สรุปตอน บทที่116 คุณไปที่ข้างถนนเพื่อทำจางฉีโม่ – จากเรื่อง ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดย อาเหา
ตอน บทที่116 คุณไปที่ข้างถนนเพื่อทำจางฉีโม่ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดยนักเขียน อาเหา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่116 คุณไปที่ข้างถนนเพื่อทำจางฉีโม่
หวางกั๋วคางยังคงยิ้มอยู่เหมือนเดิม ก่อนจะตอบรับ
“หลังจากนี้ จื่อเหวิน คุณมาอยู่ที่บริษัทเครื่องประดับจางซื่อ แล้วมาเป็นประธานบริหารเถอะ” หวางกั๋วคางค่อยๆ พูด
หวางจื่อเหวินมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะส่งสายตาให้จางหงซวน
“เหอะๆ” จางหงซวนกระแอม ก่อนจะหันไปหาหุ้นส่วน “ทุกๆ ท่านที่นั่งลงอยู่ การเป็นหุ้นส่วนจะไม่เปลี่ยนไป แต่ว่าฉันมีเรื่องสำคัญจะประกาศ จางฉีโม่ รองประธานจาง ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นประธานชำนาญการในการดูแลเรื่องราวต่างๆ และรองประธานแล้ว เขากลายเป็นแค่คนที่เกี่ยวข้องกันเพียงความสัมพันธ์เท่านั้น และพึ่งพาคนนอกอย่างอูหยางในการเข้ามา”
“ดังนั้น ฉันอยู่ในฐานะประธาน กำลังประกาศอย่างเป็นทางการ ว่างานและภาระหน้าที่ต่างๆ ของจางฉีโม่นั้น จะถูกไล่ออกในไม่นานนี้เลย!”
“จางฉีโม่ ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว!ออกไปจากอาคารเป่าติ่งเดี๋ยวนี้!” จางหงซวนพูดเสียงเย็นชา “จริงสิ แล้วก็ยังมีผู้ช่วยของคุณก็คือหลินอิ่ง ไอสารเลวนั้น ก็ถูกไล่ออกไปด้วย!”
“พวกคุณ!พวกคุณมีสิทธิ์อะไร!” จางฉีโม่มีแววตาที่สั่นไหว คิดไม่ถึงเลยว่าภายในบริษัทนี้จู่ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากขนาดนี้ ประธานกรรมการอูถูกผู้ร่วมมือเตะออกไปแล้ว
อีกอย่าง จางหงซวนเองก็คงจะไล่ตัวเองออกไปจากบริษัทด้วยหรือเปล่านะ?
มีสิทธิ์อะไรนะ?ช่วงนี้ตัวเองใช้ความคิดและเหน็ดเหนื่อยมามาก ช่วยบริษัทออกแบบเครื่องประดับอะไรมากมาย แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจขนาดนี้เลยเหรอ?มันคือราคาของความสำเร็จงั้นเหรอ?
พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาวางอำนาจแบบนี้นะ อยากจะสกัดดาวเหรอ?อยากจะแย่งผลงานงั้นเหรอ!
“มีสิทธิ์อะไรงั้นเหรอ?ก็สิทธิ์ที่ฉันเป็นประธานกรรมการบริษัทอย่างไรล่ะ!ฉันบอกว่าไล่คุณออก ก็คือให้ออกไป!รีบออกไปเดี๋ยวนี้!” จางหงซวนพูดด้วยความทระนง
“เห้อ ประธานกรรมการจาง พูดจาเกรงใจหน่อย” หวางจื่อเหวินพูดอย่างวางมาด
“ใช่ ประธานกรรมการหวางพูดถูก” จางหงซวนยกยอ
“ฉีโม่ อันที่จริงมันง่ายมากเลย วันนี้ตอนกลางคืนคุณมากินข้าวกับฉันสิ” หวางจื่อเหวินพูดด้วยท่าทีเล่นๆ “ฉันจะดูแลคุณเอง!ไม่ต้องพูดถึงรองประธานเล็กๆ ถึงคุณอยากจะเป็นประธานของบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ ฉันก็เอาตำแหน่งนั้นมาให้คุณได้!”
“เป็นอย่างไร?ก็แค่กินข้าวมื้อเดียวเท่านั้นเอง” หวางจื่อเหวินยิ้มเยาะพลางพูด ก่อนจะมีแววตาหิวกระหาย
“พวกคุณ!” จางฉีโม่ได้รับการดูถูกมากขนาดนั้น จะไปไม่เข้าใจคำพูดของหวางจื่อเหวินได้อย่างไร
“คุณกำลังฝัน!ลาออกก็ลาออก!ไม่เสียดายหรอก!” จางฉีโม่โกรธจนทิ้งป้ายรองประธานบนโต๊ะ พลางเดินออกจากห้องทำงานด้วยความโกรธ
เธอมีแววตาน้อยอกน้อยใจ น้อยใจเป็นอย่างมาก แถมยังถูกคนอื่นมาดูถูกความเป็นคนอย่างมากอีกด้วย!
“หึ!ผู้หญิงหน้าไม่อาย!” หวางจื่อเหวินพึมพำ แววตายิ่งมีความรังเกียจมากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นห้านาที
จางฉีโม่เดินออกมาจากอาคารเป่าติ่ง ความโกรธก็ลดลงไม่ง่ายเลย อู่เจิ้งจดรถอยู่ข้างทาง ก่อนจะเดินลงมาจากรถ แล้วเปิดประตูรถ
ในตอนนั้นเอง มีบอดี้การ์ดใส่สูทเดินออกมา ก่อนจะขวางจางฉีโม่เอาไว้
“พวกคุณจะทำอะไร?” จางฉีโม่ตกใจ ก่อนจะถามขึ้นด้วยความสงสัยโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีชายฉกรรจ์มาได้อย่างไรกัน
“เหอะๆ ฉีโม่ คุณจะรีบไปไหนขนาดนั้น?ก็บอกแล้วว่าแค่กินข้าวด้วยกันมื้อเดียว” หวางจื่อเหวินเดินมาจากข้างหลังอย่างโอ่อ่า ด้านข้างๆ ก็เป็นหวางกั๋วคางที่มีสีหน้าจริงจัง
“หวางจื่อเหวิน ฉันบอกแล้วว่าจะไม่กินข้าวกับคุณ คุณจะทำไมเหรอ?” จางฉีโม่ถามขึ้นด้วยความโกรธ
“อยากจะทำอะไรงั้นเหรอ?แน่นอนว่าอยากจะทำคุณไงล่ะ!” หวางจื่อเหวินพูดด้วยความบ้าคลั่ง
“เอาผู้หญิงคนนี้ขึ้นรถไป แล้วเอาไปส่งที่บ้านพักตากอากาศของฉัน แล้วเตรียมกล้องถ่ายเอาไว้ด้วย!คืนนั้นฉันจะจับเธอเอาไว้ให้ได้เลย!” หวางจื่อเหวินโบกมือเพื่อสั่งการ แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ไอเดรัจฉาน ฝันไปเถอะ!” จางฉีโม่โกรธเป็นอย่างมาก จนสั่นไปทั้งตัว
“เหอะ คุณยังจะมาทำเป็นใสซื่ออีกเหรอ?ไอหญิงงามเมือง!” หวางจื่อเหวินยิ้มด้วยความเยือกเย็นก่อนพูดขึ้น “อย่ามาคิดว่าฉันไม่รู้ ว่าคุณได้รับการอนุเคราะห์จากอูหยางที่จางซื่อกรุ๊ปเนี่ย แถมยังได้เป็นรองประธานอีก คุณยังกล้ามาบอกว่าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอูหยางอีกเหรอ?”
“เพื่อตำแหน่ง ฉันว่าคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องขายไปกี่ครั้ง?ขนาดกับอูหยางคุณยังเต็มใจที่จะขายเลย ทำไมเหรอ?ฉันทำบ้างไม่ได้หรือไง?” หวางจื่อเหวินพูดด้วยความเกลียดชัง
“คุณกำลังดูถูกฉันนะ!คุณมันพูดมั่วๆ ไปเรื่อย!” จางฉีโม่โกรธเป็นอย่างมาก เพราะเขากำลังดูถูกตัวตนของเธออยู่
“ลูกชาย พูดมากกับเธอทำไม?” หวางกั๋วคางกำชับขึ้น ก่อนจะพูดคำที่ทำให้ทุกคนอึ้งไป “หาผู้หญิงคนหนึ่งมันยากขนาดนั้นเลยเหรอไง?แถมยังตามจีบอยู่ตั้งนาน?ยังจีบไม่ได้อีก?ไม่ได้เรื่อง!”
“ไม่ต้องเอากลับไป!” หวางกั๋วคางยิ้มด้วยความเยือกเย็นก่อนพูดขึ้น “ลูกชาย คุณทำมันข้างทางนี่แหละ แล้วถ่านเก็บเอาไว้ด้วย!”
“พ่อ?” หวางจื่อเหวินมีแววตาแปลกไป ก่อนจะพูดด้วยความทะเยอทะยาน “คุณนี่มีแผนดีจริงๆ เลย!”
“เหอะ วางใจเถอะ เรื่องผู้หญิงน่ะเรื่องเล็ก พวกเราตระกูลหวางทำให้มันง่ายได้หน่า” หวางกั๋วคางพูดด้วยความติดตลก “ฉันไม่เชื่อหรอกนะ ว่าเธอจะสามารถประกาศเรื่องนี้ออกไปได้น่ะ?หลังจากนี้ต้องเป็นนกในกรงทองของลูกชายคุณ ไม่อย่างนั้น จะโยนเข้าไปในอาคารที่เต็มไปด้วยฝุ่น แล้วขายเธอซะ!”
หวางกั๋วคางยิ้มขึ้นด้วยความเย็นชา เรื่องแบบนี้ ตอนที่เขาวัยรุ่นทำไปแล้วตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ลูกชายโง่ๆ คนนี้ จะต้องเสียเงินเพื่อจีบอีกเหรอ?ทำตรงๆ เลยก็จบแล้ว
“แกนี่มันเดรัจฉานจริงๆ พ่อลูกอย่างพวกคุณก็เป็นเดรัจฉานเหมือนกัน!” อู่เจิ้งด่าขึ้นมา คิดไม่ถึงเลยว่าบนโลกใบนี้ จะมีพ่อลูกที่ไร้ยางอายขนาดนี้!
“ฉีโม่ งั้นฉันจะมาเองนะ!” หวางจื่อเหวินยิ้มร้ายๆ ขึ้น ก่อนจะเข้าไปคว้าตัวจางฉีโม่ แต่กลับคว้ามือเปล่า จับถูกเสื้อคลุมของจางฉีโม่ ก่อนจะสะบัดออก
ภายในเสื้อคลุมของจางฉีโม่นั้นเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว ทำให้เห็นเรือนร่างสวยงามอย่างชัดเจน แววตาของหวางจื่อเหวินนั้นเปล่งประกาย
วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว จางฉีโม่ก็ทั้งตกใจแล้วโกรธมาก ก่อนจะโทรศัพท์ มันเป็นเบอร์ที่หลินอิ่งได้ให้เธอเอาไว้ก่อนจะไป
“ฮัลโหล คุณนายหลิน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ปลายสายโทรศัพท์ มีเสียงของเสิ่นซานดังขึ้นมาอย่างเคารพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ