ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า นิยาย บท 80

ความเกลียดและรู้สึกผิดของฉางซินเอ๋อร์ไม่เหมือนกัน

ทางเมืองเสว่เฉิง เย่ชิงหลีที่เดิมที่อารมณ์ดีตั้งแต่เช้าเพราะว่าจะได้เจอลูกสาวแล้ว แต่เพราะว่าสายของเผยจิ้นโม่ ทำให้กระทบอารมณ์ไปเล็กน้อย

แต่ตอนที่ถึงคฤหาสน์หงซาน เธอก็ดีใจขึ้นแล้ว

“หม่ามี๊” แก้มกลมๆ ของเสว่อาน เย่ชิงหลีจูบลงไปอย่างรักใคร่ รู้สึกว่าน่ารักไม่ไหว

แม้แต่กลิ่นตัวบนเด็ก เธอก็ชอบมากจนไม่ไหว

มีความสุขเต็มอิ่ม

“คิดถึงหม่ามี๊ไหม?”

“คิดถึงคิดถึง ท่านทวดบอกว่าหม่ามี๊ตอนนี้งานยุ่งมากเลย ให้หนูกินข้าวและนอนดีๆ” เด็กน้อยกอดคอของเย่ชิงหลี

แล้วถูไปถูมา

เย่ชิงหลีคันมาก “พอแล้วๆ ไม่ต้องถูแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า” ลูกคนนี้นี่อะไรกันเนี่ย

ท่านทวดเฉินชิงเสิร์ฟน้ำซุปถ้วยสุดท้ายมาไว้บนโต๊ะ จากนั้นเดินมาทางเย่ชิงหลีอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ส่งเด็กมาให้ฉันเถอะ ฉันต้มพวกโจ๊กบำรุงไว้ให้ไปกินก่อนเลย เดี๋ยวตอนเที่ยงจะต้มน้ำซุปกระดูกหมูให้ ต้องบำรุงให้ดีๆ หน่อยแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ แต่ปล่อยให้หนูอุ้มเธอไว้เถอะ” เย่ชิงหลีเกรงใจท่านเป็นอย่างมาก

เฉินชิง ตามลำดับแล้ว เธอยังต้องเรียกเฉินชิงว่าคุณยาย เพราะเป็นภรรยาคนใหม่ของคุณตา

และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้แม่และคุณยายต้องทรมาน ทำให้แม่และคุณยายตอนที่มีชีวิตอยู่ไม่ยอมพูดถึงคุณตา

โดยเฉพาะตอนที่คุณยายเสีย ยอมฝากเธอให้กับคุณปู่เผย ก็ไม่ยอมพูดถึงชื่อของคุณตาเลย

ตอนที่เย่ชิงหลีรู้เรื่องพวกนี้ ก็คิดมาตลอดว่าคนที่ทำให้เกิดความทรมานนี้ขึ้นต้องเป็นคนที่ไม่ดีและทำให้คนอื่นไม่ชอบเป็นอย่างมาก

เพราะ ทำให้คุณยายและแม่ต้องทรมาน

แต่อยู่ที่เมืองเสว่เฉิงมาสามปี เธอก็น่าจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมตอนนั้นคุณตาถึงต้องหย่ากับคุณยาย เรื่องของคนรุ่นก่อนเย่ชิงหลีเองก็ไปสืบหาก็คงดูไม่ดี รักษาระยะห่างไว้ก็พอแล้ว

และแล้ว ตัวตนของท่านทวดเฉินชิง ทำให้ระยะห่างที่เดิมทีเธอตั้งใจห่างไว้ ก็ได้เปลี่ยนไปทีละนิด

“กินข้าวก่อนเถอะ ดูสิเธอผอมลงเยอะเลย” เธอก็อยากจะอุ้มเสี่ยวเสว่อานไว้ แต่พอเสี่ยวเสว่อานจะกินข้าว กลับยืนมือไปทางท่านทวดเฉินชิงอย่างชำนาญ

ยายแกใกล้จะ70แล้ว ร่างกายแข็งแรง รักเป็นเอ็นดูลูกมากด้วย

“มาเถอะเสี่ยวเสว่อาน พวกเราต้องกินข้าวเช้าแล้ว” รับมือเด็กไปอย่างสนิทสนม จากนั้นก็วางลงไปบนเก้าอี้นั่งขงเด็กอย่างระวัง

เด็กน้องมีความสุขมาก ก็เลยแกว่งเท้าไปมา

ท่านทวดเฉินชิงพูดกับเย่ชิงหลีว่า “เธอไม่อยู่เนี่ย เสี่ยวเสว่อานเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ ตอนนี้ยอมกินข้าวด้วยตัวเองแล้ว”

มองดูเด็กน้อยใช้ช้อนตักข้าวอยางไม่ค่อยชำนาญ เย่ชิงหลีรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะเธออ้าปากให้ความร่วมมือกับท่านทวดเฉินชิง น่ารักเกินไปแล้ว “ยายทวด หนูจะกินอันนั้น”

นิ้วๆ เล็กๆ นั้นชี้ไปทางกับที่อยู่ตรงนั้น ทั้งหมดท่านทวดเฉินชิงทำตามความชอบของเด็กหมดเลย

“มา อ้าปาก”

“แล้วก็อันนั้น” เด็กน้อยเหมือนกับนักกิน

มองท่านทวดเฉินชิงที่รักและเอ็นดูเสี่ยวเสว่อานขนาดนี้ ในใจของเย่ชิงหลีรู้สึกแปลกๆ

ในห้องครัวกับข้าวของผู้ใหญ่มีแม่ครัวกำลังทำอยู่ หลายปีมานี้หลังจากที่เสว่อานต้องกินอาหารเสริม ก็เป็นท่านทวดเฉินชิงที่ทำอยู่

จนกระทั่งเย่ชิงหลีและคุณปู้ของ เธอก็เป็นคนลงมือทำทั้งหมด

เธอบอกว่า คุณตาแก่แล้ว กินอะไรต้องระวังเป็นพิเศษ ส่วนเย่ชิงหลีนั้นร่างกายอ่อนแอ ต้องยิ่งระวังเข้าไปใหญ่

ตอนนี้บนโต๊ะกินข้าว มีความสุขกันเป็นอย่างมาก

เย่ชิงหลีชอบกินซาลาเปา เจียงโจวเจ๋อเอาไปไว้ในถ้วยเล็กๆ ของเธอ เย่ชิงหลี “ขอบคุณค่ะคุณตา”

เหมือนกับที่มีต่อท่านทวดเฉินชิง ที่จริงเย่ชิงหลีก็จงใจรักษาระยะห่างกับคุณตาคนนี้เหมือนกัน

เธอไม่สามารถที่จะอาละวาดกับการทำร้ายที่แม่และคุณตานั้นได้ทำต่อพวกเขาไว้ แต่ในเวลาเดียวกันก็ทำไม่ได้ที่จะสนิทมากขนาดนั้น

เพราะตั้งแต่ที่เธอจำความได้ ในโลกของเธอก็ไม่มีคุณตาแล้ว

ตามคำพูดของคุณตา ก็มีแค่ตอนที่เธอถูกคลอดออกมาช่วงนั้น เขาเคยอุ้มเธอ ทุกครั้งที่พูดถึง เขาก็ถอนหายใจอย่างเดียว

ส่วนเย่ชิงหลี ก็ไม่รู้จะพูดอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า