ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวออกจากโรงยิมไปอย่างเงียบๆ
เมื่อลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่าง ก็พบกับชายชราที่สวมเสื้อคอจีนรออยู่
เขาแสดงความเคารพ “คุณชาย ไม่น่าสนใจเหรอครับ?”
ชายหนุ่มทำท่าทีดูถูกพร้อมกับโบกมือ “ดนตรีแบบนั้น ฉันไม่สนใจเลยสักกะนิด”
“แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือคนที่แสดงต่างหาก”
บทสนทนาของชายหนุ่มเปลี่ยนไป มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
พ่อบ้านสวมชุดคอจีนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามอย่างลังเลว่า “คุณชาย หมายถึงคนบ้าดนตรีงั้นเหรอครับ?”
“ถูกต้อง”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองที่ด้านบน “ไอ้พวกคนโง่พวกนั้น เลียแข้งเลียขาคนบ้าดนตรีอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์ ฉีกความจอมปลอมออกมา ก็เป็นแค่เพียงผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ใช่เหรอไง?”
สีหน้าของพ่อบ้านนั้นดูลังเลเล็กน้อย “คุณชาย นี่เป็นหนึ่งในเจ็ดของชีชือนะครับ...”
“คนบ้าดนตรีแล้วทำไมเหรอ?”
น้ำเสียงของชายหนุ่มนั้นเย็นชา “ไม่ใช่คนที่ออกไปจากตระกูลฉินสักหน่อย รอจนการแสดงจบ ก็นำหล่อนมาที่ห้องดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
หลังจากพูดจบเขาก็ขึ้นรถสปอร์ต และรีบไปที่คลับเฮาส์ที่อยู่ใกล้เคียง
พ่อบ้านถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เดิมที ควรเป็นคุณชายใหญ่ของบ้านที่เดินทางไปด้วยกัน แต่ไม่คิดเลยว่าคุณชายใหญ่จะไม่ว่าง ดังนั้นจึงทำได้เพียงแต่ให้คุณชายผู้ที่ชอบสาวงามอยู่ห่างการศูนย์กลางอำนาจของตระกูลเท่านั้น
ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง และคอนเสิร์ตก็จบลง
อย่างแรกที่คนบ้าดนตรีทำก็คือเข้าไปที่ห้องพักเพื่อเติมน้ำ การเล่นกู่เจิงนั้นต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
ในฐานะที่หลินชิงเสว่เป็นเจ้าบ้าน เธอต้องการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโดยการส่งแขกทั้งหมดออกไปทีละคน
ส่วนแขกทุกคนที่มาร่วมงานก็ไม่ได้ละเลยหลินชิงเสว่แต่อย่างใด ไม่ได้พูดอะไรอื่น แค่คอนเสิร์ตของคนบ้าดนตรีที่นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะอธิบายทุกอย่างแล้ว
คนที่ไปมาส่วนใหญ่ต่างก็มีความตั้งใจที่จะร่วมงานกับหลินชิงเสว่ด้วยกันทั้งนั้น
แม้แต่บางคนที่ไม่ได้ทำธุรกิจ ก็ได้ให้สัญญากับหลินชิงเสว่ ขอเพียงแค่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป พวกเขาก็จะให้ไฟเขียวผ่านในทันที
นี่คือสิทธิประโยชน์
โดยปกติ หลินชิงเสว่จะไม่เปิดเผยตัวตนที่เธอเป็นเจ้าหญิงให้ผู้คนรู้ แต่ในชั่วข้ามคืนพวกเขาทั้งหมดได้สร้างเครือข่ายการติดต่อกับเธอซะนี่
“จากนี้ไป บริษัทลี่จิงกรุ๊ปจะเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในหมิงจู…..”
มีผู้ประกอบการหลายคนถอนหายใจออกมา
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ การมีบริษัทลี่จิงกรุ๊ปในทุกวันนี้ใช้เวลาเพียงห้าปีกว่าในการสร้างเนื้อสร้างตัวเท่านั้น
ด้านหนึ่งคือความสามารถของหลินชิงเสว่เอง ส่วนอีกด้านก็คือเธอมีสามีที่ดี
“คุณถัง!”
ขณะนั้นเอง เซี่ยสิงจู๋ก็เดินเข้ามา เขามองถังเฉาด้วยแววตาที่ซับซ้อน “อาการป่วยของเด็กหญิงดูเหมือนว่าช่วงนี้จะรุนแรงขึ้นอีกแล้ว คุณถังดูนี่...”
หลินชิงเสว่รู้สถานการณ์ของลูกสาวตระกูลเซี่ยดี ดังนั้นเธอจึงมองไปที่ถังเฉา “คุณสามีคะ ไปช่วยผู้นำตระกูลเซี่ยเถอะค่ะ”
ถังเฉาพยักหน้า ก่อนชั่งใจอยู่พักหนึ่งแล้วพูดกับเซี่ยสิงจู๋ว่า “ยังไงซะพวกเราคนหนึ่งก็อยู่ที่หมิงจู ส่วนอีกคนอยู่เจียงเฉิง ถึงแม้ระยะทางจะไม่ไกลกันมาก แต่ก็ถือว่าเป็นปัญหาอยู่ดี”
“ลี่จิงกรุ๊ปเองก็มีแผนที่จะพัฒนาไปที่เจียงเฉิง รอพวกเราถึงเจียงเฉิงเมื่อไหร่ เราจะตรงไปที่บ้านของตระกูลเซี่ยทันที!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยสิงจู๋ก็ดีใจเป็นอย่างมาก “ยินดีต้อนรับมากๆเลยครับ บริษัทของคุณกำลังจะมาเปิดที่เจียงเฉิง ตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลแรกที่ให้การสนับสนุน!”
“งั้นก็ต้องขอบคุณผู้นำตระกูลเซี่ยแล้วล่ะ”
ถังเฉายิ้มและพูดไปด้วย
เมื่อส่งเซี่ยสิงจู๋เสร็จ พวกเขาก็กลับมาที่ห้องพัก
ทันทีที่เข้ามา หลินชิงเสว่ก็แสดงท่าทีขอบคุณฉินเจียนเวยทันที
“คุณฉินคะ ต้องขอบคุณจริงๆเลยถ้าไม่มีคุณล่ะก็ บริษัทลี่จิงกรุ๊ปคงไม่สามารถพัฒนาไปได้เร็วขนาดนี้แน่”
ฉินเจียนเวยยิ้ม “ฉันสิต้องเป็นคนที่ขอบคุณ ลูกศิษย์ตัวน้อยของฉัน จากนี้คงต้องการความดูแลจากคุณหลินแล้วล่ะ”
หลินชิงเสว่ตอบอย่างรวดเร็ว “เป็นเรื่องที่ควรอยู่แล้วค่ะ”
“ในเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ฉันเองก็ควรจะไปด้วยเช่นกัน”
ฉินเจียนเวยลุกขึ้นขณะที่พูด หลินชิงเสว่เลยลุกขึ้นทักทายตอบรับทันที
เมื่อเดินผ่านถังเฉา ฉินเจียนเวยก็ปรากฏรอยยิ้มอยู่ภายใต้ผ้าคลุมนั่น
จุดประสงค์ที่แท้จริงของการมาที่นี่ ก็เพื่อถังเฉาต่างหาก
ถังเฉาเองก็ตอบรับกลับไปด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม