ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ นิยาย บท 45

สรุปบท บทที่ 45 ล่าถอยเพื่อเอาชนะด้วยความเสียใจ: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+

อ่านสรุป บทที่ 45 ล่าถอยเพื่อเอาชนะด้วยความเสียใจ จาก ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋

บทที่ บทที่ 45 ล่าถอยเพื่อเอาชนะด้วยความเสียใจ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 45 ล่าถอยเพื่อเอาชนะด้วยความเสียใจ

ในตอนที่ผมรุกจูบโจงเฉียวเฉียวอีกครั้ง เธอไม่ได้ขัดขืน ยอมรับกับการกระทำนั้น และค่อยๆ สอดรับขึ้นมา

ผมจูบเธออย่างลึกซึ้ง ริมฝีปาก ซอกคอ ติ่งหู รวมไปถึงไหล่ทั้งสอง ทุกส่วนนั้นต่างกระตุ้นให้ฝ่ายหญิงมีอารมณ์ร่วมได้ และมีรอยจูบที่ผมมอบให้แก่เธอ

ท่ามกลางเสียงหอบ ผมพาดผ่านลำคอขาวของเธอ จูบที่เนินอก และผ่านมายังหน้าอกที่อวบอิ่มคู่นั้น

“เฉินเฟิง ไม่เอา...”

โจงเฉียวเฉียวกอดหัวของผมเอาไว้เบาๆ กลิ่นกายที่อ่อนหวานจนยากที่จะหยุด และพูดได้อย่างยากลำบาก

ผมใช้หนึ่งมือกุมภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ทางด้านขวาเอาไว้เบาๆ อวบอิ่ม นุ่มนิ่ม เต่งตึง และร้อนเล็กน้อย ผมลูบไล้เบาๆ อ่อนโยนอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแต่จะทำให้เธอรู้สึกสบาย แต่ไม่ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนกเกินไป และไม่ก่อให้เธอเกิดการต่อต้านขึ้น

“เฉินเฟิง....”

ผมไม่รู้ว่าริมฝีปากที่น่าดึงดูดนั้นเรียกชื่อผมทำไม และผมเชื่อแม้แต่เจ้าของมันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเรียกชื่อของผม บางทีอาจเพราะอยากปฏิเสธ หรือบางทีอาจจะอยากขอร้องให้ผมไปต่อ ใครจะรู้กันล่ะ แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรผมก็จะทำต่อไป

หลังจากที่ฝ่ามือสัมผัสได้ถึงความเต่งตึงที่ส่งผ่านมา ผมก็ครอบครองความอวบอัดข้างซ้ายของเธอ

ทันทีที่ครอบครองลงไป โจงเฉียวเฉียวก็ร้องครวญครางขึ้นมา ในน้ำเสียงนั้นมีความปรารถนา ความคลุมเครือที่ซ่อนเร้น ทั้งยังมีความสบายและความสุขปะปนอยู่ในนั้นด้วย...

ไม่ว่าจะเป็นการดูดดึง การหยอกล้อ การพลิกแพลงภายในเวลาไม่กี่นาที ร่างที่ยั่วยวนของโจงเฉียวเฉียวก็เริ่มดีดดิ้นราวกับปลาดุก

เหมือนว่าเธอนั้นจะทนไม่ไหวแล้ว ปากเล็กนั้นเริ่มร้องครางดังขึ้นมาเรื่อยๆ

ผมฟังออกว่าเธอนั้นพยายามอดกลั้น แต่ก็ทำได้ไม่สำเร็จ กลับยิ่งทำให้น้ำเสียงที่ถูกอดกลั้นนั้นดูเซ็กซี่ และเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างเต็มเปี่ยม

“เฉียว ช่วยผมถอดเสื้อผ้าหน่อย”

ผมกล่าวอย่างไม่เต็มเสียงนัก ในขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปที่ขาสวยราวกับหยก

ขายาวเรียวสวย ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยสักนิด ไม่ได้ต่างจากขาของนางแบบเลยสักนิด

จากน่องขาไปจนถึงต้นขา ในที่สุดหลังจากที่อ้อยอิ่งอยู่นาน ผมก็สัมผัสไปที่ที่โจงเฉียวเฉียวพยายามจะห้ามปราม สถานที่ปากทางแห่งความปรารถนาของเธอ ขณะเดียวกันปราการสุดท้ายที่น่าอายของเธอ

“เฉินเฟิง ไม่ต้อง ไม่ได้จริงๆนะ อ๊า”

ไม่ต้องเข้าไป หรือไม่ต้องถอดเสื้อผ้ากัน

แต่อย่างไรผมก็ทนไม่ไหวแล้ว

วินาทีต่อมาที่ผมลงนิ้ว โจงเฉียวเฉียวแทบคลั่ง ร้องครวญครางอย่างหนัก ร่างอรชรนั้นกำลังดีดดิ้นอย่างรุนแรง ต้องการปิดเพื่อขัดขวาง หรือเปิดเพื่อตามใจ...

ประมาณห้าหกนาทีให้หลัง นิ้วมือขอผมไม่ได้เข้าไป โจงเฉียวเฉียวก็แตกสลายในที่สุด ร่างอรชรสั่นเทา มองดูแล้วราวกับมีอาการสั่นขึ้นมา

“สบายไหม”

ไม่รู้ว่าครางรับหรือเป็นคำตอบ ปากเล็กที่น่าหลงใหลนั้นก็มีเสียง อื้อ ดังออกมา

เช่นนั้นผมจะถือว่าเป็นคำตอบก็แล้วกัน

ดังนั้น ผมจึงแยกขาของเธอออกอย่างอ่อนโยน สอดหัวเข้าไป ท่ามกลางเสียงห้ามด้วยความอับอายของเธอ...

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งห้องนั้นต่างเต็มไปด้วยบรรยากาศที่หอมหวาน

โจงเฉียวเฉียวตัวนิ่ง ใบหน้าเล็กแดงเถือกราวกับมีเลือดออก แม้แต่ผ้าปูก็เปียกเป็นผืนใหญ่

เมื่อผ่านร่างอรชรที่อ่อนนุ่มของเธอ ลิ้นของผมก็เหมือนได้รับการฝึกฝนครั้งยิ่งใหญ่ ในขณะเดียวกัน ชิ้นส่วนบนร่างนั้นก็ใกล้จะปลดปล่อยออกมาแล้ว เมื่อคืนก็อดทนกับจางหงหวู่มาทั้งคืน และนี่ก็ต้องมาอดกลั้นอีกครึ่งชั่วโมง

ดังนั้นผมจึงตระหนักได้ถึงความเสียใจ เดินออกมาโดยไม่ได้เจตนา กลับกลายเป็นสร้างแรงดึงดูดที่ยิ่งกว่า

นี่ มันอาจจะเหมือนกับสำนวนที่ว่า ล่าถอยเพื่อเอาชนะ อย่างไรก็ตามผมเพิ่งจะได้เข้าประตูไปก็เท่านั้น

ในตอนที่ออกมาจากที่พักของโจงเฉียวเฉียว ผมนั่งอยู่บนรถและสูบบุหรี่ กักเก็บอารมณ์เอาไว้ หลังจากนั้นก็หยิบไก่และน้ำตาลแดงที่ได้ฟรีจากซูเปอร์มาเก็ตและจากไป

ขณะที่ผ่านสำนักงานใหญ่บริษัทตระกูลหยู่ที่หยู่ถิงทำงานอยู่ ผมโทรหาเธอ แต่เธอไม่รับ

โชคดีที่พบกับดงป๋อชวน ดังนั้นผมจึงวานให้เขาเอาก้อนน้ำตาลทรายแดงนี้ให้หยู่ถิง

กลับไปถึงที่พักก็สิบเอ็ดโมงแล้ว ผมรีบสับไก่เนื้อขาว ใส่เครื่องปรุงลงไปทั้งหมด ใส่กล่องและออกไป

ระหว่างทาง ผมโทรหาจางหงหวู่ ห้ามไม่ให้เธอทานข้าวเที่ยง ผมบอกว่าผมห่อข้าวกับอาหารไปให้เธอแล้ว เธอรับคำ หลังจากนั้นคุยกับเธอไปอีกไม่กี่ประโยค และผมก็วางสาย

ขึ้นรถและแล่นมาตามเส้นทาง สิบนาทีต่อมาก็ได้มาถึงหลุดขุดที่ถูกทิ้งร้าง

หวูเจิ่นดงกำลังง่วนอยู่กับกาต้มน้ำในหม้อให้เดือด แต่ก็ถือว่าอยู่ในเวลาที่เพียงพอเหมาะสม

“นายเป็นบ้าหรือ วันที่อาการร้อนขนาดนี้ยังคิดจะทำอาหารเอง ฮัมเมอร์นั่นนายซื้อมาเองจริงใช่ไหม ทำไมมีเงินมากขึ้นแล้วมันตระหนี่มากขึ้นกว่าเดิมกัน เมื่อก่อนที่นายไม่มีเงินนายยังไม่ตระหนี่เท่านี้เลย...”

ไอ้หมายังคงเห่าไปเรื่อย ผมขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขา เพียงเทไก่สับที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วลงไป

ทั้งทำความสะอาดทั้งอุ่นน้ำมัน ไม่ได้ตกขาดขั้นตอนที่ยุ่งยากนั้นไปแม้แต่นิด หลังจากที่ผ่านไปสองชั่วโมงเต็ม กลิ่นหอมของซุปไก่ก็ลอยออกมาจากหม้อ

“ได้ที่แล้ว ที่ถ้ามีเบียร์สดมาอีกสักถังนะจะสุดยอดเลย ซุปไก่ร้อนๆ เบียร์สดอีกเล็กน้อย แค่คิดก็น้ำลายสอ... เฮ้ยๆๆ เฟิงจี่ นายทำอะไรวะ นายเหลือไว้ให้ฉันด้วย ทำไมถึงเทไปในกระติกเก็บความร้อนทั้งหมดกัน นายจะไปไหน ไก่นาย...”

ผมทำเพียงโยนเงินให้เขาสิบหยวน “ซื้อขนมปังสักก้อนให้ตัวเองเถอะ ถือว่าเป็นค่าเหนื่อย ไม่ต้องถอน”

หลังจากนั้นผมก็ขับรถตรงไปดี้เล่สิงซิง ท่ามกลางเสียงก่นด่าของหวูเจิ่นดง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+