ซุปเปอร์เจ้าสำราญ นิยาย บท 39

บทที่ 39 เปรียบเทียบ

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

แถวๆชุมชนเจียงฉือ ณร้านอาหารปาเซียน

นี่เป็นร้านอาหารชื่อดังที่เก่าแก่ในเมืองชิงหยูน อาหารมีความโดดเด่นมาก และเป็นที่รู้จักกันในนามปรมาจารย์ที่รวบรวมอาหารหลักแปดประอย่าง

หลินอิ่งและจางฉีโม่มาตามนัดตรงเวลา และขับรถไปที่ร้านอาหาร

อู่เจิ้งจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ หลินอิ่งทั้งสองคนลงมาจากรถ

“ไอ พ่อกับแม่ก็ไร้สาระมากเลย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าลุงหลี่เขาย้ายบ้านใหม่เพื่ออวดตัวเองว่า ลูกสาวหาแฟนหนุ่มที่มีความสามารถได้ พวกเขาก็ยังจะเรียกให้ฉันมา และยังให้ฉันขับรถมาด้วย” จางฉีโม่กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ราวกับว่าไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในงานเลี้ยงอาหารค่ำนี้เลย

เธอไม่เข้าใจเลยว่าพ่อกับแม่คิดอะไรอยู่

แม้ว่าครอบครัวของลุงหลี่พวกเขา และครอบครัวของตัวเองเป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายสิบปี นับว่าเป็นคนรู้จักที่เก่าแก่ แต่ว่า หลังจากที่พ่อถูกลุงใหญ่และลุงสามร่วมมือกันไล่ออกมาจากคณะกรรมการของบริษัทแล้ว สถานการณ์ก็แย่ลงมาก ทั้งครอบครัวของลุงหลี่ก็ไม่มีความอัธยาศัยอีกเลย แม้กระทั่งบังเอิญเจอกันยังถากถางกันอีกด้วย

เมื่อพบเจอกับสังคมที่ไร้ซึ่งน้ำใจต่อกันแบบนี้แล้ว พ่อแม่กลับยังจะไปกินข้าวกับครอบครัวของลุงหลี่อีก?

“ปกติมากนะ ตอนนี้คุณมีอนาคตที่ดีแล้ว พอกับแม่ก็เลยอยากเก็บหน้าคืนมาบ้าง” หลินอิ่งพูดขึ้น

“ไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขาคิดได้ยังไง เฮ้อ สรุป น่ารำคาญจะตาย! ต้องเผชิญกับกลุ่มคนหน้าซื่อใจคดอีกแล้ว” จางฉีโม่กล่าวอย่างหมดหนทาง

หลินอิ่งหัวเราะเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร

สำหรับครอบครัวลุงหลี่ที่อยู่ชั้นล่าง เขาเองก็เข้าใจอยู่บ้าง

เป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลด้านการมองคนมาก ทว่านี่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์เช่นกัน ไม่มีอะไรให้น่าพูดถึง

หลังจากนั้นไม่นาน คนทั้งสองก็เดินไปถึงหน้าประตูร้านอาหารปาเซียน

ลู่หย่าฮุ่ยสองสามีภรรยากำลังพูดคุยกับชายหญิงวัยกลางอยู่สองคน

“อ๊ะ เป็นฉีโม่มาแล้วเหรอ? นี่เป็นรถของเธอสินะ? ไม่เลวเลย ประมาณ 500,000 สินะ” หญิงวัยกลางคนหนึ่งเดินเข้ามา สำรวจรถของจางฉีโม่

“ฉีโม่ ได้ยินพ่อแม่เธอบอกว่า เธอได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อำนวยการของบริษัท? เรื่องจริงเหรอ?” ข้างๆคุณผู้หญิง ชายวัยกลางคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างสงสัย

“ลุงหลี่ ป้าหลิว” จางฉีโม่ไม่สนใจคำพูดที่เต็มไปด้วยหนามพวกนี้ และกล่าวทักทายอย่างเกรงใจ

“ไอ ฉีโม่ ตอนนี้เธอก็ยังใช้ชีวิตอยู่กับหลินอิ่งคนนี้อยู่อีกเหรอ?”หลี่เจิ้นกล่าวอย่างไม่ยี่หระ เหลือบมองไปที่หลินอิ่ง

ลู่หย่าฮุ่ยรีบพูดขึ้น  “ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอะไรกัน ตอนนี้ฉีโม่เป็นถึงผู้อำนวยการบริษัท หลินอิ่งคอยตามทำงานให้เธออยู่ เป็นผู้ช่วย”

“อ๋อ? ผู้ช่วยเหรอ” หลี่เจิ้นส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ผู้ชายก็ควรที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คอยตามช่วยงานภายใต้ผู้หญิง ดูเหมือนอะไรกัน?”

ลู่หย่าฮุ่ยไม่พูดอะไร จ้องไปที่หลินอิ่งอย่างดุดัน ดูเหมือนว่าจะไม่พอใจเป็นอย่างมากที่หลินอิ่งมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำด้วย

ติ๊ด!

ในตอนนี้เอง รถอาวดี้ A8 ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของนักธุรกิจก็ขับเข้ามา และบีบแตรเสียงดัง

คนขับในชุดสูทคนหนึ่งเดินไปเปิดประตูของที่นั่งด้านหลัง ชายหนุ่มและหญิงสาวที่แต่งตัวทันสมัยคู่หนึ่งก็เดินลงมา

“อ๊ะ หลานเอ๋อและฟางผิงมาแล้ว” หลี่เจิ้นพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม พลางมองไปที่คู่สามีภรรยาลู่หย่าฮุ่ยด้วยใบหน้าที่มีชัย “ขอแนะนำให้พวกคุณรู้จัก นี่คือแฟนหนุ่มของหลานเอ๋อ ฟางผิง เป็นผู้จัดการของ บริษัท อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเขตเมืองเป่ย และยังเป็นนักเรียนนอกอีกด้วย! นักเรียนยอดเยี่ยม!”

“หลานเอ๋อของเราหาแฟนได้ดีจริงๆ เห็นรถคันนี้หรือเปล่า ฟางผิงเป็นคนซื้อเอง อาวดี้ A8! ราคาแพ่งกว่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 มาก” หลี่เจิ้นพูดขึ้นอย่างโอ้อวด “ฟางผิงยังบอกอีกว่าจะเปลี่ยนรถใหม่แล้ว ส่วนคันนี้ก็ให้ฉันขับ ซิ่วเฟิง ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกว่าฉีโม่เป็นถึงผู้อำนวยการบริษัทแล้ว เก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ ทำไมบริษัทถึงไม่ออกรถหรูให้เธอสักคันหละ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ