EP.45 CRAZY LOVE คลั่งรัก ♥
ตอน คบกันไหม?
"อะโอ๊ย!"
ฟาเรนร้องขึ้นเล็กน้อย เพราะฉันน่าจะกระแทกเข้าที่บาดแผลของเขาแบบเต็ม ๆ
แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพียงอ้าแขนรับตัวของฉันเอาไว้และโอบกอดแบบหลวม ๆ
แก่นกายของเขายังคงเสียบคาร่องอยู่แบบนั้นและฉีดน้ำรักอัดเข้าร่องรักจนทำให้ทั้งน้ำกามของเขาและฉันรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันและไหลย้อยลงมาจากร่องสวาทของฉัน ชโลมโคนแก่นกายของฟาเรนจนเป็นเมือกขาว ๆ เปื้อนไปหมด
ฉันลุกขึ้นจากตักของเขาทั้ง ๆ ที่ขายังสั่น ๆ
แต่ยังไม่ทันจะลุกไปไหนได้ ก็ต้องล้มลงนอนข้าง ๆ กายของฟาเรนเพราะหมดแรงและเข่าอ่อนแบบดื้อ ๆ
ความรู้สึกมันยังเหมือนว่าร่องรักของฉันยังอ้าเหมือนมีแก่นกายของเขาเสียบคาอยู่ด้วย น้ำรักยังคงไหลทะลักออกมาจากร่องจนเลอะเตียงนอนเป็นวง ๆ
ทั้งฉันและเขาหันมองหน้ากันเล็กน้อย
เราต่างคนต่างไม่มีใครพูดอะไรเลย นอกจากนอนมองหน้ากันอย่างหอบเหนื่อยทั้งคู่และผล็อยหลับไป
…
และแล้วในที่สุด…วินาทีสุดท้ายของฉันกับฟาเรนก็มาถึงจนได้
ในเช้าตรู่ของวันเปิดเทอม ฉันตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาเหมือนเช่นทุก ๆ วัน
ร่างกายเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำกามและสภาพชุดนอนที่น้อยชิ้น ร่องสวาทยังคงแสบเจ็บระบมจากการถูกฟาเรนกระทำอย่างหนักหน่วงในคืนส่งท้าย ลากยาวมาถึงในตอนเช้าวันนี้
หลังจากที่ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ ทางด้านฟาเรนก็ยังคงนอนหลับสนิท เพราะเขามักจะตื่นสายกว่าฉันเสมอ
หลังจากที่ฉันอาบน้ำแต่งตัวและเก็บของเพียงไม่กี่ชิ้นของตัวเองใส่กระเป๋าเสร็จสรรพ ฉันก็ไม่ลืมที่จะกลับมาที่เตียงเพื่อบอกลาฟาเรนก่อนจะไป
"ฉัน...ไปแล้วนะ" ฉันเอ่ยขึ้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังคงหลับสนิท
"ลาก่อน"
ฉันพูดออกไปอย่างแผ่วเบาและหันหลังเดินออกจากคอนโดของเขา โดยที่ในกระเป๋าของฉันมีเงินที่ฟาเรนเอาใส่ไว้เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเกือบ ๆ หนึ่งแสนบาท
-เปิดเทอมวันแรก-
"ขอโทษนะเว้ยที่หายไป…ขอโทษจริง ๆ นะมึง" ฉันโผเข้ากอดไอรีนทันทีที่เจอหน้า และจู่ ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเพราะคิดถึงและเป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้มากจริง ๆ
"กูไม่โกรธมึงเลยนะขิง อย่าคิดมากสิ เพื่อนกันก็ต้องเข้าใจกันมากที่สุดสิวะ"
ไอรีนพูดขึ้นหลังจากที่ฉันวิ่งเข้าไปกอดเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับขอโทษที่ขาดการติดต่อหายไปเป็นเดือน โดยที่ฉันโกหกไปว่าฉันทำงานหนักจนไม่มีเวลามาเจอ ไม่มีเวลาคุยโทรศัพท์ อ้างว่าตัวเองอยู่ต่างจังหวัด อ้างสารพัด
แต่จริง ๆ แล้วฉันไปอยู่กับฟาเรน ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่าไอรีนไม่ถูกกับฟาเรน จะเรียกว่าเกลียดมากเลยก็ได้
"อีกอย่างการที่กูได้ลองอยู่คนเดียวสักพัก มันก็ดีเหมือนกันนะ"
"ไม่มีใครช่วยให้กูรู้สึกดีขึ้นได้หรอก ถ้าตัวของกูมันไม่เข้มแข็งและไม่พยายามรักษาตัวเองให้ได้" ไอรีนพูดด้วยใบหน้าที่ยังไม่ดีขึ้นเลย แม้ว่าเรื่องของไอรีนกับวินด์เซอร์จะผ่านไปนานเป็นเดือน ๆ แล้วก็ตาม
"เลิกเศร้าได้แล้วน่า…ยิ้มเยอะ ๆ เวลามึงยิ้มมึงโคตรสวยเลยนะเว้ย" ฉันบีบมือเพื่อนรักของตัวเองเบา ๆ
"ก็จริงของมึง อีกอย่างสวย ๆ แบบกู" ไอรีนปาดน้ำตาตัวเองไปพลาง ๆ ก่อนจะหยิบลิปสติกขึ้นมาทาเสริมความมั่นใจทันที
"หาใหม่ได้สบายอยู่แล้ว" เพื่อนรักพูดขึ้นทั้ง ๆ ที่เสียงยังสั่น ๆ ฉันรู้ว่าคนอย่างไอรีนยากเหลือเกินที่จะมีแฟนใหม่ เพราะทุก ๆ ครั้งนางล้วนแล้วแต่ทำเพื่อประชดวินด์เซอร์ทั้งนั้น
"เทอมนี้กูเรียนไม่ตรงกับมึงเลย ไว้เจอกันหลังเลิกเรียนแล้วกันนะ" ไอรีนถอนหายใจก่อนที่เราจะเดินแยกกันไปเรียนคนละคลาส
"เคมึง" ฉันก็ตอบไอรีนไปสั้น ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนทันที
เนื่องจากฉันพยายามลงเรียนอย่างอัดแน่นมาโดยตลอด ทำให้ฉันสามารถจบได้ไวกว่าคนในรุ่นเดียวกันไปหนึ่งเทอม
และเทอมนี้จะเป็นเทอมสุดท้ายในรั้วมหาลัยแห่งนี้
สามปีครึ่งที่สูญเสียให้กับใบปริญญาเพียงใบเดียว
แต่มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ กว่าจะได้มันมา...
"ทนอีกนิดเดียว เราก็จะหางานดี ๆ ทำได้แล้วสินะ"
ฉันพูดกับตัวเอง ก่อนจะพยายามลืมเรื่องราวในช่วงปิดเทอมไปซะ รวมถึงเรื่องที่ฉันพนันไว้กับคลินต์ เพราะว่าชีวิตฉันมันยังมีอะไรอีกหลายอย่างมากมายให้ต้องคิด
และอีกอย่าง ฉันคิดว่าคลินต์กับไทม์ก็คงไม่ได้จริงจังอะไรกับคำพูดท้าพนันของคนอย่างฉัน เพราะพวกเขาก็รู้ดีว่าผู้หญิงจน ๆ อย่างฉันคงไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายคืนแน่ ๆ ถ้าแพ้พนัน
@ห้องประชุมคณะนิเทศศาสตร์
"เดี๋ยววันนี้พี่ ๆ ปีสี่อยู่คุยกันก่อนนะครับ" เสียงของประธานนักศึกษาคณะเราเอ่ยขึ้น และประธานคนนั้นก็คือไรอันนั่นเอง
หลังจากที่พวกน้องปีสอง ปีสามเดินออกไปจนหมด ก็เหลือแค่พวกปีสี่อย่างเรา ๆ ที่นั่งเรียงรายกันอยู่
"อย่างที่รู้ว่ามหาลัยเราจะจัดค่ายรับน้องกันทุกปี" ไรอันเริ่มพูดออกไมโครโฟน และทุกคนในคณะก็ต่างตั้งใจฟังในเรื่องที่เขากำลังจะประกาศอย่างตั้งใจ
"ซึ่งค่ายจะต้องมีพี่ปีสี่ไปคุมเพราะถือว่าเราโตที่สุด"
"ผม…ไรอันในฐานะประธานนักศึกษาประจำคณะนิเทศ"
"จึงได้เลือกรายชื่อของนักศึกษาปีสี่ จำนวน 5 คนที่มีความเหมาะสมในการดูแลรุ่นน้องปีหนึ่งของเรา…"
"โดยทางคณะได้ยื่นเรื่องขออนุญาตต่ออาจารย์แล้ว ว่าจะขอให้นักศึกษาตามรายชื่อนี้ไปช่วยงานค่ายรับน้องของมหาลัยด้วย เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน"
"รับน้องเหรอ…น่าเบื่อจะตาย" ไอรีนส่ายหน้าเบา ๆ
แน่นอนว่าสำหรับไอรีนแล้ว อะไรที่แค่ขึ้นต้นว่าเข้าค่าย นางก็ลาขาดแล้ว
จริง ๆ แล้วการรับน้องของมหาลัยเราไม่ได้เคร่งครัดหรือทารุณใด ๆ เลย เนื่องจากเราเป็นมหาลัยเอกชน และทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าอยากจะรับน้องหรือไม่
แต่ส่วนใหญ่ตอนปีหนึ่งทุกคนก็เข้าร่วมเกือบหมดเพราะมันสนุกแถมยังเป็นทางเดียวที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ในคณะของตัวเองอีกด้วย และค่ายรับน้องมันก็ไม่ได้กันดาร เพราะเราจัดในเครือรีสอร์ตหรูมาตลอด ตามความประสงค์ของคณบดีมหาวิทยาลัยที่รักความสะดวกสบายเป็นอันดับแรก
หลังจากนั้นฉันก็หันมานั่งคุยเล่นกับยัยไอรีนแทน เพราะไม่ได้เจอกันนานเป็นเดือน ๆ ย่อมต้องมีเรื่องเมาท์มอยเป็นร้อยเป็นล้านเรื่องอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: CRAZY LOVE คลั่งรัก | SM25
1...
มันยังขาดอะไรไปนิดหน่อยคะ แต่โดยรวมดีคะ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านนะคะ...