ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ นิยาย บท 36

สรุปบท บทที่ 36 เอาแต่ใจและอ่อนโยน: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+

อ่านสรุป บทที่ 36 เอาแต่ใจและอ่อนโยน จาก ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋

บทที่ บทที่ 36 เอาแต่ใจและอ่อนโยน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 36 เอาแต่ใจและอ่อนโยน

หลังจากที่ออกจากออฟฟิศของจางหงหวู่ ผมก็ลงไปชั้นล่างกับหัวหน้าหนักงานรักษาความปลอดภัย

เขาบอกกับผมว่า มีแขกท่านหนึ่งดื่มไปมาก มาที่นี่เพื่อหาผู้หญิง อธิบายกันอยู่นานกว่าจะเข้าใจกันว่าที่นี่ไม่มีผู้หญิง ไม่คิดว่าพอผ่านไปได้สักครู่เขาก็ออกมาจากห้องส่วนตัว ลากพนักงานหญิงเข้าไปในห้อง ฉีกเสื้อผ้าของเธอจนขาดริ้ว โชคยังดีที่พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าไปได้ทันเวลา ถึงได้ไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้น

“ผมไม่รู้ว่าคุณเอาความมั่นใจที่ไหนมากล่าวเห็นดีเห็นชอบให้ตัวเองได้ โชคดีที่พวกคุณชุดรักษาความปลอดภัยเข้าไปทัน แต่เดิมเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ขัดขว้างได้ทันเวลาก็นับว่าสำเร็จแล้วอย่างนั้นหรือ”

ผมสอนหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยไปยาวเหยียด เขายังไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์

ไม่ต้องคิดผมก็รู้ ในใจของเขาตอนนี้คงกำลังด่าผมอยู่ ด่าว่าผมใช้อำนาจคนอื่นมาอวดเบ่ง ด่าว่าผมใช้อำนาจของผู้หญิง

แต่ผมก็ขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจเขา ทำเพียงตรงไปยังห้องที่เกิดปัญหา

ในตอนนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยสี่คนก็กำลังยืนคุ้มกันอยู่ด้านหน้าพนักงานหญิง พนักงานคนนั้นผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ารุ่งริ่ง แม้แต่ถุงน่องเองก็ถูกฉีกขาดด้วยเช่นกัน

บนโซฟานั้นมีชายวัยกลางคนสี่คนนั่งอยู่ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และดูอึดอัด ดูจากการแต่งกายของพวกเขาแล้วก็ดูเหมือนคนที่เกือบจะประสบความสำเร็จ ทำไมถึงเรียกว่าคนที่เกือบจะประสบความสำเร็จหรือ นั่นก็คือมีเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้เตรียมตัวเป็นคนรวย หรืออธิบายได้ว่า ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรให้ดี

“นายคือเจ้าของร้านหรือ ฉันมองอย่างไรก็ไม่เหมือน ฉันมองว่านายเหมือนคนเก็บขยะมากกว่า”

ชายอ้วนหัวล้านที่นั่งอยู่ที่โซฟาตรงหน้าเอ่ยจบ ก็หยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมา และโยนมาทางผม

“เบียร์หมดแล้ว เอากระป๋องไปขายเอาเงินสิ”

คำพูดของชายอ้วนหัวล้าน ทำให้อีกสามคนผสมโรงหัวเราะขึ้นมา หนึ่งในนั้นหัวเราะจนสำลักจนไอออกมา แม้จะไปแต่เขาก็ยังหัวเราะ

ผมกำกระป๋องเบียร์ไว้ในมือ และหันไปโบกมือให้กับพนักงานหญิง

เธอเดินเข้ามาใกล้ ผมชี้ไปยังคนสี่คนที่อยู่ตรงข้าม “พวกเขา ใครเป็นคนทำ”

“พี่เฟิง ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ”

พนักงานหญิงก้มหน้าหลบ ใบหน้าดูไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพูดเช่นนั้น

ผมไม่รู้ว่าประโยคนี้ใครเป็นคนสอนเธอ แต่ไม่ต้องคิดก็มั่นใจได้ว่าหัวหน้ารักษาความปลอดภัยต้องกำจัดคนเหล่านี้ไม่ได้แน่ๆ

“เธอพูดมาว่าใครทำ”

“พี่เฟิง ไม่จำเป็นจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ แต่... พวกเขามีเงิน ต่อให้เจ้านายลงมา ก็ไม่แน่เลยว่าจะจัดการได้”

พนักงานหญิงยังอยากพูดอะไรอีก แต่ผมไม่ต้องการให้เธอพูดอะไรไร้สาระอีก และดูเหมือนว่าชายอ้วนหัวล้านตรงหน้าจะคิดเหมือนผม

เขาตบโต๊ะดัง ปึง ขวดเหล้า จานผลไม้ต่างตกลงไปที่พื้น

“กูทำเอง ทำไม”

“KTVดี้เล่สิงซิงที่ใหญ่ที่สุดในเมือง กูคือเลี้ยงแขก ก็ต้องมายังKTVที่ใหญ่และดีที่สุด แต่แขกที่ของเราเป็นแขกที่มีเกียรติสูงส่ง พวกเราก็ต้องหาผู้หญิงมาคอยบริการ พวกมึงเป็นKTVที่ไม่มีผู้หญิง กูเข้าใจ แต่พวกมึงจะเข้าใจกูกันบ้างได้ไหม ทำธุรกิจมันต้องยืดหยุ่น ไม่รู้จะออกไปหาผู้หญิงได้ไหน ก็ต้องมาคอยรอของเสียแบบนี้ไง...”

ชายอ้วนหัวล้านหัวเสีย คำรามสาปแช่งเสียยกใหญ่ หัวหน้าพนักงานพร้อมลูกน้องอีกสี่คนยืนรื่นเริงอยู่ที่เดิม ราวกับกำลังรอดูเรื่องตลก

ผมไม่รู้ว่าหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยแบบนี้จะมีประโยชน์อย่างไร

ดึงพนักงานหญิงมายังเบื้องหน้าของชายอ้วนหัวล้าน ผมกล่าวว่า “พูดว่าขอโทษ”

หลังจากนั้น พนักงานหญิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างขลาดกลัว “ขอทะ...”

คำว่า โทษ ยังไม่ทันออกจากปาก ผมก็พลิกใช้หลังมือตีเข้าที่ปากของเธอสองครั้ง

“โง่ ผมให้เขาขอโทษเธอ เธอถูกเขากระชากเสื้อขาด เธอยังจะขอโทษเขาอีกหรือ เป็นประสาทรึ”

ผมด่าทอพนักงานหญิง ชายอ้วนหัวล้านที่อยู่ข้างๆ ราวกับได้ยินเรื่องที่น่าตลกที่สุดในโลก จึงหัวเราะออกมาเสียงดัง

“น้องชาย นายน่าขำว่ะ กล้าจะให้กูพูดขอโทษ มึงรู้ไหมว่ากู...”

“ผมไม่สนว่าคุณเป็นใคร”

“ไวน์แดงสองหมื่น รวมกับค่าของที่ถูกพวกคุณทำลายหนึ่งหมื่น ทั้งหมดสามหมื่น”

จากนั้นก็มีคนรีบจ่ายเงิน ในไม่ช้าก็กลับมาหาผมพร้อมกับใบเสร็จชำระเงินแบบเครดิตสามหมื่นหยวนที่สั่นสะท้าน และส่งใบเสร็จให้กับผม

“ออกไป”

ทั้งสามประคองชายอ้วนให้เดิน หลังจากนั้นผมก็กระโดดขึ้นโต๊ะ ใช้พลังหมดทั้งร่าง และทุบขวดไวน์แดงเข้าที่หัวของชายอ้วนหัวล้านนั้นอย่างรุนแรง

เสียง เพล้ง ดังขึ้น ในที่สุดขวดไวน์แดงก็แตก

ชายอ้วนหัวล้านกุมหัวและร้องโอดโอย เลือดไหลซึมมาตามง่ามนิ้ว

ทั้งสามมองผมอย่างหวาดกลัว ผมโยนขวดที่แตกนั้นออกไป “ตอนนี้ก็ออกไปได้อย่างสบายใจได้แล้ว”

ใช้กระดาษทิชชูเช็ดไวน์แดงที่มือ หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปใกล้หาหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย

สูงประมาณหนึ่งเมตรเก้ากว่าๆ ร่างกายบึกบึน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผมก็เหมือนแค่ลูกไก่ตัวเล็กตัวหนึ่ง

“ผมรู้สึกว่าร้านนี้จะมีหรือไม่มีคนดูแลแบบนาย อย่างไรคนที่ถูกรังแกก็ยังคงถูกรังแก คนที่ต้องขอโทษก็ยังต้องขอโทษ”

“พี่เฟิงผมผิดไปแล้ว ผม...”

ยัดทิชชูที่เช็ดมือใส่ปากของเขา เพื่อให้เขาหยุดพูด ผมตบใบหน้าของเขา และออกไปจากห้องไป

เมื่อกลับมายังออฟฟิศของจางหงหวู่ ผมก็แตะหน้าผากของเธอ หลังจากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมา

ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ “พี่ ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่ด้วย ผมจะพาไปโรงพยาบาลเอง”

มุมปากของจางหงหวู่ยกขึ้นมาน้อยๆ หลังจากนั้นก็หลับตาลงอย่างแผ่วเบา และกดแก้มอิงแอบหน้าอกของผม

“โอเค”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+