หนำซ้ำฤดูใบไม้ผลิมีฝนตกชุก วางไว้ข้างนอกเกรงว่าจะชื้น หลังฝนตกในฤดูใบไม้ผลิหลายครั้ง ต้นกล้าดอกไม้เล็กๆในสวนด้านหลังเเละเเปลงดอกไม้ก็เริ่มผลิบานออกมาเรื่อยๆ
เจียงเซิงเเละเจียวซิ่งเเทบจะใช้เวลาว่างทุกวันเฝ้าดูอยู่ในทุ่งนา แปลงดอกไม้ไม่มีต้นหญ้าสักต้น ดูเเลดีเป็นพิเศษ
ในเวลาว่าง เมื่อมีเวลา ทั้งสองจะเเวะมาที่บ้านตระกูลซูเพื่อดูว่ามีอะไรที่ต้องช่วยหรือไม่
ตอนนี้ธุรกิจยังไม่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ คำสั่งซื้อยังไม่มาก ดังนั้นงานจึงไม่เยอะ
ต้นกล้าข้าวในบ้านได้ถูกเพาะปลูกเเล้ว เเละต้นกล้าก็งอกออกมา พ่อซูวางเเผนที่จะปลูกนาข้าวสองสามหมู่ที่บ้าน น้าหยางหมิงเเละเจียงเซิงได้เข้ามาช่วย เเละในไม่กี่วันก็ปักดำนาข้าวสองสามหมู่นั้นเสร็จ
เมื่อซูหว่านกลับถึงบ้าน พ่อซูกับคนอื่นๆก็เพิ่งกลับจากทุ่งนาเช่นกัน น่องของพวกเขามีเเต่โคลน
ซูหว่านได้มอบกระดาษพู่กัน เเละสีที่ซื้อให้เเก่พี่ห้า เพื่อสนับสนุนธุรกิจวาดภาพขายของเขาอย่างเต็มที่
เมื่อเห็นกระดาษพู่กันเเละสีสันต่างๆเหล่านี้ ภายในใจของซูอี้รู้สึกซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณหวานหว่าน รอข้าหาเงินได้เมื่อไร จะให้เจ้าหมดเลย”
มือทั้งคู่ของเขารับสิ่งของเหล่านี้ เเละกอดมันไว้อย่างระมัดระวัง
ตอนนี้เขายังไม่มีความสามารถ ความฝันของเขายังคงต้องพึ่งซูหว่านสนับสนุน ดังนั้นเขาจึงคิดในใจเงียบๆว่า ในอนาคตเงินที่เขาหามาได้ทั้งหมดจะมอบให้ซูหว่านเป็นสินสอด
“ให้ครึ่งเดียวก็พอ อีกครึ่งที่เหลือ พี่ห้าเก็บไว้เเต่งพี่สะใภ้เถอะ”
ซูหว่านพูดแซวพร้อมกับหัวเราะ ทำให้ใบหน้าของซูอี้เเดงก่ำ
“พี่ห้า ขอให้ท่านประสบความสำเร็จนะ!”
ซูหว่านยกมือขึ้น ซูอี้เข้าใจความหมายของนางทันที จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปแปะมือกับนาง
ซูหว่านเคยบอกว่า นี่คือความลับเล็กๆน้อยๆที่พวกเขารู้กัน
ยิ่งไปกว่านั้น จนถึงตอนนี้ ซูหว่านก็กระทำการพิเศษแบบนี้กับเขาเท่านั้น พี่ชายคนอื่นๆยังไม่เคยมีเลย
เมื่อซูอี้คิดถึงตรงนี้ ในใจเขาก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ยากจะบรรยาย
จากนั้น เขาก็จับมือซูหว่านเเล้วเดินไปที่ห้องของตัวเอง
“หวานหว่าน ข้ามีอะไรให้เจ้าดู!”
ซูหว่านได้ยินดังนั้นก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมาก นางตามเขาเข้าไปในห้อง ก็เห็นเขาหยิบกระดาษวาดภาพปึกหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะให้ซูหว่านดู
มีทั้งหมดสิบกว่าเเผ่น ทั้งหมดเป็นภาพวาดของซูหว่าน ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง สีหน้าหรือรอยยิ้มที่เเตกต่างกัน ล้วนปรากฏอยู่บนกระดาษอย่างมีชีวิตชีวา
หลังจากสบู่สี่ร้อยก้อนบรรจุเรียบร้อยเเล้ว ซูหว่านก็เดินทางไปเมืองเซียงโจวพร้อมกับซูเฉินเเละซูอี้
…
ที่หมู่บ้านเฟิงเย่ว์ในจงโจว ภายในหอไจซิง เจียงอวี้ซึ่งสวมชุดคลุมสีม่วงลายกลมยืนอยู่ริมหน้าต่าง
ลูกน้องเข้ามาส่งจดหมาย เเละยื่นจดหมายที่หนามากซองหนึ่งให้เขา
“นายน้อย เซียงโจวมีจดหมายมาขอรับ”
เจียงอวี้รับจดหมายมา โบกมือให้คนถอยออกไป จากนั้นเปิดอ่านอย่างรีบร้อน
บนจดหมายหลายหน้าเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตระกูลซูเมื่อไม่นานมานี้อย่างละเอียดยิบ ทั้งเรื่องที่ซูหว่านเปิดไร่ดอกไม้ ขายสูตรซาฉีหม่า เเละเรื่องที่ญาติฝ่ายน้าของซูหว่านมาพักอยู่ชั่วคราว เรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ดูเเล้วไม่ใช่ฝีมือการเขียนของเฟิงอิ่งนั้นเเน่ๆ หมอนั่นไม่จู้จี้จุกจิกขนาดนี้หรอก
เจียงอวี้อ่านตั้งเเต่ต้นจนจบ สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ประโยคสุดท้ายที่ว่า
“เเม่นางซูถามนายท่าน วันหน้าจะได้พบกันอีกไหม”
เขาอ่านจบเเล้วอดหัวเราะเบาๆออกมาไม่ได้ ซึ่งเเสดงถึงความสุขที่ไม่อาจปกปิดได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...