ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องของความรักจริงๆที่ทำให้คนหลงใหลจนยากจะถอนตัวขึ้น นางหัวเราะเยาะซูหว่านอย่างไม่ไว้หน้า
ซูหว่านเองก็ปล่อยให้นางหัวเราะตน เพราะตอนที่นางคบกับพี่เขยก็แสดงอาการออกนอกหน้ายิ่งกว่าตัวเองเสียอีก!
……
ทางฝั่งชายแดนเพิ่งจะเสร็จสิ้นการสู้รบลง ทหารกำลังช่วยกันเก็บกวาดสนามรบอยู่
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันมาหลายเดือน ในที่สุดก็เปิดฉากสู้รบกันแล้ว ทั้งสองสู้กันติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากและมีเสียงร้องคร่ำครวญดังไปทั่ว
ทหารฝ่ายศัตรูแต่ละคนล้วนตัวใหญ่สูงโปร่งกันทั้งนั้น พวกเขามีกำลังพลที่แข็งแกร่ง มีเพียงจำนวนพลเท่านั้นที่มีน้อยกว่า แต่ก็สามารถสู้กับทหารจิ้นได้อย่างสูสี และฝ่ายของพวกเรากลับมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากกว่าเล็กน้อย
สู้รบกันอยู่หลายครั้งและก็เป็นเพียงการลองเชิงและประเมินกำลังของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น เมื่อเห็นว่าพอใจแล้วก็จะถอยทัพกลับ
เจียงอวี้กับซูเฉินถูกเลื่อนยศเป็นนายร้อยอย่างรวดเร็วเพราะสังหารศัตรูได้เป็นจำนวนมาก ชุดเกราะของพวกเขามีเลือดเปื้อนอยู่ แต่ก็แยกไม่ออกว่าเป็นเลือดของศัตรูหรือของพวกเดียวกัน
แต่ทว่าช่างน่าขำคุณชายรองของเจียงกั๋วกงเสียเหลือเกินที่หนีทัพกลางสนามรบ ทำให้ถูกลงโทษให้ไปอยู่ในฝ่ายครัวของค่ายแทน ทหารที่เคยประจบประแจงเขาต่างก็ทำเป็นมองไม่เห็นหัวเขา เมื่อเขาล้มก็ไม่มีใครสนใจเขาอีกต่อไป
ในขณะนั้นเองทางราชสำนักมีข่าวส่งมาว่า องค์ชายห้าและองค์ชายเจ็ดจะอาสามาออกรบที่ชายแดน ฝ่าบาททรงอนุญาตแล้วและอีกไม่กี่วันองค์ชายทั้งสองก็จะเดินทางมาที่ชายแดนเพื่อร่วมรบด้วย
แต่ยังไงพวกเขาก็คือองค์ชาย จึงไม่ต้องทำตามกฎของกองทัพตระกูลเจียง เมื่อมาถึงก็จะได้รับตำแหน่งแม่ทัพและนายพันเลยทันที ซึ่งฝ่าบาทเป็นคนแต่งตั้งเอง
พวกเขาเป็นเชื้อพระวงศ์แต่กำเนิด แม้ว่าจะอยู่ในค่ายทหารก็คงไม่ต้องมากินอยู่ร่วมกับทหารคนอื่นๆหรอก หรือพูดให้ถูกก็คือก็แค่มาลองสัมผัสประสบการณ์ในชีวิตเฉยๆ
เจียงอวี้และซูเฉินไม่ได้คิดอะไรมาก การมาของพวกเขาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตัวเอง องค์ชายห้ามู่หรงเซิงเขามีวรยุทธ์ติดตัวอยู่ มาครั้งนี้อาจจะสามารถสร้างผลงานไปได้บ้าง แต่องค์ชายเจ็ดมู่หรงไหวก็มาด้วยนั้น เพราะอะไรกัน?
มู่หรงไหวเป็นองค์ชายคนเล็กของฝ่าบาท แม้พระสนมเฉินผู้เป็นมารดาจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งพระสนมเอกทั้งสี่ แต่ตอนนี้นางเป็นสนมที่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมากที่สุด แม้แต่ฝ่าบาทยังเมตตาองค์ชายเจ็ดเป็นพิเศษ
ปัจจุบันมู่หรงไหวอายุเพียงสิบเจ็ดปี และชื่อเสียงที่มีในเมืองหลวงก็คือเป็นองค์ชายที่สำมะเลเทเมา เป็นคนที่แบบว่าไม่เอาไหน วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสำราญไปทั่ว
เขานะหรือจะอาสามาออกรบที่ชายแดนได้?
นี่มันไม่ไร้สาระไปหน่อยเหรอ? แค่ให้เขายกดาบให้ได้ก็ถือว่าดีแล้ว!
แต่นี่คือการตัดสินใจของเบื้องบน พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...