สรุปเนื้อหา บทที่ 38 พูดไปเร็วว่ามีปัญหา – ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋
บท บทที่ 38 พูดไปเร็วว่ามีปัญหา ของ ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 38 พูดไปเร็วว่ามีปัญหา
กำชับให้จางหงหวู่พักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้ว ผมก็ติดต่อไปหาหวูเจิ่นดง
“ไอ้หมา ทำอะไรอยู่”
“ไม่ได้ทำอะไร อยู่ที่บ้าน”
หลังจากที่พูดคุยกันเล็กน้อย ผมก็บอกเขาว่าเขาจะทำงานที่ดี้เล่สิงซิงคอยดูแลสถานที่ เขาถามผมว่าเนื้อหาของงานมีอะไรบ้าง ผมบอกว่าหากมีคนก่อเรื่องให้ซัดได้เลย เขาไม่ถามเรื่องเงินเดือนด้วยซ้ำ และตกลงทันที
งานที่ได้ต่อยตีคนโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล เขาค่อนข้างพอใจทีเดียว
ผมซื้อของเล็กน้อย ขับรถกลับบ้านเพื่อมาดูพ่อแม่ หลังจากนั้นก็ไปรับหวูเจิ่นดง และเดินทางกลับ
“เยี่ยมเลยเฟิงจี่ ขับฮัมเมอร์ด้วย ของใครกัน ไม่ใช่ว่าไปขโมยใครมาหรอกนะ”
ผมชี้ไปทางกล่องที่อยู่ด้านหลัง เขาเปิดออก หลังจากนั้นก็หยิบใบขับขี่ขึ้นมา “แม่งเอ๊ย เยี่ยมไปเลยเพื่อน”
“มือสองเอง เยี่ยมอะไรกัน”
“นั่นก็เยี่ยมแล้ว ห้าหกแสนใช่ไหม”
ผมพยักหน้า ไม่ได้บอกราคาจริงให้เขารู้ มันไม่จำเป็น
หลังจากนั้น เขาก็ถามผมว่าทำงานอะไร ทำไมถึงมีเงินขนาดนี้
ผมไม่ปกปิดเขา และบอกกับเขาไปตามจริง
หวูเจิ่นดงตื่นตะลึง “เพราะร่างของนายมันเล็ก พวกงานแบกอิฐก็คงไม่สนใจนายกัน นายเลยไปเป็นโฮสต์หรือ เช่นนั้นฉันไม่เป็นผู้คุมแล้ว ไปทำกับนายดีกว่า นายมีเงินถึงขนาดซื้อฮัมเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดฉันก็สามารถซื้อรถBMWได้เลยไม่ใช่รึ”
รถBMWหนึ่งคัน เขาก็กล้าคิดได้...
ผมอธิบายให้หวูเจิ่นดงฟัง “รูปร่างหน้าตาคือเรื่องเล็ก เงินที่ได้มาจริงมันก็ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้แตกต่างจากงานขนอิฐที่นายพูดมาเลย คนที่จะเป็นโฮสต์จริงๆ ต้องใช้หัว ฉันคือคนที่ทำงานโดยใช้สมอง ไม่เหมือนกับนายที่ใช้แรงในการทำงาน”
“แล้วอะไรที่ไม่เหมือนกัน”
ผมนึกคิด และบอกกับเขาไปสองเรื่อง เรื่องที่หนึ่ง เขายังเป็นชายที่บริสุทธิ์ เรื่องที่สอง ฮัมเมอร์คือของผม
หวูเจิ่นดงเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าในท้ายที่สุด “ไม่เหมือนกันจริงๆ ด้วย ฉันเป็นคนคอยดูสถานที่ดีกว่า”
ระหว่างทาง ผมคุยกับเขาเรื่องจางหงหวู่
“ดงจี่ ช่วยฉันปกป้องจางหงหวู่ของฉันหน่อย เธอคือผู้หญิงที่ฉันจะใช้ชีวิตไปด้วยทั้งชีวิต” กล่าวจบ ผมก็เหลือบมองหวูเจิ่นดงที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ “ฉันเชื่อใจนายได้ใช่ไหม”
หวูเจิ่นดงในตอนนั้นดูไม่มีความสุขเท่าไหร่ “นายเห็นฉันเป็นคนอย่างไรกัน หากฉันทำเรื่องที่ไม่ดีต่อนาย ฉันจะทุบให้เละ โดยที่นายไม่ต้องลงมือเลย”
ผมเหลือบมองหวูเจิ่นดง “คิดอะไรอยู่กัน ฉันให้นายปกป้องเธอ ไม่ให้เธอมีบาดแผลอะไร”
หวูเจิ่นดงเล่นกับเบาะที่นั่งไฟฟ้า เล่นมันราวกับของเล่นไขอย่างสนุกสนาน “ถ้าเป็นเรื่องนี้นายสบายใจได้เลย จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่”
ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ผมก็สบายใจ
ในตอนที่ผมกำลังคุยกับเขา ทันใดนั้นทางแยกข้างหน้าก็มีรถบรรทุกคันใหญ่วิ่งออกมา ปิดทางไปเสียครึ่ง เป็นการปิดทางจราจรเบื้องหน้าโดยสมบูรณ์
หลังจากนั้นข้างหลังก็มีรถโตโยต้าคันหนึ่งจอดอยู่ และขว้างทางถอยของผม
ทันใดนั้น ก็มีคนลงมาจากรถบรรทุกเจ็ดแปดคน และก็มีคนอีกหกเจ็ดคนลงมาจากรถโตโยต้าที่อยู่ด้านหลัง ในมือคนสิบกว่าคนนั้นถือมีด และพุ่งมาทางผมด้วยท่าทีดุร้าย
“มาหานายนี่ นายไปนอนกับเมียใครแล้วเขาจับได้เปล่า นี่จะเอาถึงชีวิตเลยนะ”
“พูดมากจริงๆ เลย”
เหลือบไปเห็นชายอ้วนหัวล้านที่ตอนนี่มีผ้าก๊อซพันอยู่ที่หัวลงมาจากทางที่นั่งข้างคนขับ ผมจึงเอ่ยขึ้น “ลงมือเต็มที่ แต่อย่าหนักเกินไปล่ะ ไม่ต้องสนเรื่องค่ารักษาพยาบาล”
พอกล่าวจบ ผมก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย
แน่นอนว่าหลังจากที่หวูเจิ่นดงลงจากรถไปก็ปรี่เขาหาฝูงคนทันที หลบหลีกการโจมตีของท่อเหล็ก งอขาและเตะใส่พวกอันธพาลนั้นอย่างแรง
ชายที่ดุร้ายนี้เพิ่งจะผ่านสถานการณ์สิบกว่าๆ ต่อหนึ่งมา ขนบนร่างยังไม่หายไปแม้แต่เส้น มีเสียงแตกเสียงหักขึ้นมา จนพบกลุ่มอันธพาลที่เขาพามานั้นกลายเป็นของไร้ค่าไปทันที ที่ขโมยท่อนเหล็กมาตอนนี้เพื่อทำอะไร ก็เพื่อกะโหลกของเขาน่ะสิ
“มีปัญ... ไม่ใช่ๆ ไม่มีปัญหาๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน”
ผมให้เลขบัญชีกับชายอ้วนหัวล้านไป หลังจากนั้นเขาก็รีบโทรให้คนโอนไปให้
ในตอนที่ผมได้รับข้อความมา ก็เตะเข้าหนึ่งที และพาหวูเจิ่นดงขึ้นรถและจากไป
“เดี๋ยวจะโอนให้นายหนึ่งแสน ส่วนอีกหนึ่งแสนฉันจะเอามาซ่อมแซมรถ และช่วงนี้ค่อนข้างขัดสน รถคันนี้ไม่ผลาญเชื้อเพลิง แต่ผลาญเงิน เหยียบคันเร่งหนึ่งครั้งก็เสียไปหลายเหรียญแล้ว”
หวูเจิ่นดงก็ไม่เกรงใจอะไรผม เพียงพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็ดูตื่นเต้นอยู่มาก อย่างได้ก็มีเงินแล้ว ทั้งยังพึมพำไม่หยุดว่าเงินหนึ่งแสนนี้อยู่ที่บ้านต้องใช้เวลาปลูกกี่ปีถึงจะได้กัน
หลังจากที่ตื่นเต้น เขาก็เอ่ยถามผมขึ้นมา “เฟิงจี่นี่คงไม่ใช่การขู่กรรโชกใช่ไหม หากเขาไปแจ้งความอีก”
ผมกล่าวขำๆ “ไม่มีปัญหา หากเขาแจ้งความ ฉันจะไปเข้าคุก แล้วนายก็อยู่ข้างนอก...”
หวูเจิ่นดงพยักหน้า “เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ คุณธรรมสูงส่ง”
“นายคอยอยู่ข้างนอกฆ่าเขา”
หวูเจิ่นดงตัดสินใจไม่ทำในทันที “เช่นนั้นฉันจะเข้าคุกด้วย”
เรื่องตลกก็คือเรื่องตลก แต่พอคุยขำขันกันแล้ว หวูเจิ่นดงก็ยังกังวลอยู่ดี
“เรื่องนี้นายสบายใจได้ ไม่มีปัญหา...”
ผมอธิบายหลายๆ อย่างกับหวูเจิ่นดง แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่เข้าใจ
ผมเองก็ไม่ได้บังคับให้เขาเข้าใจ เพียงแค่ให้เขารู้ ว่าเงินส่วนนี้เขาสามารถนำไปใช้ได้อย่างสบายใจ
บนโลกนี้มีเรื่องราวมากมาย ไม่เข้าไปใกล้ จะไม่มีทางได้รับรู้การมีอยู่ของเรื่องแปลกนี้ตลอดไป...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+