เหล้าเย็นๆกระเซ็นสาดใส่หน้าฉินสวูตงทันที
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ดนตรีก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
ฉินสวูตงหลับตา สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดเหล้าบนใบหน้าของเขา
เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของเขาก็มืดมนอย่างมาก
“นังผู้หญิงน่ารังเกียจ แกกล้าสาดเหล้าใส่ฉัน...”
สีหน้าของคนบ้าดนตรีดูเย็นชา มองไปที่ฉินสวูตงก่อนจะพูดออกมาอย่างช้าๆว่า “ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้เลยนะ!”
ในน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง ยิ่งมีรัศมีแห่งความอาฆาตต้องการฆ่ามากขึ้นไปอีก
“งั้นตอนนี้ก็มีแล้วแหละ”
ฉินสวูตงมองไปที่ฉินเจียนเวยด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “เย็นวันนี้ หล่อนไม่เพียงแต่จะต้องเทเหล้าให้ฉัน แต่หล่อนต้องอยู่กับฉันทั้งคืนอีกด้วย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสวูตง ดวงตาของคนบ้าดนตรีนั้นเย็นชาอย่างหาที่สุดไม่ได้
คนบ้าดนตรีนั้นไม่ค่อยโกรธอะไรสักเท่าไหร่ แต่อย่าให้ได้มีอารมณ์ขึ้นมาล่ะ ไม่อย่างงั้นจะมีผลที่เลวร้ายตามมาอย่างแน่นอน
ลู่โป๋หานที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกประหลาดใจอยู่เช่นกัน
เขาเองก็ต้องการที่จะพูดคุยกับฉินสวูตง แต่ก็ไม่ได้มีความกล้าหาญมากขนาดนั้น
นั่นคือคนบ้าดนตรี เป็นหนึ่งในเจ็ดของชีชือ
เดิมทีลู่โป๋หานต้องการเอาชนะใจคนบ้าดนตรีก่อน จากนั้นก็จะค่อยๆก้าวความสัมพันธ์ไปข้างหน้าทีละน้อย
เพื่อนรักคนนี้ดี แต่ก็โหดร้ายขนาดหนัก….
ฉินสิบเจ็ดเองก็ได้พูดห้ามไว้ “คุณชาย อย่าเลยครับ หล่อนเป็นหนึ่งในเจ็ดของชีชือนะครับ”
“ชีชือแล้วไง?อย่างมาก หล่อนก็แค่แสดงดีแล้วพวกนายโดนครอบงำก็แค่นั้น”
ฉินสวูตงดูถูกเหยียดหยาม “แค่คนเร่แสดงศิลปกายกรรม จะพูดไร้สาระเยอะอะไรขนาดนั้น?ถ้าหล่อนรับใช้ฉันอย่างดี ไม่แน่นะ ฉันอาจจะเปิดปากพูดกับนายท่านให้หล่อนกลับเข้ามาในตระกูลก็เป็นได้”
สีหน้าของคนบ้าดนตรีเย็นชา “ฉันไม่สนใจเรื่องการกลับเข้าไปในตระกูลแม้แต่น้อย แต่นาย ถ้ายังจะพูดอะไรหมาๆแบบนี้ ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินสวูตงก็รู้สึกยินดี
“เป็นแค่นักแสดง จะมาทำอะไรไม่เกรงใจฉันงั้นเหรอ?จะใช้ฟลุตตีฉันหรือไง?”
เพี๊ยะ!
วินาทีต่อมา เสียงตบก็ได้ดังขึ้น
คนบ้าดนตรีตบเข้าไปที่ใบหน้าของฉินสวูตงอย่างจัง
ด้วยแรงที่มหาศาล นั่นทำให้ใบหน้าครึ่งซีกของเขานั้นบวมฉึ่ง
ดวงตาของลู่โป๋หานนั้นเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ เขาก้าวถอยหลังออกมาโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่เคยคิดว่า คนบ้าดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก เวลาที่ต้องลงมือจะดูชัดเจนได้ถึงเพียงนี้
ฉินสวูตง เองก็ตะลึงอยู่ชั่วครู่ เขาไม่ได้คิดว่าคนบ้าดนตรีจะตบเขาจริงๆ ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างมาก
“แกมันหญิงเลว กล้าตบฉันงั้นเหรอ เรียกคนมาซะ มาจับตัวนังนี่ไว้!”
เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้ ประตูชั้นที่นั่งพิเศษของห้องถัดไปก็กรูคนที่ดูแข็งแกร่งออกมาจำนวนมาก
ทันใดนั้นคนบ้าดนตรีก็ได้ถูกล้อมเอาไว้อย่างสมบูรณ์
ใบหน้าซีกหนึ่งของฉินสวูตงกำลังเอาน้ำแข็งประคบ ส่วนอีกด้านปรากฏรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
“ฉินเจียนเวย ฉันจะให้โอกาสแกเลือก จะอยู่เป็นเพื่อนฉัน หรือจะให้ร่างกายได้รับความเจ็บปวดสักหน่อย”
คนบ้าดนตรีเงียบ ดวงตาที่สวยงามของเขากวาดสายตาผู้ชมด้วยท่าทางเย็นชา
“แม่ง มัดหล่อนขึ้นมา!”
จากนั้น ฉินสวูตงก็ชี้ไปที่หล่อนและตะโกนออกไปเสียงดัง
พวกคนร่างยักษ์ก็วิ่งเข้ามาหาคนบ้าดนตรีทันที
ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของฉินสวูตง แต่ยิ้มไปยิ้มมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถยิ้มได้อีกต่อไป
ในสายตาของเขา คนบ้าดนตรีคือผู้หญิงที่อ่อนแอ ต้องถูกจับได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นเกินความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง
ปัง ปัง ปัง!
คนบ้าดนตรีตัวเบาราวกับนกนางแอ่น คนคุ้มกันของเขาล้มลงทีละคนขณะที่แขนเสื้อของหล่อนกำลังเต้นรำ
“นี่มัน...”
ฉินสวูตงและลู่โป๋หานมองดูสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ
ท่าทีองฉินสิบเจ็ดดูจริงจังขึ้น พร้อมกับขยับมาทางด้านหน้าของฉินสวูตง
“คุณชายระวังนะครับ คนบ้าดนตรีก็เป็นเด็กฝึกของตระกูลเช่นกัน”
สีหน้าของคนบ้าดนตรีนั้นเย็นชา ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
หล่อนเป็นถึงหนึ่งในเจ็ดชีชือ หล่อนจะไม่มีวิธีป้องกันตัวเองได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าจะไม่ได้บ้าบู๊เท่าอู่ตงหยาง แต่คนธรรมดาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหล่อนสักเท่าไหร่
“ฉันถึงได้พูดไงล่ะว่าทำไมถึงกล้ามาที่นี่คนเดียว ที่แท้ก็เป็นคนกล้าหาญที่มีทักษะสูงนี่เอง”
สีหน้าของฉินสวูตงซีดทันที จ้องมองไปที่คนบ้าดนตรีและพูดว่า “แต่ แล้วมันจะยังไงล่ะ คุณปู่สิบเจ็ด จับหล่อนไว้!”
คนบ้าดนตรีมองไปที่ชายชราฉินสิบเจ็ดทันที แม้ว่าเขาจะมีผมขาวอยู่เต็มหัวไปหมด แต่หล่อนก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่แผ่มาจากตัวเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม