“แปดร้อยล้านหรือ!”
ถังเฉาค่อยๆพูดตัวเลขนั้นออกมา
สุดท้ายเซี่ยหรูหลงมีสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย และแฝงไปด้วยความอาฆาต
เขาไม่คิดเลยว่า ถังเฉาจะดื้อด้านที่จะแย่งตราแสดงยศนี้กับเขา
แปดร้อยล้านเกือบที่จะเกินขอบเขตที่เขารับไหวแล้ว
ระหว่างที่เขากำลังคิดลังเลว่าจะยอมแพ้ดีมั้ย ทันใดนั้นเขามองไปที่แววตาของถังเฉาที่อยู่ล่างเวที เขาอึ้งไปเลย
นี่เป็นแววตาอะไรกันแน่?
ในความเย็นชานั้นแฝงไปด้วยความดูหมิ่น เหมือนกำลังใช้สายตาหัวเราะเยาะเขา
ทันใดนั้นน้ำเสียงของเขากลายเป็นน้ำเสียงที่เย็นชาและสั่นเครือ: “หนึ่งพันล้าน!”
นี่เป็นราคาสุดท้ายที่เขาสู้ไหว ถ้าราคาสูงกว่านี้เขาก็สู้ไม่ไหวแล้ว
ถึงเขาจะโทรไปหาเซี่ยสิงจู๋ แล้วให้ผู้นำให้เงินเขามากกว่านี้ได้ แต่เซี่ยสิงจู๋ไม่ใช่พ่อของเขา เขาจึงไม่กล้าขอ
ล่างเวทีเงียบสงัดไม่มีเสียงเคาะราคาเพิ่ม
ดังนั้นเซี่ยหรูหลงยิ้มอย่างดุร้ายน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความบ้าระห่ำ
“ถังเฉา ถึงฉันจะไม่รู้ว่านายไปเอาบัตรผ่านมาจากไหนเยอะแยะ แต่มีเงินก็คือพระเจ้า นายสู้ฉันไม่ได้หรอก!”
ถึงเขาจะรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่เขามั่นใจว่าบัตรในมือของถังเฉาเป็นของหลินชิงเสว่
ผู้ดำเนินการประมูลสาวสวยถือโอกาสนี้นับถอยหลัง
“หนึ่งพันล้านครั้งที่หนึ่ง”
“หนึ่งพันล้านครั้งที่สอง”
“หนึ่งพันล้านสองร้อยล้าน”
ขณะนี้เสียงที่จืดชืดของถังเฉาดังขึ้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยหรูหลงหายไปทันที สิ่งที่ปรากฏหลังจากนี้คือความตกตะลึงไร้ขีดสุด
จ้าวเย็นหรานร้อนรนขึ้นมาทันที: “นายบ้าไปแล้วหรือ ใช้เงินพันสองร้อยบ้านมาซื้อตราแสดงยศนี่นะ?”
จ้าวเย็นหรานไม่รู้เลยว่าตระกูลหลวงในเยี่ยนตู หมายถึงอะไร เธอคิดเพียงว่าไม่คุ้มที่จะเอาเงินจำนวนมากขนาดนี้ไปซื้อตราแสดงยศ
ถังเฉากลับไม่พูดอะไรเลย รอให้ผู้ดำเนินการประมูลนับถอยหลัง
“ชั่งน่ารังแกจริงๆ?”
ลู่โป๋หานนั่งอยู่บนโซฟา และกอดสาวสวยคนหนึ่งอยู่แล้วพูดออกมาด้วยความเยาะเย้ย
ตระกูลลู่ไม่ได้เข้าร่วมการประมูล ทำให้การประมูลครั้งนี้แรงกดดันไม่ค่อยมากนัก
“หุบปาก!”
เซี่ยหรูหลงตะโกนออกมาด้วยความโมโหและมือไปขยี้ผมจนยุ่งเหยิงไปหมด มีเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากเม็ดใหญ่
หนึ่งพันสองร้อยล้านเป็นราคาที่สูงมาก สูงจนเกินขอบเขตที่เขาจะรับไหว ตอนนี้เงินเขาหมดแล้ว
ขณะเดียวกัน สาวสวยผู้ดำเนินการประมูลเริ่มนับถอยหลังแล้ว
“ หนึ่งพันสองร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง ”
“ หนึ่งพันสองร้อยล้านครั้งที่สอง ”
เซี่ยหรูหลงจ้องมองถังเฉาที่อยู่ใต้เวทีอย่างไม่ละสายตา อยากที่จะรู้ว่าเขามีเงินพันสองร้อยล้านจริงมั้ย
ถ้าถังเฉาไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นจริง เพียงแค่เขาฝืนใจกัดฟันไปยืมลู่โป๋หานนิดหน่อย ก็สามารถที่จะประมูลมาได้แล้ว ถ้าถังเฉามีเงินเยอะจริงๆ เขาก็จะยอมแพ้
แต่น่าเสียดายจนถึงตอนนี้ ถังเฉายังมีสีหน้าที่เป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่สามารถเดาความคิดของเขาได้เลย
“ หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบสามล้าน....... ”
ระหว่างที่ผู้ดำเนินการประมูลกำลังจะเคราะราคา เซี่ยหรูหลงตัดสินใจทุ่มสุดตัว:“ หนึ่งพันห้าร้อยล้าน! ”
หนึ่งพันห้าร้อยล้าน เป็นกำไรทั้งปีของบริษัทของตระกูลเซี่ยเลยนะ เพื่อตราแสดงยศนี้ เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้มันมา
เมื่อได้พูดราคานี้ออกมา ดวงตาของเซี่ยหรูหลงเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย แล้วจ้องมองไปที่การกระทำของถังเฉา
ครั้งนี้ถังเฉาไม่ได้สู้ราคาและยิ้มไปหาเขา: “นายชนะแล้ว”
“ ฉันชนะแล้ว......”
ใบหน้าของเซี่ยหรูหลงปรากฏความดีใจ แต่ยังไม่ทันไรสีหน้าของเขากลับไปแข็งทื่ออีกครั้ง
“นายกำลังหยอกล้อกับฉันหรือ?”
ถังเฉายักไหล่ทำสีหน้าเหมือนคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้:“ฉันก็แค่ประมูลเล่นๆ ใครจะรู้ว่านายจะประมูลตาม?”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา ดวงตาของเซี่ยหรูหลงถลนออกมา เสือกได้สูบฉีดขึ้นมาตรงหน้าอกของเขา เขาโมโหมาก
หนึ่งพันห้าร้อยล้านนะ บนตัวเขาไม่มีเงินมากขนาดนี้หรอก
ตุ้งตุ้งตุ้ง
ขณะนี้ คนรับใช้ที่ใส่สูทได้ผลักประตูเดินเข้ามา แล้วยิ้มและพูดกับเซี่ยหรูหลงว่า: “คุณเซี่ย ไม่ทราบว่าคุณจะจ่ายหนึ่งพันห้าร้อยล้านนี้อย่างไงครับ?”
สีหน้าของเซี่ยหรูหลงกลายเป็นสีเลือดหมู อึ้งไปพักหนึ่งถึงได้ฝืนยิ้มออกมา: “สามารถผ่อนจ่ายได้มั้ยครับ เพราะตอนนี้ผมมีหนึ่งพันล้าน อีกห้าร้อยล้าน ผมจะจ่ายภายในหนึ่งเดือน”
คนรับใช้ยังคงยิ้มอย่างมีมารยาท: “ไม่ได้ครับ คุณผู้ชาย ทางเราไม่รับค้างชำระครับ”
เซี่ยหรูหลงได้ยินแบบนี้ สีหน้ามืดมนยิ่งกว่าเดิม ความแค้นในใจที่มีต่อถังเฉาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม