ต่างคนต่างมุมมอง คนที่ฉลาดไม่มีทางแพ้ให้คนๆเดียวเป็นครั้งที่สอง
ซ่งเทียนซานขู่ว่าจะฆ่าถังเฉา กลับกลายเป็นว่าเขากลายเป็นคนพิการซะเอง ต่งอี้สิงที่คิดว่าตัวเองควบคุมถังเฉาได้ ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะตายอย่างอนาถ เสิ่นชิงหยุนมองดูพวกเขาสู้กันแล้วค่อยไปแย่งชิงความสำเร็จจากทั้งสองฝ่าย สุดท้ายได้ใช้ทั้งตระกูลเสิ่นมาชดใช้......
เหตุการณ์นองเลือดพวกนี้ล้วนแสดงความจริงให้เห็นว่า ถังเฉา ไม่ใช่เขยขยะที่แต่งเข้าบ้านเกาะเมียกินอย่างที่เป็นข่าวลือแน่ๆ!
จุดนี้ เหยียนเสี้ยงหม่าสังเกตเห็นแต่แรกแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต่อกรกับถังเฉา ตระกูลเหวินเองก็เป็นสัญลักษณ์ที่ต่อกรกับถังเฉา
แต่ว่า ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ทำอะไร อยู่ในวงการนี้ สภาพอย่างที่เป็นอยู่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดแล้ว
เขากำลังกลัว
ตอนนี้ผู้มีอำนาจที่สุดในเมืองหมิงจูไม่ใช่สี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ที่เหลือเพียงตระกูลเหยียน แต่เป็นถังเฉา!
เขากลัวว่าวันหนึ่งจะเป็นเหมือนซ่งเทียนซาน ต่งอี้สิงและเสิ่นชิงหยุน ดังนั้นเขาจึงออกตัวก่อน ใช้งานการต่อสู้ผลักถังเฉาไปอยู่จุดที่อันตรายที่สุด
ทำหม่าจงเสียโฉม ทำร้ายจ้าวเชียนจูน จัดการหยังหวูตี๋และคนเก่งระดับกลางของสมาคมอีกหลายคน รวมทั้งอาจารย์เปาด้วย ความผิดพวกนี้เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนมองถังเฉาอย่างโกรธแค้น
และความเป็นจริงก็เป็นไปตามที่เหยียนเสี้ยงหม่าคิด สมาชิกทุกคนในสมาคมเมื่อได้ยินว่าถังเฉามา สายตาก็จ้องเขาอย่างประหลาดใจ
ฮือฮา......
ขณะนั้น ทุกคนต่างก็ถอยหลังคนละก้าว เหมือนว่าได้ตกลงกันมาก่อนแล้ว
และก็ตอนนี้เองที่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร
ในกลุ่มผู้คน สีหน้าของอาจารย์เปาแปรเปลี่ยน มองด้วยสายตาโมโห “เหยียนเสี้ยงหม่า นายพูดมั่วอะไร!”
“อาจารย์เปา ผมพูดมั่วหรอครับ?”
เหยียนเสี้ยงหม่ามองเขาอย่างแปลกใจ แล้วถามกลับว่า “หรือว่า คุณไม่ได้ถูกถังเฉาล้มหรอครับ? หม่าจงไม่ได้ถูกทำเสียโฉม? แล้วยังมีปรมาจารย์หยังหวูตี๋ไม่ได้ถูกจัดการทิ้งหรอครับ?”
“นี่.....”
อาจารย์เปาสีหน้าแข็งทื่อในทันที มองดูถังเฉาด้วยสายตาหวาดกลัว กลัวการตอบสนองของถังเฉา
แต่ว่า ถังเฉาไม่มีการตอบสนองสักนิด ทั้งยังอ่อนต่อสายตาโกรธแค้นของสมาชิกสมาคมทุกคน
รอยยิ้มไร้เสียง และยังมีความดูถูกเล็กน้อย และมองเหยียนเสี้ยงหม่านิ่งๆ
สายตานี้ทำเอาเหยียนเสี้ยงหม่าตัวแข็ง มีความรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุวิญญาณ
เขารู้สึกอัศจรรย์ ถูกคนมากมายขนาดนี้ในสมาคมจ้องแค้น ถังเฉาควรจะรู้สึกทำอะไรไม่ถูกสิ ทำไมถึงได้นิ่งสงบขนาดนี้?
“นี่ถือว่านายช่วยฉันสร้างอำนาจรึป่าว?” ถังเฉาถาม
เหยียนเสี้ยงหม่าลังเลไปสักพัก แล้วเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ถือว่าใช่มั้งครับ”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างนิ่งสงบ อยู่ๆก็ถามว่า “สมาคมการต่อสู้ของพวกนายนับถือผู้ที่เก่งกาจอยู่ระดับสูง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ใช้ความเก่งมาเจรจา?”
“ถูกต้องครับ”
เหยียนเสี้ยงหม่ากลับสู่ความนิ่ง ในใจยิ้มเยาะ ไอ้นี่ยังไม่รู้อีกว่ากลายเป็นเป้าหมายของผู้คนมากมายแล้ว
“งั้นก็ดี”
ถังเฉายิ้มอ่อน จากนั้นก็กวาดมองรอบด้าน “ฉันไปมาคนเดียวจนชินแล้ว แต่ว่าไม่วางใจญาติพี่น้อง พวกนายคนเยอะขนาดนี้ พอที่จะปกป้องพวกเขาพอดี”
ฮึ่ม.....
เมื่อคำพูดนี่ออกจากปาก ทุกคนต่างตกใจ สายตาของทุกคนโมโหจนขีดสุด ถ้าไม่ใข่เพราะว่าตอนนี้งานประลองยังไม่เริ่ม พวกเขาคงจะลงมือไปนานแล้ว
“อวดเก่งจริงๆ!”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดคำพูดแบบนี้ที่สมาคมการต่อสู้ของฉัน?”
“ชนะยอดฝีมือของพวกเราไม่กี่คน ก็แยกแยะไม่ออกแล้ว ถึงได้เพ้อฝันให้พวกเราเชื่อฟังนาย!”
คนในสมาคมต่างก็ด่าออกมา มองถังเฉาอย่างกับคนโง่
เหยียนเสี้ยงหม่าเองก็มองถังเฉาอย่างอึ้งตะลึง ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่อำนวย เขาแทบอยากจะไปผ่าสมองถังเฉาดูว่าข้างในใส่อะไรไว้บ้าง
เขาแยกไม่ออกสถานการณ์ในตอนนี้หรอ? เป็นเป้าหมายแล้วแท้ๆ ยังกล้าพูดอวดเก่ง ถึงได้อยากให้สมาชิกทุกคนในสมาคมเชื่อฟังเขา?
บ้าไปแล้วหรอ?!
แต่ว่า เขาจะรู้ได้ยังไงว่าถังเฉาดูออกถึงการประจบฆ่าของเขา ที่ไม่ได้เปิดโปงก็เพราะว่าไม่ได้สนใจ
ใช่แล้ว เหยียนเสี้ยงหม่าโอ้อวดอำนาจให้เขา ประจบเขา ถังเฉากลับยอมรับอย่างนิ่งๆ
เพราะว่า เขาไม่เหมาะสมที่จะได้รับการเคารพแบบนี้
“คุณถังครับ ผมเต็มใจครับ!”
ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งที่ต่างจากพวกดังขึ้นมาในกลุ่มผู้คน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม