เฟิ่งหวงที่ได้ยินคำพูดของหลี่เถ่ ได้ปรากฏสีหน้าที่เป็นห่วง: “รองหัวหน้า หรือเรายังไม่ต้องกดดันคนร้ายมากเกินไป เพราะชีวิตของเสี่ยวลี้สำคัญกว่า.....”
ถังเฉาพยักหน้า และสั่งให้หลี่เถ่อย่าไปกดดันคนร้ายมากเกินไป ทุกอย่างต้องคำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยของเสี่ยวลี้เป็นอันดับแรก
พูดจบ สีหน้าของถังเฉาดูมืดมนและเหงื่อไหลออกมาเยอะมาก เขาคาดไม่ถึงว่าคนร้ายจะไร้มนุษยธรรมขนาดนี้ เด็กห้าขวบก็ยังไม่ละเว้นเลย
ขณะเดียวกัน ที่หน้าผาของเขาหู่กวย
ชายที่ใส่หน้ากากค้างคาวที่ดูน่ากลัว อีกมือหนึ่งอุ้มเสี่ยวลี้อยู่ และอีกมือหนึ่งถือปืนกลมือ และจ่อไปที่หัวของเสี่ยวลี้ แล้วจ้องมองหลี่เถ่และลูกน้องอย่างเย็นชา
ทั้งสองคนยืนอยู่ที่ขอบหน้าผา เพียงแค่ถอยหลังไปก้าวเดียว ก็จะตกลงไป และร่างกานแหลกเหลง
ที่สำคัญถังเสี่ยวลี้กินยานอนหลับไป และกำลังหลับอย่างสบาย เธอไม่รู้เลยว่าอันตรายได้มาถึงตัวแล้ว
แต่ก็ยังดีที่ถังเสี่ยวลี้หลับอยู่ ไม่งั้นละก็เธอคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และร้องไห้หนักแน่เลย
หลี่เถ่พากำลังทหารบางส่วน ปิดล้อมทางหนีทุกทางที่ของชายหน้ากากค้างคาวจะใช้หนี เพราะอีกฝ่ายที่มีปืน หลี่เถ่ก็ไม่กล้าที่จะประมาท ทุกคนสวมใส่เสื้อเสื้อเกราะ และถือปืน ชี้ไปทางหัวของชายหน้ากากค้างคาว
“จุ๊ๆ เพื่อที่จะจับฉัน ถึงขั้นต้องใช้คนมากขนาดนี้เลยหรือ ถึงฉันจะต้องตาย ฉันก็ไม่เสียดายแล้ว”
ตัวคนร้ายที่อยู่ชิดติดขอบหน้าผา แถมยังมีปืนหลายกระบอกชี้ไปทางศีรษะเขา แต่ชายหน้ากากค้างคาวคนนี้กลับไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่เหมือนจะหัวเราะแต่ก็ไม่ได้หัวเราะและพูดเยาะเย้ย
หลี่เถ่มองชายคนนี้ด้วยแววตาที่เย็นเยือกและพูดว่า: “ที่ใช้กำลังทหารเยอะแบบนี้ไม่ใช่เพื่อจับนายนะ แต่เพราะเด็กผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดนาย เด็กคนนี้คุ้มค่าสำหรับเราที่จะรักษาด้วยชีวิต”
“ได้ยินที่นายพูดแบบนี้ ฉันยิ่งปล่อยเด็กผู้หญิงคนนี้ไปไม่ได้ เด็กคนนี้ก็เป็นเหมือนสิ่งที่ป้องกันฉัน” ชายหน้ากากค้างคาวพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง
สายเสียงของคนร้ายน่าจะพังแล้ว เลยไม่สามารถยืนยันตัวต้นเขาผ่านเสียงได้
“ฉันว่านายมามอบตัวจะดีกว่า”
หลี่เถ่พูดต่ออย่างเย็นชืดว่า: “นอกจากฉันแล้ว ยังมีราชานักรบอีกก้าวคนนะ ตอนนี้เขาหู่กวยถูกปิดล้อมแล้ว วันนี้ถึงนายจะมาปีก ก็หนีออกไปจากที่นี้ได้ยาก!”
“หนีหรือ? หลี่เถ่ นายดูถูกฉันเกิดไปแล้ว!”
ได้ยินแบบนี้ ชายหน้ากากค้างคาวหัวเราะอำมหิตออกมา เสียงหัวเราะนั้นแฝงไปด้วยความบ้าระห่ำและอุบาทว์: “ฉันที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ นั้นก็หมายความว่าฉันเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องตาย ถ้าพวกนายแน่จริงก็ลองยิงฉันดูสิ ถ้ายิงฉันเมื่อไหร่ เด็กคนนี้ก็ตายเมื่อนั้น!”
คำพูดของชายหน้ากากค้างคาว ทำให้สีหน้าของหลี่เถ่ยิ่งดูตึงเครียด เจ้ามังกรพูดถูก ชีวิตของชายคนนี้ไม่มีค่าอะไร ตายก็ไม่เสียดาย
เห็นหลี่เถ่เงียบไป ชายหน้ากากค้างคาวได้หัวเราะออกมาอีกครั้ง: “เป็นอะไรไปหรือ? คนเยอะขนาดนี้ และแถมยังปิดล้อมฉันไว้ ยังจะมากลัวอะไร?”
วินาทีต่อมา เขาตะโกนออกมา: “รีบวางปืนลง!”
หลี่เถ่มองคนร้ายอย่างเยือกเย็น และสั่งลูกน้องที่อยู่ข้างหลัง: “วางปืนลง”
ชายหน้ากากค้างคาวพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และพูดกับหลี่เถ่ต่อว่า: “ตอนนี้ ไปเตรียมรถคันหนึ่งให้ฉัน และให้ฉันขับไปประมาณสามสิบนาที หลังสามสิบนาที ฉันจะปล่อยเด็กผู้หญิงคนนี้ไป”
คำขอร้องนี้ หลี่เถ่ไม่มีทางรับปากแน่นอน และใช้สายตาที่เย็นชาจ้องมองคนร้าย
ชายหน้ากากค้างคาวโมโห: “นายหูหนวกหรือ ยังไม่รีบไปเตรียมรถให้ฉันอีก หรือนายอยากเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้ตายต่อหน้า?”
สีหน้าของหลี่เถ่เปลี่ยนไป และกัดฟัน กำลังที่จะตอบรับปาก มีเสียงฝีเท้าเบาแต่มีน้ำหนักรอยมาจากด้านหลัง
“ปล่อยลูกสาวฉันไป และพูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้นายทำแบบนี้ ฉันจะไว้ศพของนายครบสามสิบสอง”
ถังเฉาเดินมาพร้อมสีหน้าที่เย็นเยือก และจ้องมองคนร้ายอย่างไม่ละสายตา
ระยะทางที่ไกล เขาเห็นเพียงชายคนนี้ใส่หน้ากากค้างคาว และรู้สึกอึ้งเล็กน้อยเฉยๆ
ซ่งอี้หรูเคยพูดไว้ว่า คนที่เอาคลิปเมื่อห้าปีก่อนไปให้ต่งอี้สิง ก็คือชายที่ใส่หน้ากากค้างคาวและชายคนนี้ก็มาจากองค์กรที่ชื่อหว่างเหลี่ยง
ทุกอย่างดูเชื่อมโยงกัน ถ้าเป็นนักฆ่าขององค์กรหว่างเหลี่ยง ถึงจะตาย เขาก็ไม่บอกความลับแน่ๆ และมีเพียงนักฆ่าขององค์กรหว่างเหลี่ยงที่จะฝังชิประเบิดไว้ในสมอง
และถ้าชายที่ใส่หน้ากากค้างคาวและลักพาตัวถังเสี่ยวลี้คนนี้ เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?
“ถังเฉา นายเองหรือ?”
เมื่อเห็นถังเฉาแล้ว ชายหน้ากากค้างคาวคนนี้สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่เพราะเขาใส่หน้ากากอยู่ ไม่มีใครเห็นสีหน้าของเขาตอนนี้ เห็นแค่เพียงสายตาที่มืดมนสุดขีด จ้องมองถังเฉาอย่างไม่ละสายตา เหมือนมีความแค้นที่ใหญ่หลวง
เห็นเขาเอ่ยชื่อตัวเองอย่างไม่ผิด ถังเฉาเพ่งมอง ก็หมายความว่า เป็นคนที่ถังเฉาเคยเจอมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม