เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 568

สรุปบท บทที่ 568 คุณค่าของการมีชีวิตอยู่: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 568 คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ – ตอนที่ต้องอ่านของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

ตอนนี้ของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 568 คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เถี่ยนิ้วใช้พละกำลังทั้งหมดในการจู่โจมหมัดนี้ แต่กลับถูกถังเฉากันเอาไว้อย่างง่ายดาย

นี่มันก็มากพอที่จะทำให้เถี่ยนิ้วถึงกับตกใจแล้ว

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจู่โจมสวนกลับของถังเฉา……ข้อศอกกับหัวเข่ายกขึ้นมาพร้อมกัน เร็วจนแทบจะมองไม่ทัน

เถี่ยนิ้วคิดที่จะหลบ แต่รังสีอำมหิตที่แสนร้ายแรง ทำให้เขาขยับไม่ได้

จิตสังหารนี้ ไม่ใช่แผ่ออกมาจากถังเฉา แต่เป็นจิตสังหารที่แทรกซึมผ่านเข้ามาระหว่างกระบวนท่า

การที่ผู้แข็งแกร่งถูกเรียกว่าผู้แข็งแกร่ง ไม่ใช่เพียงแค่ตัวของเขามีจิตสังหารเท่านั้น แต่เพราะว่า มีจิตสังหารแทรกซึมผ่านเข้าไปในทุกกระบวนท่าของเขา

ภายใต้จิตสังหารนี้ เถี่ยนิ้วเหมือนกับจอกแหนที่ลอยอยู่กลางสายลม จะขยับก็ขยับไม่ได้

เขาทำได้แค่รอศอกศอกนี้จู่โจมเข้ามาที่ตัวเท่านั้น

“ถึงยังไงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยถูกครูฝึกอบรมฝึกฝนมาก่อน!”

เถี่ยนิ้วคิดในใจ หลับตาลง

แต่ผ่านไปนานสองนาน ที่ร่างกายก็ไม่มีเสียงโจมตีดังขึ้นมาสักที

ถึงขนาดที่ไม่มีเสียงเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ

ราวกับว่าเวลาหยุดอยู่ตรงนี้

เถี่ยนิ้วลืมตาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

นาทีที่ลืมตาขึ้น เหงื่อตามตัวของเขาก็ไหลออกมา

ถังเฉามือหนึ่งกุมหมัดของเขาเอาไว้ ศอกอีกข้างก็อยู่ในจุดที่ใกล้กับใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่มิลลิเมตร

ส่วนหัวเข่า ก็เกือบจะแทงเข้ามาที่ซี่โครงของเขา

เถี่ยนิ้วแข็งทื่อไปทั้งตัว เหงื่อไหลหยดลงทันที

ไม่ว่าจะเป็นศอก หรือว่าเข่า ถ้าเกิดแทงเข้ามาล่ะก็ เขาไม่ตายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน

ถึงขนาดที่ จากกำลังของครูฝึกแล้ว ถ้าหัวเข่านี้แทงเข้ามา ซีกโครงซีกนี้จะต้องหักด้วยเช่นกัน!

ลูกศิษย์ของเถี่ยนิ้วก็อึ้งตะลึงไป

ต่างคนต่างตาโตอ้าปากค้าง สีหน้าช็อคตกใจ

“ถ้าอยู่ในสงครามล่ะก็ ตอนนี้นายตายไปจริงๆแล้ว”

ถังเฉาปล่อยเถี่ยนิ้วออก กลับไปนั่งที่เดิม ก่อนจะดื่มเหล้าอย่างนิ่งๆ

ในตอนนี้เถี่ยนิ้วเหงื่อไหลอาบเต็มหน้า ถึงขนาดที่ร่างกายถึงกับสั่นเล็กน้อย

ใช่แล้ว ถ้าเกิดอยู่ในสงครามจริงๆ ตอนนี้เขาคงตายไปเรียบร้อยแล้ว

ในเวลานี้ ในหัวของทุกคนก็มีคำพูดก่อนหน้านี้ของถังเฉาดังขึ้นมาอีกครั้ง

ฉันสู้ไม่เป็น

จู่ๆพวกเขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวและหัวใจอย่างไม่มีเหตุผล

ถังเฉาไม่ได้โกหกจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เสแสร้งด้วย

เขาสู้ไม่เป็นจริงๆ

ความหมายที่ซ่อนอยู่ในประโยคนี้ก็เข้าใจได้ว่า ฉันต่อสู้ไม่เป็น ฉันฆ่าคนเป็นอย่างเดียว

“ขอบ ขอบคุณสำหรับการชี้แหนะของครูฝึกครับ”

เถี่ยนิ้วกลืนน้ำลงอย่างแรงหนึ่งที ไม่นานก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที

ถังเฉาโบกมือ ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย

ลูกน้องของเถี่ยนิ้ว ก็มองถังเฉาด้วยสายตาเคารพชื่นชม

นี่ก็คือครูฝึกของครูฝึก นี่ก็คือเจ้ามังกรอย่างนั้นเหรอ?

เก่งกาจเกินไปแล้ว!

เถี่ยนิ้วกะที่จะออกไป แต่ถังเฉายิ้มพร้อมกับตะโกนเรียกไว้“ไม่กินอะไรกันสักหน่อยเหรอ?”

เถี่ยนิ้วพูดยิ้มๆ“ครูฝึก ถึงยังไงท่านก็อยู่ที่เมืองเจียงเฉิง เจอกันเมื่อไรก็ได้ วันนี้ยังฝึกกันไม่เสร็จเลยด้วย!”

เหล่าบรรดาลูกศิษย์ก็ไม่สบอารมณ์ทันที

“ครูฝึก บอกว่าวันนี้จะให้พวกเราหยุดหนึ่งวันไม่ใช่หรือไง?”

“หุบปากไปให้หมด!”

เถี่ยนิ้วตะคอกด้วยความโมโห“ยกเลิกวันหยุด ทุกคน ไปฝึกให้หมด!”

ถังเฉายิ้ม ถูกกระตุ้นเข้าแล้วสินะ!

ข้างนอกวิลล่า

ผู้คนรออยู่ข้างนอกนานแล้ว

แถมเสียงในห้องหรูหราก็เงียบหายไปแล้วด้วย

เว่ยหมิงจวินยิ้ม“น่าจะเสร็จแล้วล่ะ สามีของเธอไม่ไหวแล้วแน่ๆ”

“ไม่มีทาง คุณอย่ามาพูดอะไรมั่วซั่วนะ!”

หลินชิงเสว่ใบหน้าโมโห แต่สีหน้ากลับซีดขาว

“พูดมั่วหรือไม่มั่ว เข้าไปดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง?”

เว่ยหมิงจวินยิ้มเยาะเย้ย ราวกับว่าเห็นภาพที่ถังเฉานอนกองอยู่ที่พื้นด้วยบาดแผลเต็มตัว

คิดจะไปสู้กับสมาชิกสำรองของกองทัพปราณมังกร รนหาที่ตายให้ตัวเองชัดๆ

หลินฉ่ายเวยกับหลินเจิ้นสงก็มองหลินชิงเสว่ด้วยความกระวนกระวายใจเช่นกัน“เสี่ยวเฉาจะไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม?”

“ไม่มีทางหรอก ฉันไม่เชื่อ……”

หลินชิงเสว่อุ้มถังเสี่ยวลี้พุ่งเข้าไปทันที

ปัง!

พอประตูเปิด เถี่ยนิ้วก็ยืนอยู่ตรงประตูราวกับเทพเฝ้าประตู มองเธออย่างดุร้าย

“ว้าย!”

หลินชิงเสว่ตกใจ เซล้มลงไปกับพื้น

พอเห็นเถี่ยนิ้วขวางอยู่ตรงประตู พวกเว่ยหมิงจวินก็หยุดฝีเท้าลง สายตาที่ดูน่าเกรงขามนี้

จิตสังหารที่ใบหน้าของเถี่ยนิ้ว ทำให้ทุกคนตกใจกลัว

หลินฉ่ายเวยพยุงหลินชิงเสว่ขึ้นมา ถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล“พี่หลิน ถังเฉาจะไม่ถูกเล่นงานจริงๆใช่ไหม?”

“ฮ่าๆๆ……”

เว่ยหมิงจวินหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้“ขยะแบบนั้น ต่อให้มีศิลปะการต่อสู้เล็กๆน้อยๆบ้างก็เถอะ แต่จะไปเทียบกับสมาชิกสำรองของกองทัพปราณมังกรได้ยังไง? ถูกซัดจนน่วมแน่นอน!”

ในตอนนี้เว่ยหมิงจวินไม่เสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไปแล้ว พ่นคำพูดเยาะเย้ยออกมาตรงๆ

สีหน้าท่าทีของเถี่ยนิ้ว บ่งบอกทุกอย่างแล้ว

บรรดาผู้คนถอยออก เถี่ยนิ้วพาพรรคพวกจากไป

“ถังเฉา นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าทำเองก็ต้องรับเอง? ฮ่าๆๆ……”

เว่ยหมิงจวินผลักประตูเข้าไปทันที

แต่สิ่งที่เห็น กลับเป็นถังเฉาที่สภาพอยู่ดีไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว

เขาดื่มเหล้าอย่างสงบนิ่ง ใบหน้ายิ้มอย่างขี้เล่น มองเว่ยหมิงจวิน

เสียงหัวเราะของเว่ยมิงจวินหยุดลงทันที สีหน้าที่จ้องมองถังเฉาราวกับเห็นผี

“นาย นาย ทำไมนายถึงไม่เป็นอะไรเลย? พวกเขามาสั่งสอนนายไม่ใช่หรือไง?”

ถังเฉาพยักหน้าอย่างนิ่งๆ“ก็สั่งสอนไปชุดหนึ่งแล้ว แต่แค่ มันตรงกันข้ามกับที่คุณคิดก็เท่านั้น”

เว่ยหมิงจวินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที“หมายความว่ายังไง?”

เขาเป็นคนที่ช่วยตนเองให้รอดพ้นจากเฟิ่งหวง

ช่วงที่ผ่านมาอยู่กับเขาตลอด แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไรตนเองเลย ดูท่าคงจะไม่ได้จะคิดจะฆ่าตนเองหรอก

“พวกคุณไม่ฆ่าผม แล้วก็ไม่ปล่อยผมไปเหมือนกัน คิดอะไรอยู่กันแน่?”

หลินโป๋หลายมองผู้ชายพร้อมกับถามอย่างระแวง

ผู้ชายยิ้มนิ่งๆ“พอถึงโรงแรมเทียนกง คุณก็จะรู้เอง”

รถแล่นด้วยแบตเตอร์รี่ ไม่นานก็มาถึงยังโรงแรมเทียนกง

ผู้ชายคนนั้นพูดกับหลินโป๋หลาย“คุณขึ้นไปข้างบนก่อน เพ้นท์เฮ้าส์2801”

“แล้วคุณล่ะ?”

หลินโป๋หลายถาม

สวมเสื้อคลุมสีดำอยู่ด้วย แน่นอนว่าไม่สามารถเดินเชิดหน้าเชิดตาบนถนนได้อยู่แล้ว

หลินโป๋หลายขึ้นลิฟต์ของเพ้นท์เฮ้าส์ไปทันที กดกระดิ่งประตูห้องหมายเลข2801

ติ๊งต่อง!

ไม่นาน ประตูก็เปิดออก มีผู้หญิงสวมชุดกี่เพ้าสีม่วงยืนอยู่ข้างใน

“สวัสดี……”

หลินโป๋หลายกำลังจะพูดทักทาย พอเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นชัดเจนแล้ว เสียงพูดของเขาก็หยุดชะงักลง สีหน้าเหลือเชื่อ

“หรูอี้ คุณเองเหรอ?”

“หลินโป๋หลาย?”

เย่หรูอี้ก็สีหน้าตกใจเช่นเดียวกัน คิดไม่ถึงว่าคนที่จะมาเจรจาต่อรองจะเป็นหลินโป๋หลาย

“หรูอี้ เป็นคุณจริงๆด้วย ช่วงหลายวันมานี้ผมคิดถึงคุณตลอดเวลา……”

หลินโป๋หลายสีหน้าตื่นเต้น พูดพลางจะเดินเข้าไป

แต่เดิมหลินโป๋หลายชอบเย่หรูอี้ น่าเสียดายที่เย่หรูอี้หมั้นกับถังหลินแห่งตระกูลหลินแล้ว หลินโป๋หลายก็ทำได้แค่ยอมแพ้ไป

วันเวลาที่แสนมืดมนที่ถูกชายค้างคาวจับตัวไป ในใจของเขาเอาแต่คิดถึงเย่หรูอี้

ตอนนี้ได้มาเจอเย่หรูอี้ตัวเป็นๆ จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง?

“คุณหยุดนะ!”

เย่หรูอี้ตะโกนขึ้นมาทันที จากนั้นก็หันกลับไปถาม“คนที่คุณพูดถึง คือเขาเหรอ?”

หลินโป๋หลายก็ชำเลืองมองเข้าไปข้างในเหมือนกัน เห็นชายค้างคาวที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไรกำลังนั่งอยู่บนโซฟาเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีใครรู้ว่าเขาขึ้นมาได้ยังไง

ชายค้างคาวพยักหน้าอย่างนิ่งๆ แทบจะดูไม่ออกเลยว่ามีสีหน้าอารมณ์อะไรอยู่

เย่หรูอี้สูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ คุณเข้ามาสิ”

หลินโป๋หลายนั่งลงตรงหน้าของเย่หรูอี้ ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

ชายค้างคาวยิ้มให้กับเย่หรูอี้“ผมรู้ ว่าคุณจะต้องสัญญากับผม เพราะว่าคุณปฏิเสธผมไม่ได้”

เย่หรูอี้ในตาเยือกเย็น“หยุดพูดไร้สาระสักที เรื่องที่คุณให้ฉันทำเสร็จสิ้นไปหมดแล้ว สิ่งที่คุณสัญญากับฉันไว้ ก็จะมาคืนคำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่!”

เย่หรูอี้น้ำเสียงตื่นตัวมาก

ชายค้างคาวยิ้มขึ้นมาทันที“เรียกเธอเข้ามาก่อนสิ”

เย่หรูอี้ตบมือ“ออกมาได้แล้ว”

ห้องข้างในเปิดออก ผู้หญิงที่เย็นชาไร้อารมณ์สวมเสื้อหนังสีดำ กางเกงหนังสีดำเดินออกมา

เฟิ่งหวงนั่นเอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม