ในกลุ่มของคนที่เดินมานั้นมีอยู่คนหนึ่งที่สวมชุดสูทรองเท้าหนัง ใบหน้าหล่อเหลาสง่างาม ก็คือสื่อเหลย
ถังเฉาที่ยืนอยู่ด้านหลัง เองก็หรี่ตาลงน้อย ๆ จ้องเขา
เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมงานของหวางเยี่ยน ฐานะที่แท้จริงคือลูกนอกสมรสของจ้าวเหล่าลิ่ว
การเลื่อนตำแหน่งของสื่อเหลยก็หนีไม่พ้นเป็นความรับผิดชอบของจ้าวเหล่าลิ่ว
นี่มันหมายถึงอะไร?
หมายความว่าหมากที่จ้าวเหล่าลิ่ววางเอาไว้ได้ถูกแทรกซึมเข้าไปในทุก ๆ สายอาชีพตั้งนานแล้ว
“แน่นอนว่าฉันเป็นตัวแทนตระกูลจ้าวแห่งเมืองหมิงจูมาเข้าร่วมงานประมูลน่ะสิ”
สื่อเหลยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่เหมือนกับจ้าวชุนเซิงเมื่อก่อนนี้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่มีความเคารพต่อจ้าวเย็นหรานเลยสักนิด
ใบหน้างดงามของจ้าวเย็นหรานเย็นยะเยือก “ตระกูลจ้าวมีฉันออกงานก็พอแล้ว ตอนนี้นายไสหัวกลับเมืองหมิงจูไปซะ!”
สื่อเหลยถูกประโยคนี้หยอกให้หัวเราะออกมา “น้องสาว ตอนนี้เธอยังอ่านสถานการณ์ไม่ออกอีกเหรอ? ตอนนี้เธอถูกขวางอยู่ข้างนอก จะเข้าไปได้อย่างไร?”
“พวกเราเข้าไปไม่ได้ นายเข้าไปได้?”
จ้าวเย็นหรานถามกลับด้วยใบหน้าเยือกเย็น
สื่อเหลยหัวเราะเบา ๆ สองครั้ง จากนั้นก็มองไปยังชายหนุ่มรูปงามสองคนที่อยู่ด้านหลัง “น้องสาว เธอน่าจะยังไม่รู้ว่าสองท่านนี้ไปใครสินะ?”
ได้ยินอย่างนั้น สายตาของจ้าวเย็นหรานก็มองไปด้านหลัง ความสนใจทั้งหมดของเธอพุ่งไปอยู่ด้านหลังของสื่อเหลยแล้ว ยังมองไม่เห็นคนที่อยู่ด้านหลังจริง ๆ
ถังเฉากลับหรี่ตาลงพิจารณาชายหนุ่มสองคนนั้น
ชายหนุ่มสองคนก็สังเกตเห็นถังเฉาแล้ว ทันใดนั้นสายตาก็เปลี่ยนเป็นชั่วร้าย
“นี่ไม่ใช่คุณถังหรอกเหรอ? บังเอิญจังที่ได้มาเจอกันที่นี่”
เซี่ยหรูหลงกับลู่โป๋หานเดินยิ้มเข้ามา มองดูเครื่องจักรที่อยู่ด้านหลังแวบหนึ่งแล้วเข้าใจอะไรได้ในทันที
ยิ้มอย่างชั่วร้ายยิ่งขึ้น “ตระกูลเซี่ยของผมเคยมอบบัตรผ่านประตูให้คุณ กลับถูกคุณโยนทิ้งเหมือนขยะ ตอนนี้คุณไม่มีบัตรผ่านประตู อยากเข้าก็เข้าไปไม่ได้ ผมสามารถเข้าใจว่าคุณหาเหาใส่หัวตัวเองได้ไหมครับ?”
พอคำนี้พูดออกมา จ้าวเย็นหราน หวางเยี่ยน รวมถึงสื่อเหลยเองก็มองไปทางถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อทันที
บัตรผ่านประตูงานประมูลเจียงเฉิงล้ำค่าหายาก พวกเขาล้วนแต่วิ่งวุ่นกันใหญ่อาศัยคอนเนกชันถึงหามาได้
ถังเฉากลับโยนทิ้งเหมือนขยะ?
นี่มันเป็นความสิ้นเปลืองระดับไหนกัน?
“ตระกูลลู่ของเราก็เหมือนกัน แต่ว่า… ผมไม่ได้ไร้น้ำใจเหมือนตระกูลเซี่ย ผมยินดีให้โอกาสคุณได้เสียใจครั้งหนึ่ง”
อารมณ์บนใบหน้าของลู่โป๋หานเปลี่ยนเป็นหยอกเย้าโดยพลัน ผลักสาวงามในอ้อมอกออกไป ชี้ไปที่เฟิ่งหวงที่อยู่ด้านหลังของถังเฉา แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังคุณไม่เลวเลยนะ ให้ผมยืมหนึ่งคืน ผมจะให้บัตรผ่านประตูกับคุณหนึ่งใบในนามของตระกูลลู่ เป็นอย่างไรครับ?”
ในดวงตาของเฟิ่งหวงมีความเย็นยะเยือกที่น่าสะพรึงกลัวปะทุขึ้นมาทันที ถังเฉากลับยับยั้งเธอไว้
“ผมแนะนำว่าคุณอย่าทำแบบนี้ดีกว่านะครับ แบบนั้นอาจจะเอาชีวิตของคุณได้"
ลู่โป๋หานฟังความหมายที่อยู่ในคำพูดของถังเฉาไม่ออก เพียงแต่คิดว่ากำลังพูดว่าเธอเป็นดอกกุหลาบที่มีหนามดอกหนึ่ง ดังนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าจึงยิ่งแย้มมากขึ้น “ผมชอบแบบที่เอาชีวิตของผมไปได้แบบนั้นแหละครับ เร้าใจดี"
ตอนที่พูดออกมาก็ยื่นมือออกมาแล้ว ตัดสินใจจะสัมผัสใบหน้าของเฟิ่งหวง
พลั่ก!
ถังเฉากุมมือของเขาไว้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อย ๆ หายไปจนไม่เหลืออะไรเลย “ลองยื่นมือมาอีกสิ”
บางทีอาจจะเป็นเพราะสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารที่อยู่บนร่างของถังเฉา ในที่สุดลู่โป๋หานก็เก็บมือกลับมา เพียงแต่ว่าใบหน้าเปลี่ยนเป็นเข้มครึ้ม
“คุณพลาดความปรารถนาดีของสองตระกูลของพวกเราที่มีต่อคุณแล้ว ไม่สามารถปักหลักอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงได้แล้ว”
ถึงแม้ว่าถังเฉาจะล้างบางตระกูลเหวินไปแล้ว ตีฝ่าตระกูลหูไปแล้ว นี่ไม่ใช่พลังของตัวถังเฉาเอง แต่เป็นการใช้บารมีของผู้อื่นมาบังหน้า
ถังเฉากลับมองข้ามไป เกรงว่าพวกเขาจะยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรนหาที่ตายอยู่ที่เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย
“หึหึ น้องสาว คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเพื่อนของเธอจะกล้ามากขนาดนั้น แม้แต่คุณชายเซี่ยกับคุณชายลู่ก็ยังกล้าล่วงเกิน”
สื่อเหลยหัวเราะหึหึแล้วเอ่ยว่า
“นายหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ นายไม่มีสิทธิ์มาพูดอะไรที่นี่!”
สีหน้าของจ้าวเย็นหรานไม่น่ามองอย่างถึงที่สุด เอ่ยตำหนิด้วยความโกรธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม