“ส่งถึงตรงนี้เถอะ ท่านเเม่ หวานหว่าน พวกเจ้ารีบกลับไปเถอะ ข้างนอกแดดแรง”
หน้าประตูเมือง นอกเหนือจากครอบครัวของพวกเขาเเล้ว ยังมีฉากการลาจากเกิดขึ้นอีกหลายเเห่ง เพียงเเต่ภูมิหลังของเเต่ละครอบครัวแตกต่างกันไป จุดประสงค์ก็เเตกต่างกันไป
บางคนถูกบีบด้วยสถานการณ์ชีวิต ในขณะที่บางคนมาจากความรู้สึกรักชาติบ้านเมือง
“กลับมาอย่างปลอดภัยนะ ข้ากับพ่อของเจ้ายังมีพวกน้องสาว รอเจ้ากลับมานะ”
เเม่ซูไม่ได้พูดจาร่ำลาเศร้าโศกอะไรมาก อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายไปอย่างสบายใจ จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังถึงบ้านเมื่ออยู่ในค่ายทหาร
พี่น้องหลายคนผลัดกันบอกลาซูเฉิน ซูเฉินก็กำชับพวกเขาเล็กน้อย ในห่อผ้าของซูเฉินมีเพียงเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไม่กี่ชุด ที่เหลือเป็นของที่ซูหว่านเตรียมให้ จัดไว้อย่างเรียบร้อย
ข้อดีของการมีน้องสาวก็คืออย่างนี้เเหล่ะ ที่สำคัญคือการมีน้องสาวอย่างซูหว่าน
สุดท้าย ซูเฉินได้ยิ้มเเละพูดทิ้งท้ายให้เเม่ซูกับซูหว่านประโยคหนึ่งว่า
“ข้าไปเเล้ว รอข้ากลับมานะ”
พูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปยังทิศทางของค่ายทหารใหม่ เดินไปไกลเเล้วก็ยังหันกลับมามองครอบครัวเป็นครั้งคราว พวกเขายังคงยืนส่งเขาอยู่ที่นั่น
เขาก็ค่อยๆมองไม่เห็นสีหน้าของพวกเขาเเล้ว
แต่การที่เขาหันกลับมามองครอบครัวเป็นครั้งคราว ก็เเสดงถึงความผูกพันธ์ที่เขามีต่อครอบครัว
ครอบครัวซูยืนอยู่ที่หน้าประตูเมือง มองดูร่างของซูเฉินค่อยๆเลือนหายไปจนลับตา ในที่สุดแม่ซูก็ทนไม่ไหว ยืนพิงตัวลูกสาวร้องไห้อย่างเศร้าโศก
หลังจากกลับมา นางป่วยไปหลายวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ซูหว่านจึงอยู่เป็นเพื่อนแม่สองสามวัน
เมื่อน้าชายได้รับข่าวว่าซูเฉินเข้าร่วมกองทัพ คนก็จากไปเสียเเล้ว เรื่องราวเกิดขึ้นกระทันหันเสียจนเขาตั้งตัวไม่ติด
ตอนนี้ซูเฉินกำลังเดินทางอยู่ในกองทัพ สภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก อากาศร้อนอบอ้าว โชคดีที่มีรองเท้าที่น้องสาวเตรียมให้ ทำให้เท้าของเขาสบายกว่าคนอื่นมาก
เขาไม่เคยเดินติดต่อกันนานขนาดมาก่อน พักสามครั้งต่อวัน ส่วนเวลาที่เหลือก็เร่งเดินทาง เท้าของหลายคนมีตุ่มพองที่ฝ่าเท้าเเละปลายเท้า เเต่ก็ต้องกัดฟันทน
พวกเขาทั้งหมดเป็นพลทหารใหม่ที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนมาก่อน ความอดทนย่อมไม่เท่าทหารเก่าเป็นเรื่องธรรมดา
…
ปิงจีถังตั้งอยู่ตรงข้ามไม่ไกลจากอวี้เหยียนถัง เเต่เมื่อดูจากการตกเเต่งเเล้ว กลับเป็นร้านที่โดดเด่นที่สุดบนถนนสายนี้
ไม้สีเเดงด้านนอกถูกทาสีเเดงใหม่ ทำให้ดูสว่างเเละสะดุดตากว่าอาคารใกล้เคียงมาก
ตัวอักษรสามตัวคำว่าปิงจีถังถูกทำขึ้นอย่างสง่างามเเละสวยงาม กล่าวโดยรวมคือ ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษ
ร้านมีทั้งหมดสองชั้น ยาบำรุงผิวปิงจีอวี้กู่เเละดินสอเขียนคิ้วหอยทาก รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆจะอยู่บนชั้นสอง ส่วนสินค้าทั่วไปจะขายอยู่ที่ชั้นหนึ่ง
ประการเเรก นี่คือการแบ่งระดับของสินค้า ประการที่สอง ยังเป็นการตอบสนองความรู้สึกเหนือกว่าของสตรีร่ำรวยเหล่านั้น เมื่อประสบการณ์การการใช้จ่ายของพวกนางได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พวกนางก็จะกลายเป็นลูกค้าประจำเเละกลับมาซื้อซ้ำ
ชิวเหนียงมีรสนิยมที่ดีมาก เพียงเเค่ยืนมองปิงจีถังจากภายนอก ก็ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างามเเละมีระดับ
หนำซ้ำยังมีรายละเอียดหลายอย่างที่ควบคุมได้ดีเป็นพิเศษ เช่นชาที่ใช้ต้อนรับลูกค้าในร้าน ล้วนเป็น ชาขิงพุทราจีนลำไย ซึ่งเน้นการดูเเลสุขภาพของผู้หญิงโดยเฉพาะ
นอกจากนี้นางยังจัดให้มีมุมแต่งหน้าในร้านตามคำเเนะนำของซูหว่าน ซึ่งมีลิปสติกเเละเครื่องสำอางหลากหลายชนิด ให้ลูกค้าผู้หญิงใช้เติมเเต่งได้
หากเป็นลูกค้าระดับสูง ชิวเหนียงจะจัดให้แม่นมที่มีทักษะการแต่งหน้าสูงมาก มาให้บริการจัดเเต่งทรงผมหรือเเต่งหน้าให้ฟรีหนึ่งครั้ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...