หลังจากวางแผนการลับๆแล้ว เย่หรูอี้สีหน้าก็ซีดขาวไม่น้อย หน้าผากเหงื่อไหลออกมาเป็นหยด
เธอนั่งลงบนโซฟา หายใจเหนื่อยหอบ
ชายเสื้อคลุมยิ้มนิ่งๆ“สมแล้วที่เป็นสองคนที่โดดเด่นของตระกูลเย่ เป็นอย่างที่คิดไว้วางแผนได้อย่างรอบคอบสมบูรณ์ไร้ตำหนิจริงๆ”
เย่หรูอี้ไม่แยแสกับคำประจบประแจงของชายเสื้อคลุม ถึงขนาดที่สีหน้ายิ่งเย็นชามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ“ฉันไม่เข้าใจ ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไรกันแน่?”
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ตัวตนของชายเสื้อคลุม แต่เธอก็แอบรู้สึกได้นิดหน่อย
เธอถูกล้อมให้เข้าไปอยู่กลางวังวนที่ยากจะสลัดตัวออกเรียบร้อยแล้ว
แล้ววังวนนี้ ก็เริ่มวางแผนขึ้นมาอย่างลับๆตั้งแต่ในงานแต่งงานของเธอกับถังเฉาเมื่อห้าปีก่อนแล้ว
ชายเสื้อคลุมยิ้มๆ ไม่มีทางบอกเป้าหมายให้กับเย่หรูอี้อยู่แล้ว
เขาแค่เม้มปาก“คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ คุณแค่รู้นิดเดียวพอแล้ว แค่คุณเชื่อฟังคำพูดของผม จัดการธุระให้กับผม คุณกับสหายญาติมิตรของคุณก็จะอยู่รอดปลอดภัย แถมคุณยังได้สิ่งที่คุณต้องการอีกด้วย”
เย่หรูอี้สายตานิ่งขรึม เธอเข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น ถ้าเกิดไม่ซื่อสัตย์ ชีวิตของเธอกับคนรอบตัวของเธอก็รับประกันไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“แน่นอนว่า การจะบอกความลับทั้งหมดกับคุณ ก็ไม่ใช่ว่าบอกไม่ได้”
ชายเสื้อคลุมก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน“คุณเย่ จากความสามารถและฝีมือของคุณแล้ว มารับหน้าที่เป็น‘ผู้บริหารสูงสุดห้าดาว’ขององค์กรพวกเรา มันก็มากเกินพอแล้ว ขอแค่คุณยอมตกลงที่จะทำงานให้กับองค์กร ผมไม่เพียงแต่จะบอกแผนการทั้งหมดกับคุณ แต่ยังสามารถช่วยให้คุณกลายเป็นราชินีของตระกูลเย่แห่งตระกูลหลวงได้ด้วย จากที่ผมทราบมาตำแหน่งของคุณในตระกูลเย่ก็ไม่ใช่ว่าจะมั่นคง คนที่อยากให้คุณตายก็มีมากมาย”
พอคำพูดนี้ออกมา เฟิ่งหวงที่อยู่หลังสุดก็ตัวสั่นสะดุ้งทันที ในตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกที่ออกมาจากใจ
เย่หรูอี้ก็สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย เขาเริ่มจะมาทาบทามต้นเองเข้าองค์กรแล้ว
“ขอโทษด้วย ฉันจะไม่ร่วมมือกระทำชั่วกับคนแบบพวกคุณ แม้ว่าฉันจะชั่วร้าย แต่ฉันก็มีขีดจำกัดอยู่”
แน่นอนเธอว่ารู้ว่าเงินอำนาจมากมายของตระกูลหลวงของเยี่ยนตูที่ชายเสื้อคลุมพูดมาเป็นความจริง แต่สิ่งที่เป็นตัวกำหนดว่าตระกูลนั้นๆจะทรงพลังแค่ไหน ก็คือพละกำลังความแข็งแกร่ง
ชายเสื้อคลุมแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก เก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู สำหรับเขาแล้วมันแทบไม่ต้องเสียแรงเลยด้วยซ้ำ
แต่ทั้งที่เป็นแบบนี้ เย่หรูอี้ก็ยังคงไม่ยอมที่จะเข้าร่วมกับพวกเขา
ชายเสื้อคลุมก็ไม่ว่าอะไร พูดยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดาย ระหว่างพวกเรา ถูกลิขิตให้เป็นแค่ความสัมพันธ์ที่ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น”
เย่หรูอี้จ้องมองเขาอย่างเย็นชา“ฉันถูกคุณใช้ประโยชน์ได้ แต่คุณอย่าลืมที่สัญญากับฉัน จะไปทำร้ายถังเฉาถึงชีวิตไม่ได้!”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
มุมปากที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมของชายเสื้อคลุมยกโค้งขึ้นแปลกๆ
เขา……กำลังยิ้มอยู่
“เขาเป็น‘ภาชนะ’ที่หายากมากๆ แน่นอนว่าผมไม่มีทางทำร้ายเขาถึงชีวิตแน่นอน”
เฟิ่งหวงที่อยู่หลังสุด ร่างกายก็สั่นแรงขึ้นมาก ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนกับมีมือมาบีบที่คอของเธออย่างแรง ขนาดส่งเสียงร้องยังทำไม่ได้
มีแค่คนของ‘หว่างเหลี่ยง’เท่านั้น ที่รู้ว่า‘ภาชนะ’คำนี้มันหมายถึงอะไร
“ถ้าอย่างนั้นก็ลาก่อนนะครับ คุณเย่”
ชายเสื้อคลุมลุกขึ้นจากไป
วิธีการที่จากไปของเขาก็น่าตกใจเหมือนกัน ไม่ได้เดิน แต่กลับไปตรงระเบียง แล้วก็กระโดดลงไปข้างล่าง
ฟู่ๆๆ!
เสื้อคลุมสีดำเข้มของเขากางออก เหมือนกับค้างคาวสีดำตัวใหญ่ที่น่าเกลียดน่ากลัว ร่อนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรีของเมืองเจียงเฉิง
พอชายเสื้อคลุมจากไป แรงกดดันในห้องโถง ก็ค่อยๆจางหายไป
“ไปกันเถอะ”
หลินโป๋หลายก็ไปจากที่นี่เหมือนกัน
เย่หรูอี้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยไปทั้งตัว กุมหัวของตัวเองเอาไว้ด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง ครุ่นคิดพิจารณาว่านี่มันถูกหรือผิด
แต่ทันใดนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังเงามืดในห้อง
เธอรู้สึกว่ายังมีอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ไป
เฟิ่งหวงเดินออกมาจากเงามืด นั่งลงตรงข้ามกับเย่หรูอี้
“เมื่อก่อนคุณเป็นบอดี้การ์ดหญิงของถังเฉาไม่ใช่เหรอ?”
เย่หรูอี้พูดขึ้นด้วยความสงสัย สายตามองสำรวจเฟิ่งหวง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม