ทุกคนในที่เกิดเหตุได้ยินอย่างชัดเจน และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด
ก่อนหน้านี้เฉิงเพ่ยอวยตระกูลซ่งว่าตระกูลซ่งรวยและแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ตอนนี้เมื่อพูดถึงขั้นตอนการซื้อกิจการ เขาพูดว่า "ไม่มีเงิน" ซึ่งให้ความรู้สึกว่าหัวเสือหางงู เริ่มต้นได้สวยงาม แต่ตอนจบกลับแย่
ใบหน้าของเฉิงเพ่ยน่าเกลียดมาก เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า “ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าราคาเท่าไหร่ก็จ่ายได้ไม่ใช่เหรอ?”
“คุณเป็นควายเหรอ?”
ทางโทรศัพท์ มีเสียงโกรธจากหัวหน้าฝ่ายการเงินของตระกูลซ่งว่า "ในสัญญามีระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นเงิน 3 หมื่นล้าน คุณขึ้นราคาเป็น 5 หมื่นล้าน ทำไมคุณไม่ไปปล้นธนาคารล่ะ? "
ด่าเฉิงเพ่ยไปหนึ่งรอบ แต่หัวหน้าฝ่ายการเงินยังคงรู้สึกไม่สะใจ ยังคงตะโกนด่าทอต่อไป
“นี่คือความสามารถในการเจรจาของคุณ คุณเคยเป็นรองประธาน? ฉันว่าหัวหน้าแผนกคนใดคนหนึ่งก็เก่งกว่าคุณ!”
“การซื้อกิจการครั้งนี้ที่จะซื้อได้แน่นอน แต่ถูกคุณทำมันพังแบบดื้อๆ หากคุณหนูรู้ จะรอดูว่าคุณจะอธิบายอย่างไร!”
ตุ๊ดตู๊ด...
หลังจากด่าเสร็จ ไม่ให้โอกาสเฉิงเพ่ยได้อธิบายเลย ก็วางสายทันที
เฉิงเพ่ยผงะและทำอะไรไม่ถูก
แม้ว่าในสัญญาจะระบุว่าเป็นเงิน 3 หมื่นล้าน ตามแบบแผนการเจรจา นี่เป็นเพียงราคาเริ่มต้น บ่อยครั้งที่เจ้าของไม่พอใจราคา และยังคงดันราคาขึ้นเรื่อยๆ
เฉิงเพ่ยทำในสิ่งที่ปกติคนทั่วไปทำกันเท่านั้น แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ เงินจำนวน 3 หมื่นล้านเป็นเงินทั้งหมดที่ตระกูลซ่งสามารถจ่ายได้
เมื่อเห็นฉากที่หัวเราะก็ไม่ใช่ร้องไห้ก็ไม่ใช่ หลินชิงเสว่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังเฉาและถอนหายใจอย่างโล่งอก
มุมปากของถังเฉายกขึ้นเล็กน้อย มองเฉิงเพ่ยอย่างติดตลก
ทำไมเขาถึงกล้าใช้บริษัทลี่จิงกรุ๊ปของหลินชิงเสว่เดิมพัน?
นั่นเป็นเพราะเขาแน่ใจว่าฝ่ายตระกูลซ่งไม่สามารถเอาเงิน 5 หมื่นล้านออกมาได้
ก่อนที่ถังเฉาจะกลับมาที่เมืองหมิงจู เขาก็ได้ให้หลัวปู้ไปตรวจเช็ดการขึ้นลงห่วงโซ่อุปทานของบริษัทตระกูลซ่งแล้ว
ผลลัพธ์คือ ขึ้นๆลงๆอยู่ที่1หมื่นล้าน
ตัวเลขนี้ถือเป็นบริษัทที่มั่งคั่งในเมืองหมิงจูแล้ว หลังจากที่ซ่งหรูอี้เข้ารับตำแหน่ง เธอพยายามทำได้ถึง1หมื่น2 พันล้านถึง 1หมื่น3 พันล้าน
เพื่อซื้อกิจการของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป ตระกูลซ่งได้เสนอราคาโดยตรงที่ 3 หมื่นล้าน ซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจ ซึ่งบ่งบอกว่านอกจากห่วงโซ่ทุนของตระกูลซ่งแล้ว ยังมีกองกำลังภายนอกที่ให้ทุนแก่ตระกูลซ่งอยู่เบื้องหลัง
ถังเฉาไม่รู้ว่ากองกำลังนี้เป็นใคร แต่สามารถเห็นได้ว่า ตระกูลซ่งมีความจริงใจอย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่ถูกผู้หญิงโง่ๆเฉิงเพ่ยคนนี้ทำจนพัง
สามารถจ่าย 3หมื่นล้านนั้นเป็นขีดจำกัดแล้ว แต่เฉิงเพ่ยตัดสินใจเอง และขึ้นราคาโดยตรงเป็น 5หมื่นล้าน
สิ่งนี้ตัดทางหนีทีไล่ของตระกูลซ่งโดยตรง
“เป็นอะไรไป ตระกูลซ่งของพวกคุณพบปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
ถังเฉามองเฉิงเพ่ยติดตลกและพูดด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของเฉิงเพ่ยดูแย่ แม้ว่าเธอจะเสียหน้า แต่เธอตัดสินใจและพูดว่า "ฉันเปลี่ยนใจแล้ว มันคือ 3หมื่นล้าน!"
“แปลกจัง คุณเพิ่งบอกว่า 5หมื่นล้านก็ได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆถึงกลับเป็น 3หมื่นล้านล่ะ?”
ถังเฉาแสร้งทำเป็นงงงวยและถาม "ประธานเฉิง นี่ไม่ใช่การละเล่นของเด็ก ลี่จิงกรุ๊ปของเราได้แสดงความจริงใจแล้ว ตระกูลซ่งของพวกคุณก็ควรพูดคำไหนคำนั้นนะ"
“ให้เงินพวกคุณ 3หมื่นล้านก็มากพอแล้ว อย่ามาได้คืบจะเอาศอก!”
เฉิงเพ่ยเบิกตากว้างแล้วมองไปที่หลินชิงเสว่“มูลค่าตลาดของลี่จิงกรุ๊ปของพวกคุณ ตอนนี้อยู่ที่ 5 หมื่นล้านเท่านั้น แม้ว่ามันจะพัฒนาได้ดีมากในอนาคต มันก็จะไม่มีวันสูงถึง 3หมื่นล้าน พวกคุณได้กำไรมากแล้ว!"
หลินชิงเสว่หัวเราะอย่างเย็นชา และทันใดนั้นก็ไม่วิตกกังวลอีกต่อไป "เฉิงเพ่ย สิ่งที่สำคัญที่สุดในเจรจาธุรกิจคือเครดิต คือความน่าเชื่อถือ เดี๋ยวก็บอกว่า 5หมื่นล้าน เดี๋ยวก็3หมื่นล้าน คุณคิดว่านี่เป็นการซื้อผักที่ตลาดเหรอ? ฉันจะเชื่อคุณได้อย่างไร?"
“หลินชิงเสว่ คุณอย่าไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”
รอยยิ้มที่ประชดประชันที่อยู่สูงส่งของหลินชิงเสว่ ทำให้เฉิงเพ่ยรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดทันที “ต่อหน้าตระกูลซ่ง พวกคุณทำได้แค่ยินยอมเท่านั้น ไม่เช่นนั้น เมื่อรอให้ตระกูลซ่งโจมตี บริษัทลี่จิงกรุ๊ปของพวกคุณ มีทางเดียวเท่านั้นคือล้มละลาย!"
เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ของเฉิงเพ่ย หลินชิงเสว่ไม่เอามาใส่ใจเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม