“……..”
ทั้งพื้นที่เงียบสงบอย่างกับความตาย
เริ่นจวินตงอึ้งค้างไปแล้ว
แม้แต่หลินฉ่ายเวยและเย่หรูอี้ที่เคยเห็นถังเฉาต่อสู้ก็ตะลึง มองดูภาพนี้อย่างไม่น่าเชื่อ
แม้แต่เย่อู๋เหินเองก็สีหน้าเคร่งขรึม
รวมทั้งในใจก็มีความอยากต่อสู้พุ่งขึ้นมาอย่างหนัก
คุณหนูพูดถูก เขาเป็นยอดฝีมือจริงๆ
อย่ามองดูว่าเพียงแค่หมัดเดียว ถึงแม้จะเป็นเขาเองเย่อู๋เหิน ก็ยังต้องระวังไว้
ถ้าหากไม่ระวัง ก็มีจุดจบเดียวกัน
ที่ยิ่งน่ากลัวกว่าก็คือ เขาอายุยังไม่ถึง 30 ปีด้วยซ้ำ!
ยอดฝีมืออายุเท่านี้ หายากมากในโลกใบนี้!
เริ่นจวินตงตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
เดิมทีเขารอให้ถังเฉาถูกหลัวจวินทุบตี จากนั้นก็ใช้ความน่าเกรงขามของสมาคมการต่อสู้ เขาจะได้ง่ายต่อการรวบกิจการจวี้เฟิงกรุ๊ปและลี่จิงกรุ๊ปสาขาย่อย
แต่ไม่คิดเลย
เพียงหนึ่งหมัดของถังเฉาก็จัดการหลัวจวินได้แล้ว
ในตอนนี้ เริ่มจวินตงนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ถังเฉาเตือนด้วยความ “หวังดี” ที่บอกให้หงเทียนหยาส่งคนที่เก่งที่สุดมา หรือไม่ก็ให้หงเทียนหยาออกด้วยตัวเองเลย
ตอนนั้น ไม่มีใครใส่ใจ ถึงขั้นยังหัวเราะเยาะ
ตอนนี้ เขาเสียใจแล้ว
หงเทียนหยาควรจะฟังถังเฉา!
ถังเฉาไม่มองดูหลัวจวินที่สลบเลยสักนิด แต่กลับเดินลงเวทีไปเลย
และยิ้มใส่เริ่นจวินตง “ประกาศผลแพ้ชนะได้แล้วใช่มั้ย?”
ตอนนี้ที่ถังเฉายิ้มใส่เขา เริ่นจวินตงรู้สึกถึงความกดดันอย่างหนักบางอย่าง
แม้ว่าเขายังจะอยากลำเอียงไปทางหลัวจวิน แต่ก็ไม่สามารถที่จะไม่ประกาศว่าถังเฉาชนะ
ผ่านไปสักพัก หลัวจวินค่อยๆฟื้นขึ้นมา
นึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ก็ตกใจในทันที รีบหันมองไปที่ถังเฉา
“ฟื้นแล้วหรอ?”
ด้านข้างเขามีเริ่นจวินตงยืนอยู่
เพียงแต่ว่าเริ่นจวินตงไม่มีท่าทางดูถูกอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว ในสายตามีความตกใจกลัวมากกว่า
รวมทั้งมีความรู้สึกเสียใจที่มาลี่จิงกรุ๊ปกับหงเทียนหยา
หลัวจวินลุกขึ้นอย่างลำบาก อยู่ๆก็รู้สึกว่าปวดแก้มอย่างมาก
ทันใดนั้นถังเฉาก็พูดว่า “ฉันแนะนำนายว่าอย่าไปจับดีกว่า ยิ่งจับ ยิ่งเจ็บ”
หลัวจวินฟังคำพูดของถังเฉาไม่ไปแตะต้องมัน
แต่กลับมองเขาด้วยสีหน้าซับซ้อน บนใบหน้าไม่มีความดูถูกหรือเยาะเย้ยอีก
“นี่ก็คือมวยทหารงั้นหรอ?”
หลัวจวินถามออกมา
ถังเฉาพยักหน้าอย่างดีใจ “พูดให้ถูกก็คือ เป็นเวอร์ชันที่ปรับแก้มาจากมวยทหาร หมัดฟ้าแลบ”
“หมัดฟ้าแลบ?!”
เมื่อได้ยินสามคำนี้ ในหัวหลัวจวินถึงกับคำรามก้อง
เหมือนกับว่าถูกฟ้าแลบใส่ เขาเบิกตาโต มองถังเฉาอย่างน่าอัศจรรย์
“ที่คุณถังใช้ ใช่หมัดฟ้าแลบที่ท่านบ้าบู๊คิดขึ้นมาใช่มั้ยครับ?”
ถังเฉาหัวเราะออกมา “หมัดฟ้าแลบไม่ใช่บ้าบู๊คิดขึ้นมาสักหน่อย เพียงแค่ว่าเขาเป็นคนพัฒนาส่งต่อก็เท่านั้น”
“คุณถังคือสายเลือดนักรบเทพ?”
ถังเฉาส่ายหัว “ไม่ใช่”
สายเลือดนักรบเดิมทีก็คือบ้าบู๊ที่เป็นคนที่ส่งต่อรวบรวมอำนาจการต่อสู้ เขาไม่ได้เป็นคนดูแล
แววตาของหลัวจวินมีความผิดหวังนิดหน่อย
แล้วถังเฉาก็พูดว่า “นายรู้แค่เพียงอย่างเดียวก็พอว่า ศิลปะการต่อสู้ทุกอย่างในโลก มีค่าของมันเสมอ อย่าดูถูกศิลปะการต่อสู้อย่างใดอย่างหนึ่ง!”
“เอาเรื่องมวยทหารมาพูดแล้วกัน หมัดฟ้าแลบ ก็สำเร็จมาจากการนำมวยทหารมาปรับแก้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม