ทั่วทั้งตระกูลหลวงในเยี่ยนตูไม่มีเสียงแม้แต่น้อย แต่หัวใจของทุกคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย รังสีสังหารในที่นั้นล้วนมาจากคนเพียงคนเดียว
ถังเฉา
เขานิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปแกะสลัก อยู่ในท่วงท่าเดิมมาตลอด แต่ว่าทุกคนล้วนสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตที่ไม่อาจควบคุมได้
“ชิงเสว่เอาหัวโขกกำแพง?”
เขาพูดพึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“อืม!”
หลินจ้าวหยูนออกแรงพยักหน้า ร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำมาตั้งแต่แรกแล้ว
ลั่วเยนอวิ๋นถอนหายใจอย่างจนปัญญา สถานการณ์ในตอนนี้แย่อย่างถึงที่สุดจริง ๆ
ทันใดนั้นถังเฉาก็หันกลับมา มองหลินโป๋หลายและพวกของหลินอิ่นแวบหนึ่งอย่างเย็นยะเยือก
ทันใดนั้นทุกคนราวกับตกอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง
สายตาแบบนั้นนำพาความปรารถนาที่อยากจะสังหารที่น่าสะพรึงกลัว ไม่เห็นพวกเขาเป็นคนเลยสักนิด
“ทางที่ดีพวกคุณสวดภาวนาให้ชิงเสว่ไม่เป็นอะไรจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นผมจะฝังทั้งตระกูลหลินลงไปตายด้วย!”
ทิ้งประโยคนี้ไว้อย่างเย็นชา ถังเฉาพุ่งขึ้นไปข้างบนอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว
หลินโป๋หลายไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าหลินชิงเสว่อยู่ในห้องไหน แต่สัมผัสที่หกของถังเฉานั้นแตกต่างจากคนทั่วไป รู้จักหลินชิงเสว่แต่แรก ผลักประตูเข้าไป
บนผ้าปูที่นอนที่ขาวราวหิมะ หลินชิงเสว่นอนแผ่ออกอยู่อย่างเงียบ ๆ ตาทั้งคู่ปิดสนิท สีหน้าสงบเยือกเย็น
ถ้าหากไม่ใช่เพราะคราบเลือดบนหน้าผาก ถังเฉาคงคิดว่าเธอแค่หลับไป
“ชิงเสว่!”
ถังเฉาพุ่งเข้าไปหาหลินชิงเสว่อย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้นมาสัมผัสลมหายใจของเธอ
สิ่งที่ทำให้ถังเฉาผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก็คือ หลินชิงเสว่ยังมีลมหายใจ ทั้งยังสม่ำเสมอมาก
บาดแผลบนหน้าผากเป็นแค่บาดแผลบนพื้นผิวเท่านั้น
“พี่เขย พี่สาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”
ในตอนนี้หลินจ้าวหยูนเองก็ปราดเข้ามา
เฟิ่งหวงไม่ได้เข้ามา แต่กลับอุ้มถังเสี่ยวลี้รออยู่ด้านนอก โยกย้ายความสนใจของเธอ
ถ้าหากเจ้าหนูน้อยได้รู้ว่าหลินชิงเสว่บาดเจ็บเข้าละก็ จะต้องร้องไห้ออกมาแน่
“เธอไม่เป็นไร แค่ได้รับแผลภายนอกเท่านั้น!”
ถังเฉากอดหลินชิงเสว่เอาไว้ เอ่ยเสียงต่ำ
ได้รู้ว่าหลินชิงเสว่ไม่เป็นอะไร หลินจ้าวหยูนก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ หนึ่งเฮือก พวกของหลินโป๋หลายก็พากันวางใจ
ยังดีที่หลินชิงเสว่ไม่เป็นอะไรไป ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ พวกเขาเองก็จะพลอยซวยไปด้วย
จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปดูสถานการณ์ในห้อง เสียงเย็นชาของถังเฉาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ใครกล้าเหยียบเข้ามาในห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียว... ตาย!”
คำนี้พูดดังออกมา พวกของหลินโป๋หลายก็เดือดดาลเต็มใบหน้า
“ที่นี่คือตระกูลหลวงในเยี่ยนตูของฉัน ถือดีอย่างไรไม่ให้เข้าไป?”
“แกต่างหากที่เป็นคนที่ควรจะไสหัวออกไป!”
ทุกคนตะโกนออกมาเสียงดัง เตรียมที่จะพุ่งเข้าไป
“พวกคุณลองเข้ามาดูสักคนสิ?”
แต่ทว่า ก็มีเสียงเย็นชาอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ลั่วเยนอวิ๋นเดินเข้ามาช้า ๆ ขวางอยู่ตรงหน้าของทุกคน
ดวงตาเย็นชาที่งดงามกวาดตามองหน้าของทุกคนทีละคน ๆ “พวกคุณทั้งกลุ่มเป็นฆาตกรฆ่าคน ไม่มีคุณสมบัติจะมาเยี่ยมชิงเสว่!”
หลินอิ่นใบหน้าแข็งค้าง แต่ก็ยังถามด้วยความโมโห “พวกเราล้วนเป็นญาติผู้ใหญ่ของชิงเสว่ อาศัยอะไรมาไม่มีคุณสมบัติไปเยี่ยมเธอ?”
ลั่วเยนอวิ๋นหัวเราะอย่างเสียดสี “ตอนนี้รู้แล้วสินะว่าพวกคุณเป็นญาติผู้ใหญ่ของชิงเสว่ คนที่จัดการชีวิตของเธอโดยพลการ ใช้วิธีการอันต่ำช้าแยกเธอกับถังเฉาคือใครกันล่ะ?”
คำพูดของเธอทำให้หลินโป๋หลายกับหลินอิ่นล้วนมีสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติในทันที เบนหน้าหนีอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่
สายตาของลั่วเยนอวิ๋นดุดันเป็นอย่างมาก “พวกคุณฟังฉันให้ดี ๆ นะ ชิงเสว่ไม่ได้เป็นญาติของพวกคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นหลานสาวของฉันด้วย ถ้าพวกคุณคิดจะทำอะไรเธอก็ต้องมาถามฉันก่อน!”
ชั่วพริบตา สีหน้าของหลินโป๋หลายกับหลินอิ่นก็ไม่น่ามองอย่างถึงที่สุด จ้องลั่วเยนอวิ๋นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว
คำพูดนี้ของเธอทำให้ต้อนตระกูลหลินให้จนมุมในทันที
ลั่วเยนอวิ๋นไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือวงศ์ตระกูลเบื้องหลังของเธอ รวมถึงผู้หญิงที่ออกจากเยี่ยนจิงไปยี่สิบกว่าปีที่ยังไม่กลับมาคนนั้นอีก
เมื่อเธอกลับมา ทั้งเยี่ยนจิงจะต้องเริ่มนองเลือดแน่
“ไปเอาผ้าพันแผลมา!”
ทันใดนั้น ถังเฉาที่กอดหลินชิงเสว่มาโดยตลอดก็เปิดปากเอ่ยเสียงต่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม