ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ นิยาย บท 323

บทที่323

เช้าวันต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็ได้พาไป๋หู่กับสวีลั่งมาถึงที่โรงแรมของหวังไห่

ทั้งสามคนลงจากรถโฟล์คสวาเกน คาราเวลที่ดูเรียบๆ 

พอเดินมาถึงที่ประตูลิฟต์ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก แล้วก็มีชายหญิงอยู่คู่หนึ่งเดินออกมา ชายคนนี้อายุประมาณสามสิบกว่า ส่วนหญิงสาวนั้นหน้าตาค่อนข้างดี แถมยังดูวัยรุ่นอยู่เลย เธอมาในชุดกระโปรงแดง ดูน่าสนใจดี

ชายคนนั้นเอามือโอบเอวของเธอไว้ มือของเขากำลังลูบไล้อยู่บนตัวเธออย่างน่าสงสัย ส่วนใบหน้าก็แทบจะซุกเข้าไปอยู่ในหน้าอกของหญิงสาวแล้ว

พอภาพนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทั้งสามคนก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว

ชายคนนั้นไม่ได้สนใจพวกเขา มีเพียงหญิงสาวที่มองเห็นการตอบสนองของทั้งสาม พอเห็นอย่างนั้นเธอก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที “มองอะไรยะ? ไม่เคยเห็นสาวสวยรึไง?”

พอเธอพูดออกมาแบบนั้น มันก็ทำให้รู้ว่าเธอคนนี้ร้อนแรงไม่เบาเลย

แล้วไป๋ยี่เฟยและพวกก็เลิกมอง จากนั้นก็เดินเข้าไปในลิฟต์ แต่สาวคนนั้นก็ยังไม่วายตามมาหาเรื่อง “นี่ ฉันคุยกับพวกคุณอยู่นะ หูหนวกรึไง?”

พูดจบเธอก็หันไปเท้าเอวใส่ชายคนนั้น “คุณคะ คุณดูพวกเขาสิ พวกเขากำลังแอบมองฉันค่ะ ต้องคิดไม่ดีกับฉันอยู่แน่ๆ เลย”

ชายคนนั้นได้เงยหน้าขึ้นมาตั้งแต่ได้ยินคำพูดแรกของหญิงสาวแล้ว พวกเห็นทั้งสามคน เขาก็มองทั้งสามด้วยสายตาที่ดูถูก พอรู้ว่าทั้งสามไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไรสายตาคู่นั้นก็ยิ่งแสดงความดูถูกมากขึ้นไปอีก “พวกแกไม่รู้บ้างเหรอว่าอะไรควรมองไม่ควรมอง?”

“ผู้หญิงของฉันพวกแกยังกล้ามอง เดี๋ยวก็สั่งให้พี่น้องของฉันมาควักลูกตาทิ้งซะนี่” 

ไป๋ยี่เฟยพูดอะไรไม่ออก พอมีคนออกมาจากในลิฟต์ใครๆ ก็ต้องมองไม่ใช่เหรอ? นี่มันจงใจหาเรื่องกันนี่? ที่สำคัญชายคนนี้ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน? ทั้งๆ ที่ไป๋หู่กับสวีลั่งก็ยืนอยู่ข้างหลังตัวเอง เขาไม่ได้สังเกตเลยหรือไง?

บอกตามตรง ชายคนอาจจะไม่ได้สังเกตจริงๆ เพราะไป๋หู่กับสวีลั่งได้เก็บซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ ทำให้คนทั่วไปที่เห็นพวกเขาก็จะรู้สึกแค่ว่าสองคนนี้ตัวใหญ่กว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง

ไป๋ยี่เฟยไม่อยากจะไปเสวนากับคนแบบนี้ เขาจึงไม่ได้โต้ตอบอะไร และจะเดินเข้าไปในลิฟต์ต่อ

พอเห็นแบบนี้ ชายคนนั้นก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที โตมาขนาดนี้แล้วยังไม่เคยถูกใครเมินแบบนี้มาก่อนเลย ไฟแห่งโทสะก็ลุกโชนขึ้นมาทันที “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะแก!”

ระหว่างที่พูด ชายคนนั้นก็ก้าวมาข้างหน้าพร้อมกับยื่นแขนออกมาเหมือนตั้งใจจะมาจับไหล่ของไป๋ยี่เฟย

ในตอนนั้นเอง ไป๋หู่ก็ได้ลงมือแล้ว เขายื่นมือออกมาคว้าข้อมือของชายคนนั้นไว้อย่างรวดเร็ว

มือของชายคนนั้นถูกไป๋หู่เหวี่ยงออกไปอย่างแรง จนเขาเซไปข้างหลังหลายก้าวกว่าจะทรงตัวได้ ในที่สุดเขาก็รับรู้ได้ถึงบุรุษร่างยักษ์ทั้งสองที่ยื่นอยู่ข้างหลังไป๋ยี่เฟยรู้อยู่แก่ใจได้สักที หลังตั้งสติได้ ด้วยความที่ไม่อยากจะแสดงความอ่อนแอของตนต่อหน้าผู้หญิงของตัวเอง เขาจึงพยายามฝืนพูดไปว่า “นี่พวกแกคิดจะทำอะไร? ลอบสังหารรึไง?”

ต้องมาเจอคนสติไม่ดีแบบนี้เขาควรทำยังไงดี? จะให้รออยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เพราะเขากำลังรีบ

“ไป๋หู่ เดี๋ยวเราจะขึ้นไปก่อนนะ” ไป๋ยี่เฟยไม่อยากจะมาเสียเวลากับคนหน้าโง่แบบนี้หรอก พูดจบเขาก็ขึ้นลิฟต์ไปกับสวีลั่งทันที

……

พวกเขาขึ้นลิฟต์ไปจนถึงชั้นที่นัดหมายกันเอาไว้ ไป๋ยี่เฟยเคาะประตู

ไม่นานประตูก็เปิดออก มีชายใส่สูทที่ร่างกายกำยำคนหนึ่งยืนอยู่ เขาถามด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมว่า “มาหาใครครับ?”

“ผมมาหาผู้อาวุโสหวัง” ไป๋ยี่เฟยตอบ

จากนั้น บอดี้การ์ดคนนั้นก็ปิดประตูลงโดยที่ไม่อะไรเลยสักคำ

“นี่เรามาผิดห้องเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยหันไปมองเลขห้องอีกครั้ง ก็ไม่ได้ผิดนี่ ว่าแล้วเขาก็เคาะประตูอีกครั้ง

แล้วก็เป็นบอดี้การ์ดคนเดิมที่มาเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นไป๋ยี่เฟยเขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ที่นี่ไม่มีคนที่พวกคุณมาหาครับ”

ดีที่ครั้งนี้ไป๋ยี่เฟยตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเขายื่นมือไปยันประตูเอาไว้ เพื่อไม่ให้บอดี้การ์ดปิดประตู จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “นี่น้องชาย ผมมาหาผู้อาวุโสหวังจริงๆ เขาเป็นคนบอกให้ผมมาที่นี่ไม่ผิดแน่” บอดี้การ์ดอยากจะใช้กำลังเพื่อไล่คนออกไปแล้ว แต่ก็ได้มีเสียงที่น่าหลงใหลของผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากด้านใน “ให้เขาเข้ามา”

สิ้นเสียง บอดี้การ์ดก็ปล่อยมือ แล้วหลบออกข้างเพื่อให้ไป๋ยี่เฟยเขาไป

จังหวะนั้นไป๋หู่ขึ้นมาถึงพอดี ดังนั้นทั้งสามคนจึงได้เดินเข้าห้องไปพร้อมกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่