ระหว่างทางกลับ ถังเฉาขับรถอยู่ ส่วนหลินชิงเสว่กลับเหม่อลอยมองดูบรรยากาศสองข้างทาง
แสงจันทร์สว่างสดใส ส่องลงบนใบหน้าของเธอ ทำให้ใบหน้าของเธอสว่างวาบและมืดลง เหมือนดั่งภาพฝัน
“ยังคิดถึงเรื่องเมื่อกี้อยู่หรอ?”
ถังเฉาเอียงหัวแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
หลินชิงเสว่เงียบไปสักพัก แล้วพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมทุกคนถึงได้ไม่พอใจพวกเรา วางแผนร้ายเล่ห์เพื่อที่จะแยกพวกเรา ตระกูลของฉันเป็นอย่างนี้ สี่ตระกูลยักษ์ใหญ่เป็นแบบนี้ ตอนนี้ แม้แต่คนของบ้านนายก็เป็นแบบนี้ หรือว่า ฉันคบกับนาย ไม่มีใครมองว่าดีเลยสักคนจริงๆหรอ?”
เธอหันหน้าไปมองถังเฉา สายตาที่เย็นชามีความเสียใจและความผิดหวัง
“ชิงเสว่....”
“นายไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาบอกว่าเป็นแค่ขยะที่เกาะกินฉัน กลับกัน นายไม่เคยพึ่งพาฉันสักนิด ล้วนมีแต่ฉันที่พึ่งพานาย”
หลินชิงเสว่เหมือนว่าไม่ได้ยินที่ถังเฉาเรียก พูดอยู่คนเดียว
“ชิงเสว่!”
ถังเฉาเสียงดังขึ้นเล็กน้อย หลินชิงเสว่ถึงจะมีสติกลับมา มองดูเขาด้วยสายตาประหลาดใจ
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นน้ำมาให้ขวดหนึ่ง
หลินชิงเสว่ตระหนักได้ว่าตัวเองเสียมารยาท จึงรับน้ำขวดนั้นมาโดยไม่พูดอะไรสักนิด และไม่ได้พูดขอบคุณด้วย
ถังเฉายิ้ม มองดูใบหน้าที่สวยงามของเธอแล้วพูดว่า “เธอเปลี่ยนไปแล้ว”
หลินชิงเสว่วางน้ำเปล่าลง อึ้งไปนิดหน่อย “ฉันเปลี่ยนไปตรงไหน?”
“เมื่อก่อนเธอไม่เคยสนใจสายตาของคนอื่น”
น้ำเสียงถังเฉานิ่ง “แม้ว่าเมื่อก่อนจะเลี้ยงลูกไปด้วย ก็สามารถขยายลี่จิงกรุ๊ปได้อย่างตอนนี้ ตอนนั้น เธอสนใจสายตาของคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยมั้ย แล้วสนใจฟังคำพูดเล่าลือสักนิดมั้ย?”
เพียงครู่เดียวหลินชิงเสว่ก็ตกอยู่ในความเงียบ อาจเป็นเพราะความทรงจำเลือนรางแล้ว เธอกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาแดงนิดหน่อย
ก่อตั้งกิจการเองทั้งที่เลี้ยงลูก ไม่รู้ว่าได้เจอกับสายตาและคำดูถูกมามากแค่ไหน
ที่สำคัญที่สุดคือ แม้แต่พ่อของเด็กก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ยิ่งทำให้หลินชิงเสว่รู้สึกเหมือนถูกแทงอย่างนับไม่ถ้วน
แต่ว่า เธอก็ยังกัดฟันผ่านมาได้ เพียงแค่ความพากเพียร ความกล้าหาญนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงทั่วไปจะมี
ทำไมตอนนี้แค่คำนินทาของไม่กี่คนก็ทำให้เธอไม่สามารถสงบได้แบบนี้?
แต่ถังเฉากลับยิ้มอย่างดีใจ “นั่นหมายความว่าในใจเธอแคร์ฉันมาก”
หลินชิงเสว่เช็ดน้ำตาออก แล้วพูดอย่างโมโหเล็กน้อยว่า “ใครแคร์นายกัน? หลงตัวเองให้น้อยหน่อย!”
“ไม่ได้รับการอวยพรแล้วยังไง โลกนี้ นอกจากความตาย ไม่มีอะไรจะสามารถมาแยกเธอกับฉันได้”
ถังเฉาขับรถไปเงียบๆ สายตามองไปข้างหน้า ในสายตามีแสงสะท้อนระยิบระยับ
“แล้ววันไหว้พระจันทร์หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน ฉันไปบ้านนาย แล้วพวกเขาก็อยากจะแยกพวกเราจะทำยังไง?” หลินชิงเสว่ถาม
“พวกเขาไม่มีความสามารถนั้น”
ถังเฉาส่ายหัว น้ำเสียงนิ่งสงบ แต่กลับมีความหนักแน่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
สิบตระกูลหลวงในเยี่ยนตูที่ผู้คนต่างก็เคารพนับถือ ในสายตาเขา ก็ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าสายตาเขาเลย
แต่หลินชิงเสว่กลับยิ้มแย้มแล้วถามว่า “จริงหรอ?”
“จริงสิ”
ถังเฉายิ้มอ่อน “แผนการของเธอที่จะเกษียณตอนอายุ 35 เปลี่ยนล่วงหน้ามาเป็นตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหา เธอสามารถเอาวัยสาวห้าปีที่หล่นหายไปกลับคืนมา เหมือนกับแหวนเพชรในมือของเธอ”
พูดจบก็ชี้ไปที่ Tears of Venus ราคาพันล้านที่บนมือของหลินชิงเสว่
หลินชิงเสว่เองก็ก้มหน้ามองดู ไม่นานก็ส่ายหัว “อย่างนั้นไม่ได้ ฉันเคยบอกว่าจะเอาทั้งหมดของลี่จิงกรุ๊ปเป็นสินสอดให้นาย ผิดคำพูดไม่ได้”
“ฮ่าๆ”
ถังเฉาหัวเราะ แล้วขับรถต่อไป
วันรุ่งขึ้น แสงแดดสาดส่อง
ถังเฉาเองก็ยังเข้าออกอาคารกั๋วจี้อย่างถ่อมตน ไม่มีใครรู้ว่าฐานะเขาก็คือเจ้าของอาคาร
แต่ว่า ทั้งหมดทั่วหมิงจู กลับเหมือนกับว่ามีการเปลี่ยนแปลงลับๆอยู่นิดหน่อย
ตั้งแต่วันก่อนที่ตระกูลหวังถูกทำลาย ตระกูลมหาอำนาจนับไม่ถ้วน ดูจากสถานการณ์โดยรวมแล้ว ตระกูลมหาอำนาจพวกนี้ก็ยอมจำนนต่อคนๆเดียว
ผู้มีอำนาจมากน้อยทั้งหลายในหมิงจูต่างก็จับตามองไปที่ถังเฉา
จากที่เห็น สิ่งเดียวที่มีค่าให้สนใจนั่นก็คือได้แต่งกับหลินชิงเสว่ประธานสาวภูเขาน้ำแข็งอันดับหนึ่งแห่งหมิงจู ส่วนที่เหลือ นั่นก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น
ไม่มีบ้านไม่มีรถ ไม่มีงาน ไม่มีเงินเก็บ ธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดายังไงอีก
แต่ว่า ถ้าดูประสบการณ์ของเขา ทุกคนต่างก็ขนลุกทั้งนั้น
เขาแทบจะมีปัญหากับผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ในหมิงจู แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่รอด กลับกันพวกตระกูลอำนาจที่บอกว่าจะจัดการถังเฉา ตายบ้าง ตระกูลล่มสลายบ้าง แม้แต่หนึ่งในสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่อย่างตระกูลต่งและตระกูลเสิ่น คนหนึ่งยอมจำนน อีกคนล่มสลาย
ไม่มีใครรู้ว่าตระกูลพวกนี้ล่มสลายยังไง แต่ทุกคนรู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับถังเฉาแน่นอน
ชั้นบนสุดของอาคารกั๋วจี้
ถังเฉานั่งอยู่ที่แรก หลัวปู้และเจิงเทียนเสียงสองคนนั่งขนาบข้างซ้ายขวาเหมือนกับผีเฝ้าประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม