เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 273

สรุปบท บทที่ 273 บารมีน่าเกรงขาม: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 273 บารมีน่าเกรงขาม – ตอนที่ต้องอ่านของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

ตอนนี้ของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 273 บารมีน่าเกรงขาม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างล่างโรงแรมใหญ่ฮุยหวงไม่ได้ทำให้พวกหวางหมิ่นเหมินตกใจ ตอนนี้สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่ถังเฉา

พวกเขารู้สึกว่า หลังจากที่ถังเฉาพูดแบบนั้นออกมา บรรยากาศที่นี่ก็เปลี่ยนไปทันที

จากที่จะชนะกลับกลายเป็นสูสีกัน ถึงขนาดที่โอกาสในการชนะเอนเอียงไปทางถังเฉาด้วยซ้ำ

เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่พวกหวางหมิ่นเหมินไม่ได้คิดไว้ตั้งแต่แรก

“ใจเย็นๆ มันก็แค่หยิ่งผยอง!”

จู่ๆ เจิ้งเทียนเฉิงก็ตะโกนออกมา เขามองถังเฉาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกนายลองคิดดูสิ ว่ามันเป็นใคร ขนาดตระกูลโจวยังไม่เอาไอ้สวะนี่เลย มันจะหาคนเยอะแยะมาได้ยังไง”

เจิ้งเทียนเฉิงอายุมากที่สุดในบรรดาคนพวกนี้ คำพูดของเขาจึงน่าเชื่อถือ เมื่อคนอื่นได้ยินที่เจิ้งเทียนเฉิงพูด ก็ตั้งสติได้แล้วมองถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา

“เกือบโดนหลอกเข้าให้แล้ว”

“ใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังกล้าพูดอวดดีออกมาอีก!”

“ผู้นำตระกูลหวาง ไอ้หมอนี่มันผิดปกติ อย่าไปไร้สาระกับมันเลย รีบฆ่ามันเลย ขืนยืดเยื้อต่อไปอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นก็ได้ครับ!”

มีคนพูดโพล่งออกมา ส่วนบางคนก็หวาดกลัวและรีบพูดกับหวางหมิ่นเหมิน

หวางหมิ่นเหมินรู้สึกแปลกเหมือนกัน ที่เจิ้งเทียนเฉิงพูดล้วนมีเหตุผล แต่ว่าการที่เขาพูดออกมาอย่างสบายใจ แต่ทำไมถึงรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ไม่เสียเวลาพูดกับนายแล้ว ฆ่ามัน!”

เมื่อเขาตัดสินใจได้ก็ตะโกนออกไป

เมื่อคำพูดออกมา บอดี้การ์ดที่อยู่ในงานก็เล็งปืนไปที่หัวของถังเฉา

ต่งวี่ซู่ตกใจมาก แต่ทว่าถังเฉายังคงยืนอย่างสงบ เขามองหวางหมิ่นเหมินด้วยสีหน้ายียวน “ฉันเคยให้โอกาสพวกนาย แต่เสียดายที่พวกนายไม่รักษามันเอาไว้!”

สีหน้าของหวางหมิ่นเหมินโหดเหี้ยม “ถ้านี่คือคำพูดสุดท้ายของนาย งั้นนายก็...”

ปัง

เมื่อคำว่าตายยังไม่พูดออกมา ก็มีเสียงดังสนั่นจนแทบจะทำให้หูอื้อดังขึ้นมาในงาน

จากนั้นประตูในงานถูกเปิดออก คนที่ดูเหมือนผู้จัดการวิ่งอย่างตื่นตระหนกเข้ามาหาหวางหมิ่นเหมิน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ผะ..ผู้นำ เกิดเรื่องแล้วครับ โรงแรมใหญ่ฮุยหวงโดนล้อมเอาไว้หมดแล้วครับ มีผู้นำตระกูลจำนวนมากมาที่นี่ เขาต้องการความชัดเจนครับ!”

“อะไรนะ!”

คำพูดนั้นทำให้หวางหมิ่นเหมินอึ้งไปจนลืมว่าต้องยิงถังเฉา ผู้นำตระกูลแข็งแกร่งมาที่นี่ทำไมกัน

“พ่อ พวกเราจะทำยังไงดี”

หวางเยี่ยทรุดลงบนเก้าอี้ เขาถามขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดเผือด

สีหน้าของหวางหมิ่นเหมินเปลี่ยนไป จากนั้นจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “นายไปเอาอกเอาใจพวกเขาก่อน ให้พวกเขาไปรอที่ห้องแขกวีไอพีก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องที่นี่เสร็จแล้วจะตามไป...”

“ตาเฒ่าหวางกล้าให้พวกเรารอที่ห้องแขกวีไอพีเหรอ นายกล้าดียังไง”

แต่ทว่าหวางหมิ่นเหมินยังไม่ทันสั่งจบ เสียงอันน่ากลัวก็ดังขึ้นมา

ผลั่ก

ผู้จัดการคนนั้นกำลังจะเดินออกไป แต่ทว่ากลับโดนถีบกลับมา

เขากลัวเป็นอย่างมาก และไม่ขยับไปไหน จากนั้นก็สลบไป

แววตาของหวางหมิ่นเหมินแดงก่ำ เขารีบมองไปที่สุดทางเดิน

เขาเห็นชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าปี เดินเข้ามาในงานด้วยท่าทางน่าเกรงขามพร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ด

เขาคือซุนยู่เฟิงผู้นำตระกูลซุน

“พ่อมาได้ยังไง”

ซุนเสว่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนพูดออกมาด้วยความตกใจ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว

ซุนยู่เฟิงมองซุนเสว่ด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงส่งเสียงไม่พอใจออกมา “เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนลูกสาวอกตัญญูแบบแก!”

ตุ้บ

เมื่อได้ยินดังนั้น ซุนเสว่ถึงกับทรุดลงไปบนพื้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

แววตาของหวางหมิ่นเหมินเคร่งขรึม “ผู้นำตระกูลซุนหมายความว่าอะไร”

“ก็จะเปิดศึกกับตระกูลหวางของพวกนายอย่างเต็มรูปแบบยังไงล่ะ!”

เมื่อซุนยู่เฟิงพูดเช่นนั้น เหล่าบอดี้การ์ดของตระกูลซุนก็เข้ามาล้อมคนของตระกูลหวาง

“คนของสมาคมการต่อสู้ก็มาด้วยอย่างนั้นเหรอ”

หวางหมิ่นเหมินกับหวางเยี่ยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ตัวของพวกเขาสั่นเทา

ท่ามกลางการคุ้มกันจากเหล่าชายชุดสูทสีดำ เจิงเทียนเสียงเดินเข้ามาช้าๆ เขากวาดตามองไปรอบๆ ด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นจึงรีบเข้าไปหาถังเฉาแล้วก้มหัวให้เขา

“คุณถังเฉา ผมมาไม่ทันเวลา ลงโทษผมได้เลยครับ!”

ถังเฉายิ้มแล้วโบกมือไปมา จากนั้นเขาจึงมองหวางหมิ่นเหมินด้วยสีหน้ายียวน “เถ้าแก่หวาง ฉันเตรียมการเช่นนี้คงจะพอใจแล้วใช่ไหม”

ตอนนี้หวางหมิ่นเหมินหวาดกลัวและไร้ซึ่งหนทาง ผ่านไปนานกว่าเขาจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก

“พะ..พวกนายมาเพราะเขาอย่างนั้นเหรอ”

“แน่นอน!”

ซุนยู่เฟิง จ้าวเย็นหราน อาจารย์และเจิงเทียนเสียงมีสีหน้าประหลาดใจ แต่ทว่าความเย็นชาและความเคารพยังคงอยู่

“ตระกูลหวางรวมถึงพวกที่รนหาที่ตายอย่างพวกนาย วันนี้อย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”

บารมีของสี่ตระกูลใหญ่ รวมถึงคนกว่าร้อยคนทำเพื่อถังเฉา เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลหวางกับเหล่าศัตรูเก่าหวาดกลัว เขาตระหนักได้ถึงสิ่งนี้แล้ว

เวลาผ่านไป ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้ถังเฉาเห็นพวกเขาเป็นแค่มด ตอนนี้ก็เหมือนกัน!

ความสิ้นหวัง ความโกรธและความไม่พอใจ

จู่ๆ ความรู้สึกอันเลวร้ายก็ถาโถมเข้ามาในจิตใจของคนตระกูลหวาง มันเริ่มบีบคั้นเข้ามา

หลังจากที่อึ้งไปพักหนึ่ง หวางหมิ่นเหมินจึงตวาดออกมา “แล้วมันจะยังไง ถึงพวกนายจะเก่งแค่ไหน ก็เป็นตระกูลระดับเดียวกับตระกูลหวางของเรา ต่อสู้กันจนตัวตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย ฉันไม่กลัวพวกนายหรอก!”

“สมาคมการต่อสู้กับสมาคมการค้าหงยิงก็ด้วย พวกนายไม่สามารถมาก้าวก่ายในการต่อสู้ระหว่างตระกูล เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเท่าเทียม เพราะฉะนั้นตระกูลหวางจะต่อกรกับตระกูลซุนและตระกูลจ้าวเท่านั้น!”

พูดจบ หวางหมิ่นเหมินก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

แต่เขาหัวเราะได้ไม่นานก็โดนคำพูดตอกกลับมา

“เหรอ งั้นก็รวมตระกูลซ่งไปด้วยสิ”

พูดจบ ซ่งหมิงเวยก็ก้าวเข้ามา

ข้างหลังของเขามีกลุ่มคนเดินตามมาด้วยเช่นกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม