จากนั้นจึงล้อมรั้วไผ่ไว้ด้านหลัง โดยต้องทำรั้วให้สูงขึ้นหน่อย ส่วนกุหลาบเลื้อยและกุหลาบจีนก็ปลูกไว้ตามมุมกำแพง ไม่กี่เดือนต่อมา พวกมันก็จะเลื้อยเต็มรั้ว กลายเป็นกำแพงดอกไม้ที่งดงาม
แต่แค่ที่ดินผืนเล็กแค่นี้ยังไม่พอ ต้องหาที่เพิ่มอีกสักสองหมู่เพื่อปลูกดอกไม้โดยเฉพาะ ในเมื่อจะทำสบู่นมแพะเป็นอาชีพหลักแล้ว ก็ต้องวางแผนทุกอย่างให้ดีและพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด
อย่ากลัวว่าจะสิ้นเปลืองเงินทองหรือแรงงาน การปลูกดอกไม้ในช่วงแรกไม่ใช่ว่าจะเห็นผลได้ในเดือนสองเดือน
เมื่อดอกไม้บานแล้ว ก็เก็บมาตากแห้งเพื่อเก็บไว้ใช้ ทั้งยังต้องใช้น้ำมันถั่วจำนวนมากสำหรับแช่ดอกไม้ เช่น ดอกมะลิ ดอกหอมหมื่นลี้ และดอกกล้วยไม้ ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นน้ำมันแช่ดอกไม้ได้
ส่วนดอกโบตั๋น กุหลาบจีน และกุหลาบเลื้อย สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำหอมและน้ำมันดอกไม้ เพื่อทำสบู่ที่มีกลิ่นและสีสันแตกต่างกันออกไป
สบู่เหล่านี้จะเน้นขายตลาดบน จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนมีเงินโดยเฉพาะ
ส่วนชาวบ้านทั่วไป ก็จะใช้สบู่นมแพะแบบพื้นฐานที่สุดที่ไม่เติมน้ำมันดอกไม้ใด ๆ อย่างมากก็แค่ย้อมสี เพื่อให้ทุกคนสามารถซื้อหาได้
ตกเย็น เมื่อคนในครอบครัวซูว่างเว้นจากงานแล้ว ซูหว่านจึงได้เล่าความคิดของตนให้ครอบครัวฟัง เกี่ยวกับความตั้งใจที่จะเปลี่ยนที่นาสองสามหมู่ของบ้านให้เป็นสวนดอกไม้
ดังนั้น หลังอาหารเย็น ทั้งครอบครัวจึงมานั่งล้อมวงกันที่โต๊ะแปดเซียน
“ข้าอยากจะทำสบู่หลากหลายชนิดออกมาขาย วัตถุดิบอย่างดอกไม้ก็ต้องใช้ไม่น้อย แต่ที่ดินหลังบ้านเรานั้นยังไม่เพียงพอ ข้าเลยอยากจะมาปรึกษาท่านพ่อท่านแม่และพวกพี่ ๆ ว่าปีนี้เราจะไม่ทำนา แต่จะเปลี่ยนมาปลูกดอกไม้แทน”
“ตอนนี้บ้านเราก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองสำหรับซื้อข้าวปลากินแล้ว อีกทั้งข้ายังมีแผนการอื่น ๆ อีกในอนาคต แต่ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มต้น คงต้องค่อยเป็นค่อยไป”
แม่ซูมิไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด มีเพียงท่านพ่อที่ยังมีท่าทีลังเลอยู่บ้าง เขาเป็นชาวนาโดยแท้ บรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนก็เป็นชาวไร่ชาวนามาตลอด
สำหรับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขา การมีที่ดินทำกินก็เปรียบเสมือนหลักประกันของชีวิต แม้ว่าตอนนี้บ้านพวกเขาจะมีเงินแล้ว แต่ในใจลึก ๆ เขาก็ยังอยากจะทำนาอยู่ดี เพื่อให้รู้สึกอุ่นใจ
ซูหว่านเข้าใจความคิดของเขาเป็นอย่างดี จึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
พ่อซูอธิบายให้ซูหว่านฟังชัดเจน เขาก็มีเหตุผลของเขา
คนโบราณให้ความสำคัญกับความกตัญญูเป็นที่สุด คำสั่งเสียของบิดาจะละเลยไม่ได้
“ท่านพ่อ ท่านอย่าได้โทษตนเองเลยเจ้าค่ะ ข้าเข้าใจดี เช่นนั้นก็ทำตามที่พี่รองบอก ไปซื้อที่ดินจากเจียงเซิงเถิด บ้านเจียงเซิงก็ลำบาก ข้าคิดว่าต่อไปก็จ้างพวกเขาสองคนสามีภรรยามาช่วยงานบ้านเรา หากกิจการรุ่งเรืองขึ้นมาก็ย่อมต้องการคนช่วยงาน เราต้องการคนที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์มาช่วยงาน ข้าเองก็สังเกตดูแล้ว เขาเป็นคนรู้จักบุญคุณ ช่วงที่มาช่วยสร้างบ้านก็ไม่รับค่าแรง ทั้งยังขยันขันแข็ง พวกเราก็ถือว่าได้ทำบุญช่วยเหลือพวกเขาไปในตัวด้วย”
ซูหว่านมองไปทั่วทั้งหมู่บ้าน คนที่พอจะคบค้าสมาคมได้ก็มีไม่มากนัก มีอยู่ไม่กี่ครอบครัว หากถึงคราวต้องการคนก็คงต้องไปขอแรงพวกนาง
หนึ่งคือตระกูลเฉิน อีกหนึ่งคือตระกูลจ้าว พวกเขาต่างก็มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลซู บิดาของทั้งสองตระกูลเป็นสหายที่ดีกับพ่อซู
ป้าเฉินเป็นคนอ่อนโยน ทำงานละเอียดรอบคอบ ในความทรงจำของซูหว่าน ทุกครั้งที่เจอนาง นางจะยิ้มทักทายเสมอ มีครั้งหนึ่งที่บ้านนางต้มไข่ ยังแบ่งให้ซูหว่านฟองหนึ่งด้วย
ตอนนั้น ซูหว่านเพิ่งกลับมาอยู่บ้านตระกูลซูได้ไม่นาน นับเป็นน้ำใจอันหาได้ยากยิ่ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...