ตูม!
หลังจากที่หลินชิงเสว่ตัดสินใจแล้ว ทุกคนก็ตะลึง ทุกคนชะงักไปตามๆกัน
หลี่ถาวดึงสติกลับมาเป็นคนแรก จึงร้อนรนทันใด
“ประธานหลิน ไม่ได้นะคะ ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคอะไร พวกเราจะเผชิญหน้าไปด้วยกันนะคะ”
ฟางหย่าก็ตะลึงหนัก “ใจร้อนเกินไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังห่างจากจุดนั้นอีกไกล”
ถังเฉาเงียบสงบไม่พูดอะไร เขารู้ดีมาก ว่าสำหรับเธอแล้วลี่จิงกรุ๊ป หมายถึงอะไร
นี่คือลูกของเธอ ตอนวัยรุ่นเธอออกจากบ้านด้วยความเกลียดชัง เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ว่าไม่มีตระกูลหลิน เธอก็ยังมีชีวิตที่ดีได้
เธอเหมือนกับฟองน้ำ หนึ่งวันยี่สิบสี่ชั่วโมง เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเรียน ไม่มีใครกระหายความสำหรับเท่ากับเธอแล้ว
สุดท้าย บริษัทลี่จิงกรุ๊ปก็เกิดขึ้นมา
เธอคือแม่ของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป เป็นจิตวิญญาณของกรุ๊ปนี้
แต่เธอกลับพูดล้มละลายสามคำนี้ออกมา ดูออกว่าเรื่องครั้งนี้มีผลกับเธออย่างมาก
ซ่งหรูอี้ลงมือทำร้ายได้อย่างเจ็บแสบ
ในขณะเดียวกันนี้ ประตูของลี่จิงกรุ๊ปได้มีเสียงเดินเท้าอย่างรวดเร็วดังขึ้นมา
ทุกคนหันไปมอง เห็นผู้ชายสวมใส่ชุดสูทตระกูลซ่งเดินเข้ามา
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกคุณตระกูลซ่งยังมาอีกทำไมกัน?”
ทันใดนั้น ฟางหย่าและหลี่ถาวเป็นแกนนำ แล้วทุกคนก็ต่างมองด้วยสายตาโมโหด้วยทั้งหมด
ชายผู้นี้ เคยเจอถังเฉามาแล้วหนึ่งครั้ง
เขาและตระกูลซุนโกรธเคืองกัน เขาจึงเป็นตัวแทนของบริษัทตระกูลซ่งสั่งสอนซุนยู่เฟิง แต่ ตอนนั้นความแค้นของถังเฉาและซ่งหรูอี้เมื่อห้าปีที่แล้วได้จัดการแล้ว ถือว่าเป็นมิตรกันเป็นที่เรียบร้อย
แต่ตอนนี้ ซ่งหรูอี้ประกาศศึก เขาจะช่วยถังเฉาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
เขาเย็นชาแล้วกล่าว “ที่ผมมา ก็เพื่อถ่ายทอดคำพูดของคุณหนู
“ถ้าจะให้ตระกูลซ่งร่วมงานกันต่อไป ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ เชิญประธานหลินของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป คืนนี้เวลาสามทุ่ม มาที่ตระกูลซ่งตามลำพัง จัดการปัญหา!”
ตูม!
เมื่อพูดจบ ทุกคนของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปต่างพากันโมโห
ในแววของถังเฉา เต็มไปด้วยความอาฆาต
เมื่อพูดจบ ชายคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ต่อ จากไปทันที
ทั้งบริษัท เงียบเป็นป่าช้า
งานนี้ ทุกคนก็เข้าใจแล้ว ว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ ซ่งหรูอี้จะให้หลินชิงเสว่ตายอย่างอนาถ
ความจริง ถังเฉารู้ดี ถ้าทุ่มเททุกอย่าง หลินชิงเสว่ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของเธออยู่ดี
เพราะคนที่จิตใจดีตั้งแต่กำเนิด ไม่มีทางทอดทิ้งทุกอย่างได้
แต่ซ่งหรูอี้ทำได้
“ออกไปทั้งหมดก่อนก็แล้วกัน ให้เธอสงบจิตสงบใจตามลำพัง”
ถังเฉาพูดกับทุกคน
ฟางหย่าก็รู้ ว่านี่เป็นคำพูดที่พูดด้วยอารมณ์ตอนวู่วาม ไม่นานทุกคนก็สลายตัว
ไม่มีใครออกจากแผนกของตัวเอง ยิ่งเป็นช่วงวิกฤต ก็ยิ่งทิ้งไปไม่ได้
หลินฉ่ายเวยเดินลงชั้นล่าง พลางหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดโทรออก
ไม่นาน ก็โทรติด หลินฉ่ายเวยถามอย่างเกรี้ยวกราด “คุณโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว บรรลุเป้าหมายก็ได้แล้ว ทำไมต้องบีบกันขนาดนี้?”
“โหดเหี้ยม? เหอะๆ…...”
มีเสียงหัวเราอันเย็นชาของซ่งหรูอี้ดังขึ้นมาจากปลายสาย “ใครบอกว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว เมื่อสามวันก่อน พูดไปว่าเปิดศึกอย่างเป็นทางการ แค่ทำลายบริษัทของเธอ แล้วฉันจะต้องหยุดแล้วเหรอ?”
“ฉันจะทำให้เธอขายหน้า เหมือนกับหนีทหาร หนีออกจากเมืองหมิงจู คนด้านนอกเลวร้าย ไม่ใช่ที่ๆคุณหนูอย่างเธอจะรับได้”
หลินฉ่ายเวยเงียบไปสักพัก แล้วกล่าวขึ้นมาทันใดว่า “ถ้าแค่การแข่งขันทางธุรกิจธรรมดา คุณไม่มีทางแค้นเธอฝังใจขนาดนี้ หรือเป็นเพราะถังเฉา ใช่มั้ย?”
ครั้งนี้ กลายเป็นซ่งหรูอี้เงียบลง
หลินฉ่ายเวยพูดต่อ “เมื่อห้าปีที่แล้ว เดิมทีคนที่ควรจะแต่งงานกับเขาคือคุณ แต่เขาทิ้งคุณไป แว็บเดียวก็ห้าปี กว่าจะกลับมาได้ก็ไม่ง่ายแต่พอกลับมา ก็ดัันมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเกลียด”
ซ่งหรูอี้เงียบไปสักพัก จู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา
“ถือว่าคุณเดาถูกครึ่งหนึ่ง ทำให้เขาเกลียดฉัน ดีกว่าให้เขาลืมฉัน ฉันว่า หลินชิงเสว่ก็น่าจะตระหนักถึงจุดนี้นะ”
หลินฉ่ายเวยหยุดเดิน แล้วตะลึง
นึกไม่ถึงว่าเธอจะเข้าใจซ่งหรูอี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม