“ทุกปีมีเด็กที่ถูกล่อลวงไปขายถึงสองแสนคน”
นี่เป็นตัวเลขอ้างอิงหนึ่งที่ถังเฉาได้เห็นมาเมื่อก่อน
ตั้งแต่เขาได้เลื่อนขั้นมาเป็นพ่อคน เขาก็หวงแหนถังเสี่ยวลี้เป็นอย่างยิ่ง กลัวว่าจะทำเธอหายไป
และการกระทำของผู้หญิงชุดขาวคนนี้ทำให้ถังเฉาไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้ไม่ได้
ใครก็ตามที่เป็นอันตรายต่อลูกและภรรยาของเขา เขาล้วนไม่ปล่อยเอาไว้
มีแค่แนวโน้มนิดเดียวก็ไม่อนุญาต!
ทว่าเทียบกับถังเฉาที่มีอารมณ์รุนแรงแล้ว ผู้หญิงคนนั้นกลับเห็นได้ชัดว่าสงบนิ่งกว่ากันเยอะ
เธอส่ายศีรษะ “คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่มีความคิดใดใดที่ไม่เหมาะสมต่อลูกสาวของคุณ”
พลังบนร่างของถังเฉาระงับไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังมองเธอด้วยความดุดัน
“แล้วทำไมคุณจะต้องเข้าใกล้ลูกสาวของผมด้วย?”
คำถามนี้กลับทำให้ผู้หญิงคนนั้นตกอยู่ในความเงียบ
ถังเฉาเองก็ไม่พูดไม่จา ถือโอกาสพิจารณาหญิงสาว
เครื่องหน้าของเธอค่อนข้างดี นิสัยค่อนข้างเงียบสงบ เหมือนหินหยกก้อนหนึ่งที่ผ่านการเจียระไนโดยเหตุการณ์ต่าง ๆ
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่เป็นภาพลวงตาหรือไม่ เขามีความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลามาจากบนตัวของเธออย่างคาดไม่ถึง ดูเหมือนว่าจะเคยรู้สึกจากใครบางคนมาก่อน
นี่จึงกำจัดความคิดเรื่องคนค้ามนุษย์ในใจของเขา
ผ่านไปเป็นเวลานาน เธอถอนหายใจเบา ๆ มองถังเฉาด้วยสายตาที่ซับซ้อนอยู่บ้าง
“เพื่อที่จะกำจัดความคิดที่ถูกครอบงำ ฉันจึงเลือกที่จะเข้าสู่ทางโลกอีกครั้ง"
ถังเฉาตะลึง “คุณเป็นแม่ชี?
ผู้หญิงชุดขาวยิ้มน้อย ๆ “ตัดเรื่องทางโลกไม่ได้ จนปัญญาจะปลงผม นั่นถือเป็นการไม่เคารพพระพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง”
พูดจบสองมือของเธอก็พนม โค้งตัวให้กับถังเฉาหนึ่งที จากนั้นก็จากไป
ถังเฉามองอย่างมึนงงอยู่ที่เดิม และถังเสี่ยวลี้ก็กลับมาด้วยมือคู่ที่เปื้อนทรายอยู่เต็มไปหมด
“ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้าน"
แป๊บเดียวถังเฉาก็ไม่ไปคิดเรื่องเธอแล้วพาถังเสี่ยวลี้กลับบ้าน
ตอนที่กลับถึงบ้าน หกโมงกว่าแล้วหลินชิงเสว่ยังไม่กลับมาบ้านเลย
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เตรียมจะเปิดประตูนั้นเขาก็ตะลึงไป
เห็นเพียงที่ประตูมีผู้หญิงสวยเพียบพร้อมและสุภาพเยือกเย็นยืนอยู่คนหนึ่ง
ก็คือผู้หญิงชุดขาวที่ก่อนหน้านี้ถูกเขาเข้าใจผิดว่าเป็นคนค้ามนุษย์ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเมื่อก่อนหน้านี้
และครั้งนี้เธอมีนิสัยเฉพาะตัวมากกว่าเดิม ทั่วทั้งร่างมีกลิ่นอายของความอ่อนโยนดีงามเงียบสงบชนิดหนึ่ง
เธอยิ้มน้อย ๆ ให้กับถังเฉา ถือเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง
“คุณมาอยู่ที่บ้านผมได้อย่างไรครับ? คุณเป็นใครกันแน่?”
พอคืนสติได้บนใบหน้าของถังเฉาก็เปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ
“คุณน้า!”
ถังเสี่ยวลี้ทักทายเธออย่างเบิกบานใจ
“เด็กดี”
ผู้หญิงชุดขาวยิ้มอย่างมีเมตตา จากนั้นก็มองไปยังถังเฉา ถอนหายใจเบา ๆ หนึ่งเฮือก “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าลูกสาวของเธอจะโตขนาดนี้แล้ว”
“ตอนที่ฉันจากไปเธอตัวแค่นี้เอง”
ได้ยินอย่างนั้นหัวใจของถังเฉาก็เต้นอย่างรุนแรงอยู่พักหนึ่ง
ถ้าหากจะบอกว่าประโยคแรกเพียงแค่เพื่อให้ในใจของเขาเกิดความคาดเดาละก็ เช่นนั้นประโยคที่สองก็ยืนยันการคาดเดาของเขาแล้ว
อารมณ์บนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจังทันที
“ท่านคือ... แม่ของชิงเสว่?”
ผู้หญิงชุดขาวไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มอยู่พักหนึ่ง นี่ยิ่งเป็นการยืนยันการคาดเดาของเขา
เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ครู่หนึ่งก็เปลี่ยนเป็นระมัดระวังตัวขึ้นมา มาอยู่ข้างกายของผู้หญิงคนนี้อย่างระมัดระวัง
ตีเขาให้ตายเขาก็ยังนึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ถูกเขาเข้าใจผิดว่าเป็นคนค้ามนุษย์คนนี้จะเป็นหญิงงามที่ชื่อเสียงสั่นสะเทือนเยี่ยนจิงเมื่อยี่สิบปีก่อน
ความรู้สึกแรกของถังเฉาก็คือสั่นสะท้าน
สั่นสะท้านให้กับรูปโฉมและเสน่ห์ของเธอ
ถึงแม้ว่าหลินชิงเสว่จะเป็นสาวงาม แต่ไม่เหมือนกับเสน่ห์ของเธอโดยสิ้นเชิง
อายุของเธอก็ใกล้จะห้าสิบปีแล้ว แต่มองดูแล้วไม่ต่างกับอายุสามสิบกว่า ราวกับบำเพ็ญเพียรอมตะวิชาอย่างไรอย่างนั้น
ในมือกุมสร้อยประคำเส้นหนึ่ง ปากก็ท่องพระธรรมคัมภีร์ไม่หยุด ด้วยเหตุนี้จิตใจจึงมีสมาธิตั้งมั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม