ชั้นหกสิบแปดถึงชั้นแปดสิบแปดของอาคารกั๋วจี้ล้วนเป็นของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปทั้งหมด และยังมีชั้นเฉพาะที่ใช้เป็นโรงยิมสำหรับพนักงานอีกด้วย
ขณะนี้ คนจำนวนมากต่างแออัดกัน
เมื่อคนบ้าดนตรีตัดสินใจที่จะเล่นคอนเสิร์ตที่นี่ หลินชิงเสว่จึงให้คนจัดการสถานที่ให้แล้ว
ผู้คนจำนวนมากต่างคึกคัก
ผู้คนที่มาปรากฏตัวที่นี่ ล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโต สำหรับระดับนี้ ทุกคนต่างรู้แน่ชัดว่า ตำแหน่งที่ดีที่สุดจะต้องมอบให้กับคนที่มีตำแหน่งสูงเท่านั้น
ถังเฉาและครอบครัวของหลินชิงเสว่ทั้งสามคนนั่งบริเวณด้านหน้าของแถว
ส่วนด้านข้างก็จะเป็นหลัวปู้ หูอีซาน เจิงเทียนเสียง หากมองไปให้ไกลกว่านี้ก็จะเป็นต่งวี่ซู่และจ้าวเย็นหราน
“คุณถังครับ ตอนนี้องค์กรของคุณได้หยั่งรากปักฐานเรียบร้อย จวี้เฟิงกรุ๊ปเองก็อยู่ในการดูแลของผม ส่วนสมาชิกของตระกูลหูทั้งหมดก็ได้ถูกไล่ตะเพิดออกไปหมดแล้วครับ”
“ลูกสาวของผมกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ชื่อว่าหลินจ้าวหยูน ผมก็ได้จัดการให้พวกหล่อนได้เข้าฝึกงานที่จวี้เฟิงกรุ๊ปแล้วครับ”
ในตอนนี้คอนเสิร์ตของคนบ้าดนตรียังไม่ทันเริ่ม หูอีซานจึงใช้โอกาสนี้มารายงานสถานการณ์
“อืม ทำได้ไม่เลวเลย”
ถังเฉาตบไปที่ไหล่ของหูอีซาน พร้อมกับยิ้มให้
เขายอมรับความสามารถของหูอีซาน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปสำรวจตลาดของเจียงเฉิงเป็นแน่
หูอีซานได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนรู้สึกประหลาดใจ ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปความปิติ
เจิงเทียนเสียงนั้นมองดูอย่างอิจฉา เขาเองก็อยากรายงานเช่นกัน แต่เขาดันอยู่ที่ถังเฉา ดังนั้นถึงเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้นมา ถังเฉาก็รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ถังเฉาก็หันไปมองหลินชิงเสว่
“ผมตัดสินใจที่จะให้บริษัทลี่จิงกรุ๊ปไปพัฒนาที่เจียงเฉิง เจียงเฉิงถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเจียงซูและเจ้อเจียง หากบริษัทลี่จิงกรุ๊ปสามารถลงหลักปักฐานในเจียงเฉิงได้ อนาคตก็จะเข้าสู่เยี่ยนจิง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่มั่นคงมากๆเลย”
ในใจของหลินชิงเสว่รู้สึกตื้นตัน
“ฟังนายก็แล้วกัน ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว”
ถังเฉาได้สร้างภาพไว้สำหรับอนาคตเรียบร้อย เธอเข้าใจว่าทุกๆอย่างนี้ท้ายสุดจะนำพาให้เธอได้กลับไปที่เยี่ยนจิง
และเมื่อถึงเวลาที่กลับไปเยี่ยนจิง หลินชิงเสว่ก็จะมีฐานะเท่ากันกับตระกูลหลวงในเยี่ยนตู
อีกอย่าง อย่าเพิ่งตระกูล เพิ่งตัวเองดีกว่า
อย่างไรก็ตาม หลัวปู้นั้นมีท่าทีที่เคร่งขรึม
“คุณถัง การที่จะทำให้บริษัทลี่จิงกรุ๊ปเข้าสู่ตลาดที่เจียงเฉิงก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ก็มีความยากอยู่”
ถังเฉาเลิกคิ้ว “หมายความว่ายังไง?”
“เจียงเฉิงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเจียงซูและเจ้อเจียง เป็นที่ตั้งของหอการค้าใหญ่สองแห่ง แห่งแรกก็คือหอการค้าอินทรีของผม ส่วนอีกที่ก็คือสมาคมการค้าเจียงผิง”
“แม้ว่าอินทรีแดงและเจียงผิงจะเป็นสมาคมการค้าหลักแปดแห่งในชื่อของนายบ้าการค้า แต่ในระหว่างนี้ก็มีการต่อสู้เกิดขึ้นอยู่มากมาย”
“การสนับสนุนช่วยเหลือหลักของสมาคมอินทรีแดงของผมนั้นอยู่ในหมิงจู ขณะที่การสนับสนุนช่วยเหลือของสมาคมการค้าเจียงผิงนั้นอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง”
ถังเฉาเข้าใจความหมายของหลัวปู้ทันที
นี่มันก็ไม่ต่างกับบริษัทต่างชาติที่ต้องการจะเปิดตลาดในประเทศ พวกเขาจะพบกับการโต้กลับร่วมกันจากบริษัทในท้องถิ่นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เขายิ้มอย่างแผ่วเบา “นายดูแลเรื่องการสนับสนุนช่วยเหลือให้เต็มที่ ฉันเชื่อว่าสมาคมการค้าเจียงผิงต้องรับรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้เป็นแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าเช่นนี้ ในใจของหลัวปู้ก็มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
“มีอีกเรื่องครับ สมาคมการค้าเจียงผิงนั้นต้องการสนับสนุนช่วยเหลือจวี้เฟิงกรุ๊ป”
หูอีซานกล่าวเสริมไปอีกว่า “ที่พูดกันถึงเรื่องการช่วยเหลือก็คือการลงทุนหุ้นจากต่างประเทศครับ เมื่อรู้ว่าผมเป็นพนักงานของหอการค้าอินทรีแดง ก็ยังจะให้ผมไปเข้าร่วมสมาคมการค้าเจียงผิงอีก มิเช่นนั้นก็จะกดดันอย่างรุนแรง!”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ ดวงตาของถังเฉาก็หรี่ลง “ดูเหมือนว่าสมาคมการค้าเจียงผิงจะไม่ค่อยสงบสุขกันนักสินะ”
หลินชิงเสว่ที่อยู่ด้านข้างฟังเรื่องราวมาตลอด ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
หากครั้งนี้ไม่ได้นั่งอยู่ข้างๆ เธอคงไม่มีวันรู้เลยว่าสิ่งที่ถังเฉาพูดอยู่ปกตินั้นจะเป็นเช่นนี้
ขณะนั้นเอง ฉากทั้งหมดดูเหมือนจะถูกตัดออกและจมดิ่งสู่ความมืดมิดทันใด
พรึ่บ!
ในชั่วพริบตาต่อมา สปอตไลท์เพียงดวงเดียวก็พุ่งมาจากด้านบน
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนจับจ้องไปจุดที่แสงรวมอยู่
ร่างที่ปรากฏขึ้นนั้นคือคนบ้าดนตรีฉินเจียนเวย
หล่อนยังคงสวมผ้าคลุมสีขาวขุ่นและเสื้อคลุมสีขาวเรียบๆ เดินเท้าเปล่าเข้ามา
ทันใดนั้นทุกอย่างก็เงียบลง
หล่อนนั่งลงอย่างมั่นคง ด้านหลังมีหญิงสาวสวมเสื้อสีขาวที่มีท่าทางเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
พวกหล่อนนั้นเป็นลูกศิษย์ของคนบ้าดนตรี เสื้อคลุมสีขาวล้วน เป็นสัญลักษณ์เสื้อผ้าของคนบ้าดนตรี
ด้านหน้าของฉินเจียนเวย มีกู่เจิงอันใหญ่วางอยู่
คนบ้าการดนตรีเชี่ยวชาญในดนตรีทุกประเภท แต่มีเพียงกู่เจิงที่เป็นจุดอ่อนเดียวของหล่อน
ติ๊ง ต่อง…
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงเพลงบรรเลงขึ้นจากความเงียบงันนั้น คนบ้านดนตรีวางมือบนกู่เจิงและเริ่มบรรเลงมัน
ลูกศิษย์ของคนบ้าดนตรีที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มเล่นประกอบคู่กันไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม