดจบเป็นแบบไหน 4. จุดจบของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน...
กำลังลุ้นอยู่ดีๆ ตัดจบจนปวดใจ แต่ก็ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ...
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...