สรุปตอน บทที่ 461ไม่อยู่ในสายตา – จากเรื่อง เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน
ตอน บทที่ 461ไม่อยู่ในสายตา ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดยนักเขียน เป๋ต้งสู่เพี่ยน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ณ โรงยิม เวลาล่วงเลยผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าถังเฉาก็จะยังไม่มา
ฟางหย่านั่งไม่ติดที่อีกต่อไป ใบหน้าของหล่อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?ทำไมนานขนาดนี้แล้วยังไม่มาอีก”
หลินฉ่ายเวยที่อยู่ด้านข้างก็ได้แต่มองไปที่หน้าจอด้วยความว่างเปล่า
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนี้?”
ฟางหย่าเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ถามออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ประธานฟาง คุณดูนี่สิ...”
หลินฉ่ายเวยเอาข้อความที่ถังเฉาส่งมาให้ฟางหย่าดู
ฟางหย่าตกตะลึงไปชั่วขณะ
รอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าได้หยุดนิ่งลง ใบหน้าเหมือนกับหน้ากากหน้าคนอย่างไงอย่างงั้น
หลังจากดูอยู่นาน ใบหน้าของฟางหย่าก็ดูน่าเกลียดขึ้นมากกว่าเดิม
“ทำไมกันล่ะ?ฉันแค่ให้เขาไปเอาเหล้าที่รักษาอาการฟกช้ำให้เฉยๆ ทำไมต้องให้เธอไปเอาด้วย?”
ใบหน้าของหลินฉ่ายเวยนั้นดูซับซ้อน พร้อมกับประคองฟางหย่าขึ้นมา “ประธานฟาง ฉันจะไปส่งคุณกลับบ้านก็แล้วกัน”
ขณะที่พูด ก็ประคองฟางหย่าขึ้นมา จากนั้นพาไปห้องที่ติดกับถังเฉา
หลังจากที่ตนทาเหล้ารักษาอาการฟกช้ำให้แล้ว เท้าของฟางหย่านั้นก็ยังคงดูบวมแดงราวกับบะจ่าง
วินาทีต่อมา ความรู้สึกเสียใจก็เกิดขึ้นภายในใจของหล่อน
“ไม่ได้ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเขาทำอะไรอยู่ แม้แต่เวลาไปหยิบเหล้าที่รักษาอาการฟกช้ำของฉันยังไม่มีงั้นเหรอ?”
สีหน้าของหลินฉ่ายเวยเปลี่ยนไป “ประธานฟาง อย่าเลยค่ะ...”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เธอจะจับไว้ หล่อนกระโดดด้วยเท้าข้างเดียวไปที่ประตูห้องของถังเฉา
ตรงประตู หล่อนได้ยินเสียงหัวเราะของหลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้ดังออกมาจากโทรศัพท์ ขณะเดียวกันก็มีเสียงของถังเฉาปนอยู่ด้วย
หล่อนรู้ทันทีว่าเป็นหลินชิงเสว่โทรเข้ามา
ฟางหย่ารู้สึกตะลึงไปชั่วขณะ เดิมทีมือที่ต้องการจะเคาะประตูนั่น ก็ดูเหมือนว่ามันจะหยุดนิ่งลง ทำไมมือมันขยับไม่ออกล่ะ
หลินฉ่ายเวยเดินเข้ามา มองเห็นฟางหย่าที่ดูนิ่งงันหน้าประตูของถังเฉา ก็เหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง เธอรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
เมื่อฟางหย่าหันกลับมา หลินฉ่ายเวยก็ตกใจเป็นอย่างมาก
หล่อนกำลังร้องไห้อยู่
“ประธานฟาง...”
ขณะนี้เอง หลินฉ่ายเวยก็รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก เธอประคองฟางหย่ากลับไปที่ห้อง
กลางดึก ข้อเท้าของฟางหย่ายังคงบวมอยู่ หล่อนนอนไม่หลับเลยสักนิด
เวลานี้ หล่อนพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้หลินฉ่ายเวยถึงไม่ยอมให้หล่อนทำ
หล่อนรู้ดีว่าตนเองเหมือนกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ เห็นได้ชัดว่ามีความมั่นใจเต็มร้อย แต่กลับถูกตีกลับด้วยความจริงที่โหดร้ายเช่นนี้
“ถังเฉา ทำไมนายถึงไม่แม้แต่มองมาที่ฉันเลย...”
ฟางหย่าได้แต่พึมพำกับตัวเอง
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนพบกันที่ล็อบบี้ของโรงแรม
ข้อเท้าของฟางหย่ายังคงพันด้วยผ้าพันแผล แม้ว่าจะไม่บวมเหมือนเมื่อคืนแต่ก็ยังมีรอยช้ำอยู่บ้างเล็กน้อย
สำหรับเรื่องเมื่อคืน ทั้งฟางหย่าและหลินฉ่ายเวยต่างนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของถังเฉานั้นเต็มไปด้วยคำขอโทษ “ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับประธานฟาง พอดีเมื่อคืนชิงเสว่โทรมา ผมเลยขอให้ฉ่ายเวยไปหยิบยามาให้แทน”
ฟางหย่ายิ้ม “ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ ไว้ครั้งหน้าเจอกันค่ะ”
เมื่อเห็นว่าฟางหย่าไม่ได้โกรธเคือง ถังเฉาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ครับ”
“นี่หล่อนบ้าไปแล้วเหรอ?!”
หลินฉ่ายเวยดึงฟางหย่ามาด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ “นี่ขนาดโดนปฏิเสธ แถมยังขาเจ็บขนาดนี้ ยังจะมาอีกเหรอ?”
ฟางหย่าพูดอย่างแผ่วเบา “ฉันคิดถึงเขามาตั้งห้าปี คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้หรอก”
หลินฉ่ายเวยเองก็ตกอยู่ในเงียบไปครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“ก็ที่ผมบอกคุณเมื่อวานเรื่องพี่น้องกัน ที่ชื่อหูจิ้งจู๋กับหูจิ้งซูไงครับ พวกเขานำคนของตระกูลหูเข้ามา”
หูอีซานพูด
ท้องของฟางหย่านั้นเต็มไปด้วยความโกรธจากเรื่องเมื่อคืน หล่อนโบกมือไปมา “ไม่ต้องรอพวกเขาแล้ว!”
ถังเฉาพูดขึ้นมาทันทีว่า “ไม่ ต้องรอ พวกเราไม่ใช่แค่ต้องรอ แต่ยังต้องต้อนรับพวกเขาด้วย”
คนที่รู้จักถังเฉาดีมักจะรู้ว่าตอนนี้ในใจของเขาเริ่มมีร่องรอยของความไม่พอใจเกิดขึ้นมาแล้ว
สิบห้านาทีผ่านไป ประตูของห้องประชุมก็ถูกเปิดออก กลุ่มคนที่มีความสามารถพวกนี้มาสาย
นำโดยชายหญิงสองคนที่รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกัน
ผู้ชายรูปหล่อ ส่วนผู้หญิงก็งดงาม อีกทั้งทั้งคู่นั้นล้วนแต่มีจักษุยาวดังนกการเวก ทำให้หญิงสาวนั้นดูชวนน่ามอง ในขณะที่มันทำให้ฝ่ายชายนั้นดูละเอียดและอ่อนโยน
“พวกเขาทั้งสองคนคือคนของตระกูลหูที่จบการศึกษาจากต่างประเทศมา หูจิ้งจู๋และหูจิ้งซู” หูอีซานกระซิบจากด้านข้าง
ถังเฉาพยักหน้า พร้อมกับสายตาที่แหลมคม
หูอีซานมองดูพวกเขาด้วยสีหน้าที่มืดมน “หูจิ้งจู๋ หูจิ้งซู พวกเธอนี่กล้ากันจริงๆ มีคนมากมายกำลังรอพวกคุณอยู่!หากไม่มีเหตุผลที่ดีมากพอล่ะก็ ฉันจะลงโทษพวกเธอ”
หูจิ้งซูไม่ได้พูดอะไร จากนั้นนั่งลงตัวตรง ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่หูอีซานพูด
ถังเฉามองไปที่หูจิ้งซูอีกครั้ง หล่อนเหมือนกับเพื่อนเก่าคนหนึ่งของเขา
ซ่งหรูอี้
หูจิ้งจู๋ยิ้ม พร้อมกับพูดกับหูอีซานว่า “กรรมการหู เราก็เป็นคนกันเองทั้งนั้น จำเป็นต้องเข้มงวดกันขนาดนี้เลยเหรอ อีกอย่าง ก็แค่ผมกับน้องสาวเราตื่นสายกันก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจจะมาสายสักหน่อย”
“ตื่นสาย?”
หูอีซานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “วันนี้เป็นการประชุมการร่วมมือของสาขาลี่จิงกรุ๊ป พวกเธอตื่นสายงั้นเหรอ?พวกเธอไม่ได้มีคุณถังและพวกเขาไว้ในสายตาเลยสักนิด!”
“ร่วมมือ?”
หูจิ้งจู๋ยิ้มอย่างดูถูกเล็กน้อย พร้อมกับมองไปที่ถังเฉา ฟางหย่าและหลินฉ่ายเวย จากนั้นพูดว่า “นี่เป็นความร่วมมือแบบไหนกัน ทำไมฉันถึงต้องมีพวกเขาในสายตาด้วย?”
“บอกว่าเป็นการร่วมมือ อันที่จริงเป็นบริษัทจวี้เฟิงกรุ๊ปของเราต่างหากที่สนับสนุนพวกเขา บอกว่าให้มีไว้ในสายตา ก็ต้องเป็นพวกเขาที่มีพวกเราในสายตาต่างหาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม