ตอน บทที่ 59 ดื่มเยอะๆก็ดี จาก ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 59 ดื่มเยอะๆก็ดี คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ ที่เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 59 ดื่มเยอะๆก็ดี
หวูเจิ่นดงพูดเสร็จจากนั้นก็คว้าตัวซานจี่ออกไปจากมือของฉัน แล้วลากมันเข้าไปในที่โล่งด้านข้างถนนเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว
ตอนนั้นซานจี่รู้สึกหวาดกลัวจนแทบเป็นบ้า เเล้วตะโกนออกไปว่าหนึ่งแสน ไปจนถึงหนึ่งล้าน ทั้งยังสัญญาว่าจะใช้โทรศัพท์โอนให้เดี๋ยวนั้น ฉันจึงให้ดงจี่หยุดมือ
หวูเจิ่นดงไม่เต็มใจและบ่นว่าฉันว่าไม่คล่องพอที่รับมือกับคนแบบซานจี่ ทั้งที่มันควรจะโดนสับเป็นชิ้นๆ
หลังจากที่ฉันได้รับข้อมูลที่แสดงว่าเงินล้านเข้าในบัญชีเรียบร้อยเเล้ว ซานจี่ก็ได้รับการอภัยโทษและวิ่งหนีไป
หลังจากขึ้นรถ ฉันก็แบ่งให้หวูเจิ่นดงห้าแสนตามธรรมเนียม เขาดีใจมาก
“เขาเพิ่งมาคบกับนายเพียงครึ่งเดือนก็กลายเป็นเศรษฐีแล้ว เงินมาเร็วจริงๆ...”
หลังจากที่หวูเจิ่นดงและหยาวเซียวจัดของเสร็จหมดเรียบร้อยเเล้วก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว เดิมทีคิดว่าจะถือโอกาสไปทานข้าวเย็นกับจางหงหวู่ แต่เธอกลับไม่อยู่ ฉันจึงกลับบ้าน
รถติดในช่วงเวลาเลิกงานพอดี ดังนั้นฉันจึงขับอ้อมในระยะทางที่ไกลกว่าเดิม ฉันเลือกที่จะเหยียบคันเร่งอย่างสบายใจดีกว่าต้องทนรอเป็นเวลานาน แม้ว่าระยะทางจะไกล
จุดบุหรี่ เปิดหน้าต่างรับลม ฉันฟังเพลงไปด้วยในขณะที่สูบบุหรี่ แบบนี้ก็มีความสุขไม่น้อย
ดำเนินชีวิตไปกับการแกล้งป้อสาวก็ดีเหมือนกันแฮะ
ในขณะที่ฉันกำลังดื่มด่ำกับความสุข หยู่ถิงก็โทรเข้ามา
หญิงสาวคนนี้โดนฉันตากแห้งไปหลายวัน ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เธอถึงได้ติดต่อฉันมาอีกครั้ง
“ฉันได้ยินมาว่าซานจี่มีเรื่องกับนาย นายไม่ต้องห่วง คราวนี้ซานจี่จบเห่แล้ว”
หลังจากรับโทรศัพท์ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แต่ฉันก็พูดบางอย่างที่ทำให้คนปลายสายตกตะลึง
“ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเขา แค่ขู่เอาเงินมาล้านนึง แล้วทุกอย่างก็จบ เงินล้านเดียวถึงกับทำให้บ้านเขาล้มละลายเลยหรือ?!”
หยู่ถิงตกใจ “ว่าอะไรนะ? เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?
ฉันมองไปที่นาฬิกา เรื่องมันน่าจะเกิดประมาณราวๆบ่ายสองโมงครึ่ง
หยู่ถิงโล่งใจและพูดกับฉันว่า “ฉันได้รับข่าวมาเมื่อตอนประมาณบ่ายสาม ซานจี่กลับบ้านมาก็เจอกับตำรวจ ดูเหมือนเขากลัวว่าจะโดนตำรวจจับ ฉันเลยให้เขาหนีออกไป แต่ช่วงที่หนีออกไปก็ชนตำรวจตายไปหนึ่งนาย...”
เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไปแล้ว ตอนบ่ายสองโมงกว่าฉันยังเหยียบเขาใต้ฝ่าเท้าอยู่เลย พอสามโมงเขาก็ทำบาปหนักขนาดนี้
ต่อต้านการจับกุมอย่างเปิดเผยและยังขับรถชนตำรวจอีก โดยเฉพาะบนถนนใหญ่ที่มีทุกสายตาจับจ้อง
คราวนี้ซานจี่คงคิดได้ แม้ว่าครอบครัวจะมีเงินแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำใจ
“ตามที่ฉันรู้มา พ่อของซานจี่ได้จ่ายเงินให้กับเมียคนนั้นและทั้งสองฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ตำรวจแค่มาที่บ้านเพื่อพาเขาไปให้ปากคำที่โรงพัก แต่ด้วยความตกใจกลัวถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
ฉันควรพูดยังไงดี? ทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้ก็คือมันเป็นเรื่องใหญ่
แน่นอนว่าเพื่อนตำรวจคนนั้นไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ...
ในขณะที่คุยกับหยู่ถิง ทันใดนั้นฉันเห็นรถจอดอยู่ข้างถนนด้านหน้า
แน่นอนว่ารถไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร แต่ที่สำคัญคือคนที่อยู่ในนั้นคือ โจงเฉียวเฉียวกับผู้ชายอีกคน คิดว่าชายคนนั้นต้องเป็นสามีเธอแน่ๆ เขาสวมเเว่นตาดูท่าทางเรียบร้อย
ฉันพูดอะไรบางอย่างกับหยู่ถิง จากนั้นวางสายโทรศัพท์และจอดรถอยู่ข้างๆ
การปรากฏตัวของฉันจากภายในรถทำให้โจงเฉียวเฉียวรู้สึกอาย แต่ใบหน้ายังคงยิ้ม
ฉันทักทายโจงเฉียวเฉียว จากนั้นเธอก็แนะนำให้ฉันรู้จักผู้ชายคนนั้นที่อยู่ข้างๆ เขาชื่อด้ายลี่ม่าวซึ่งเป็นสามีของเธอ
ฉันคิดว่าชื่อสามีของเธอค่อนข้างดี เหมาะแก่การโดนสวมเขียว ดูท่าทางแล้วหยิ่งไม่น้อย
หลังจากทักทายกันอย่างคุ้นเคย จากนั้นฉันก็ถามพวกเขาว่าทำไมถึงมาจอดรถที่นี่
ด้ายลี่ม่าวขยับแว่นตาแล้วบอกฉันว่า ไม่รู้ว่าคนที่ไหนทำตะปูตอกกระดานมาหล่นทิ้งไว้บนถนนจนทำให้ยางรถของพวกเขารั่ว
ฉันหันไปดูล้อรถที่แบนลีบ
“ในรถมียางอะไหล่ไหม?”
แต่ด้ายลี่ม่าวยังคงยืนยันจะให้ฉันไป แต่เหตุผลของเขาทำให้การตัดสินใจก่อนหน้านั้นของฉันพลิกหน้าหงายหลัง
“คุณดูรถที่เขาขับสิ แฮมเมอร์เลยนะ ราคาตั้งหลายล้าน น่าจะเป็นคนมีเงิน พวกเราไปกินข้าวกับเขาสักมื้อ พอถึงวันแต่งงานเขาน่าจะให้ซองแดงเราไม่น้อยเลย เจ้านั่นจะให้เราคุ้มไหมนะ? เขามีฐานะเป็นอย่างไร?”
ฉันไม่รู้ว่า โจงเฉียวเฉียวหาคนแบบนี้มาได้อย่างไร คนที่...ใช้ความหวังดีเป็นเครื่องคิดเลข
ดังนั้นฉันจึงหยิบโทรศัพท์วางไว้ในหูของฉันแล้วพูดอย่างจงใจให้พวกเขารู้ตัว จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์ลง
เมื่อด้ายลี่ม่าวเชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้นอีกครั้ง ฉันก็เลือกที่จะตกลง
ด้ายลี่ม่าวกับโจงเฉียวเฉียวขับรถนำหน้า ส่วนฉันขับรถตามหลังไปทางเรือนหอของพวกเขา
โจงเฉียวเฉียวผัดผัก ฉันพูดคุยสัพเพเหระกับด้ายลี่ม่าวที่ห้องรับแขก
เขาถามฉันว่าทำงานอะไร ฉันบอกว่าทำงานผิดกฎหมายจึงไม่สามารถพูดรายละเอียดได้ เขายิ้มและเงียบไป
ฉันมองหน้าเขาราวกับแบคทีเรีย!
หลังจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง กับข้าวหกอย่างก็วางอยู่บนโต๊ะ กินกันสามคนถือว่ามีอาหารหลากหลายมาก
จากนั้นด้ายลี่ม่าวก็ดื่มกับฉัน ฉันปฏิเสธไม่ได้จึงตอบตกลง
การดื่มไม่ใช่ปัญหา แต่พอดื่มเหล้าลงไปได้ครึ่งแก้ว ด้ายลี่ม่าวก็ดูเหมือนกำลังดื่มด้วยความโกรธ ดื่มกับฉันอย่างไม่ยอมแพ้ บางทีเขาอาจรู้สึกว่าเขาอยู่บ้านตัวเองไม่จำเป็นต้องเห็นแก่หน้าเมียตัวเองก็ได้?
หลังจากดื่มไปได้สักพัก หัวด้ายลี่ม่าวก็เริ่มห้อย โจงเฉียวเฉียวแอบเตะขาฉันอยู่ใต้โต๊ะเป็นสัญญาณบอกฉันไม่ให้เขาดื่มต่อแล้ว
เพิ่อเห็นแก่โจงเฉียวเฉียว ฉันจึงวางมือ แสร้งทำเป็นลุกขึ้นจากนั้นก็ล้มตัวลงบนโซฟาเหมือนกำลังเมามาก
“ฮ่าฮ่า นายไม่ไหวแล้ว นายแพ้ฉันแล้ว”
ด้ายลี่ม่าวหัวเราะชอบใจ ฉันมองเห็นความรู้สึกของเขาที่แสดงออกมาอยู่บนหน้า จากนั้นเขาก็ฟุบลงบนพื้นและดื่มต่อ
ดื่มเยอะๆก็ดี...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+