เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 604

สรุปบท บทที่ 604 หัวหน้าใช้อำนาจขู่เข็ญ: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

ตอน บทที่ 604 หัวหน้าใช้อำนาจขู่เข็ญ จาก เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 604 หัวหน้าใช้อำนาจขู่เข็ญ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เจ้ามังกรพรีเมี่ยม ที่เขียนโดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ถังเฉาก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองแค่พูดไปเล่นๆ แต่กลับทำให้เย่หรูอี้ยิ้มออกมาได้

รอยยิ้มนั้นสดใสราวกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ

ต่อให้เป็นถังเฉา ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งตะลึงไป

ผู้หญิงที่เย่อหยิ่งเย็นชาไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูดมาตลอดจู่ๆก็ยิ้มออกมา มันมีผลกระทบอย่างมาก

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เย่หรูอี้หน้าตาดูสวยดูแพงแบบคลาสสิค ถ้าอยู่ในสมัยโบราณ ก็ถือว่าเป็นนางสนมที่ถูกต้องและเหมาะสมแน่นอน

บวกเข้ากับเย่หรูอี้ที่เกือบจะได้เป็นภรรยาของตัวเองแล้ว ถ้าจะบอกว่าในใจของถังเฉาไม่สั่นไหวเลยก็โกหกแล้ว

“มองอะไร?”

พอสังเกตเห็นถึงสายตาของถังเฉา รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่หรูอี้ก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

กลับมาท่าทีหยิ่งยโสเย็นชาตามเดิม

ในตอนนี้ถังเฉาก็ดึงสติกลับมา ใบหน้าอึดอัด“เปล่า ไม่มีอะไร”

ในใจคิดว่าตัวเองก็มีครอบครัวแล้ว การที่ไปมองผู้หญิงคนอื่นด้วยความรู้สึกหลงใหลแบบนี้

ในใจของถังเฉาก็รู้สึกผิดไม่น้อย

จากนั้นทั้งสองคนก็เข้าไปด้วยกัน

คนที่ตรวจตั๋วอยู่ตรงประตูก็ยังคงเป็นรปภ.สองคนนั้น

แต่พอรู้แล้วว่าถังเฉาเป็นเพื่อนของคุณเย่ พวกเขากล้าไปขวางรั้งที่ไหน?

เย่หรูอี้ก็ยื่นตั๋วไปแค่ใบเดียว แสดงถึงตัวเธอแค่คนเดียว

แต่เธอก็พูดอธิบาย

“เขาเป็นตัวแทนผู้เข้าแข่งขันของตระกูลเย่ ดังนั้นไม่ต้องตรวจตั๋ว”

“ครับ ได้ครับ……”

รปภ.ทั้งสองคนก็ปล่อยเข้าไปโดยตรง จนกระทั่งพวกเขาเดินไปไกลแล้ว จึงมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

“เมื่อตะกี้คุณเย่พูดว่าอะไรนะ?”

“เป็นตัวแทนผู้เข้าแข่งขันของตระกูลเย่?”

“พูดขนาดนี้ แสดงว่าสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ เขาเป็นยอดฝีมือตัวแทนของตระกูลเย่?”

ใบหน้าของรปภ.ทั้งสองคนตกตะลึง ในใจก็เกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ ถังเฉาก็บอกแล้วว่าเขาเข้าไปได้โดยที่ไม่ต้องใช้ตั๋ว เพราะว่าเขาเป็นผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วมการประชุมแดนเหนือ

ผลที่ได้พวกเขากลับหัวเราะเยาะ ไม่มีใครเชื่อแม้แต่คนเดียว

ตอนนี้พวกเขากลับอึ้งตะลึง พวกเขาเกือบจะไปก้าวก่ายยอดฝีมือในการต่อสู้เข้าแล้ว!

ยอดฝีมือที่กล้าเข้าร่วมประชุมแดนเหนือทุกคน พละกำลังแข็งแกร่งทั้งนั้น

พวกเขาจะคิดยังไง เย่หรูอี้ไม่สนใจสักนิด ความคิดจิตใจของเธออยู่ที่ถังเฉาหมดแล้ว

แม้ว่าทั้งสองคนจะกำลังเดินอยู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

แต่เย่หรูอี้แอบมองถังเฉาทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ

ไม่ว่ายังไง เขาก็คือผู้ชายเพียงคนเดียวที่ทำให้เธอยิ้มออกมาได้

แต่ว่า เขากลับเป็นของคนอื่นไปแล้ว

นี่เป็นสิ่งที่เย่หรูอี้รู้สึกเสียดาย แล้วก็รู้สึกลังเลที่สุด

“เย่หรูอี้ คุณมาแล้วเหรอ? ฉันนึกว่าเธอจะกลัว ไม่กล้ามาแล้วซะอีก!”

ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงคุ้นหูที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยดังขึ้นมา

ถังเฉากับเย่หรูอี้ก็หันมองไปตามเสียง

เย่เซ่าเตี๋ยก็นั่งอยู่ตรงที่นั่งของตระกูลเย่แห่งตระกูลหลวงเรียบร้อยแล้ว

ข้างหน้ามีเมล็ดทานตะวันตั้งไว้หนึ่งถ้วย กำลังแทะอยู่

ต่างกับเย่หรูอี้ที่แบกรับความกดดันอันใหญ่หลวงของตระกูลเอาไว้ ประชุมแดนเหนือสำหรับเธอแล้ว ก็คือการมาเพลิดเพลินกับวันหยุดก็เท่านั้น

เธอไม่รู้เรื่องการต่อสู้ รู้จักแต่อาบแดด แทะเมล็ดทานตะวัน

หันมองดูผลต่อสู้แพ้ชนะบนเวทีเป็นครั้งคราว นี่ก็ถือว่าเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งเหมือนกัน

แต่ตอนที่สายตาของเธอหันมาเห็นถังเฉาที่อยู่ข้างหลังของเย่หรูอี้นั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที

“ถังเฉา? แก……แกเข้ามาได้ยังไง?”

เย่เซ่าเตี๋ยแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เห็นๆอยู่ว่าเธอสั่งกำชับรปภ.ตรงทางเข้าไว้แล้ว ว่าอย่าให้ถังเฉาเข้ามา

แต่พอเห็นเย่หรูอี้ที่ยืนอยู่ด้วย เธอก็เข้าใจขึ้นมา สีหน้าท่าทีเปลี่ยนเป็นเยาะเย้ย

“เย่หรูอี้ เธอนี่มันลดค่าตัวเองจริงๆนะ เขาถือว่าเป็นสามีเก่าของเธอ เธอยังจะช่วยเขาขนาดนี้อีกเหรอ?”

เย่หรูอี้ไม่ได้โมโหเลยแม้แต่น้อย นั่งลงตรงที่นั่งอย่างสง่างาม ท่าทีแน่วแน่จริงจัง

“เรื่องของฉัน คุณไม่ต้องยุ่งหรอก”

“นี่เธอ……”

พอเห็นว่าเย่หรูอี้ไม่สนใจเธอ เย่เซ่าเตี๋ยก็โกรธสุดๆ

แต่ ไม่นาน ผู้ชายที่แข็งแกร่งทรงพลังคนหนึ่งก็มาอยู่ข้างๆของเย่เซ่าเตี๋ย

เขาคือน้องชายแม่เดียวกันของหงเทียนหยาแห่งสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง หงเทียนเฉิน

เย่เซ่าเตี๋ยก็หัวเราะออกมา“เย่หรูอี้เธอภูมิใจไปเถอะ ประชุมแดนเหนือจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่เธอกลับยังทำไม่เสร็จสักเรื่อง คนที่ให้ตระกูลเย่เข้าร่วมการแข่งขัน กลับเป็นฉัน”

“คุณหงจะเอาชัยชนะมาให้กับตระกูลเย่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเครดิตของฉัน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย!”

“เรื่องนี้รอฉันกลับเยี่ยนจิงก่อน ฉันจะรายงานให้ท่านปู่ทวดทราบแน่นอน เธอรอเก็บข้าวของออกไปได้เลย!”

“เหอะ!”

หงเทียนเฉินเหมือนกับเสาเหล็ก นำมาซึ่งแรงกดดันอันมหาศาล

เขาสบถเหอะออกมาอย่างหนักหน่วง สายตาจับจ้องไปที่ถังเฉาเป็นพิเศษ

แต่ ถังเฉากับเย่หรูอี้ไม่ได้รู้สึกตื่นตกใจหรือโกรธเลยแม้แต่น้อย ยังคงนิ่งสงบราวกับสายน้ำ

“โหวกเหวกเสียงดัง หรือว่าท่านปู่ทวดไม่เคยสอนเหรอว่า‘ปลาหมอตายเพราะปาก’มันหมายความว่าอะไร?”

เย่หรูอี้ตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ

เย่เซ่าเตี๋ยสำลักทันที

แข่งฝีปากกันเย่เซ่าเตี๋ยสู้เย่หรูอี้ไม่ได้อยู่แล้ว เธอก็เลยไม่พูดซะเลย

“รอประชุมแดนเหนือเริ่มก่อนเถอะ เธอได้ร้องไห้แน่ๆ!”

เย่หรูอี้ยังคงไม่รู้สึกตื่นตระหนกแต่อย่างใด แต่กลับหันมองไปยังถังเฉา ยิ้มเล็กน้อย“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพวกเราเจอกันนะ!”

“เจอกัน!”

ถังเฉาพยักหน้า จากนั้นก็เดินตรงไปยังที่นั่งของหลินชิงเสว่

เย่เซ่าเตี๋ยที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้วก็อึ้งตะลึงไป

เดี๋ยวเจอกัน หมายความว่ายังไง?

สัญชาตญาณของเธอคิดไปถึงว่าทั้งสองคนกำลังคบชู้กันอยู่

“สามีของหลินชิงเสว่ คงจะไม่คบชู้กับเย่หรูอี้หรอกใช่ไหม?”

เย่เซ่าเตี๋ยพูดด้วยความอึ้งตะลึง

ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงตรง อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเริ่มเปิดประชุมแดนเหนือแล้ว

แม้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องการต่อสู้แบบหลินชิงเสว่ หลินฉ่ายเวยก็ยังรู้สึกถึงความอันตรายไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถังเฉา

“ถังเฉา แกฆ่าอัจฉริยะของสมาคมการต่อสู้ของฉัน เรื่องนี้ไม่มีทางปล่อยไปแบบนี้แน่นอน ความแค้นของพวกเรา รอหลังจากที่ประชุมแดนเหนือเสร็จสิ้นลงแล้ว ค่อยมาคิดบัญชีกัน!”

หงเทียนหยาจ้องมองถังเฉาด้วยความโกรธ น้ำเสียงเยือกเย็นถึงกระดูก

พอคำพูดนี้ออกมา พวกหลินชิงเสว่ หลินฉ่ายเวยก็สะดุ้งตกใจทันที

เพราะว่ามันช็อคตกใจมากไป ถังเฉาไปฆ่าอัจฉริยะของสมาคมการต่อสู้อย่างนั้นเหรอ?

ถังเฉารู้ดีว่าที่หงเทียนหยาพูดถึงก็คือหลัวจวินอัจฉริยะอายุน้อยที่ไม่รู้ว่าถูกใครแอบลอบฆ่า

จู่ๆสายตาของเขาก็หันมองไปยังชายชราผมขาวคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง

“ท่านอาวุโสหลัวเฉิง คุณต่อสู้กับผม ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ผมได้ฆ่าหลานชายของคุณหรือไม่นั้น คุณก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมปล่อยไปสักที?”

ถังเฉายังคงนั่งอยู่ตรงที่นั่งด้วยสีหน้าท่าทีนิ่งเฉย แต่น้ำเสียงกลับชัดแจ๋ว

ชายชราผมขาวคนนั้นก็คือปู่ของหลัวจวินและหลัวเฉิงที่รู้จักในนามของนักรบเทพ

แต่แค่ว่า การสู้ในครั้งนั้นถังเฉาเอาชนะหลัวเฉิงได้ด้วยแรงบดขยี้

ถ้าเกิดอยู่ในสนามรบ หลังเฉิงก็คงตายไปเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นหลัวเฉิงรู้ดีว่าถังเฉาไม่มีทางเป็นฆาตกรที่ฆ่าหลานชายของตัวเองแน่นอน

แต่ว่า นั่นมันเป็นสิ่งที่เขาคิดเท่านั้น ไม่ได้แสดงถึงเจตจำนงของสมาคม

หน้าตาของสมาคม สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของหลัวจวิน

“หัวหน้า ฆาตกรที่ฆ่าจูนเนอร์ อาจจะไม่ใช่เขา……”

หลัวเฉิงพูดอธิบายขึ้นมาด้วยสีหน้าซับซ้อน

แต่กลับถูกหงเทียนหยาพูดดุออกมาด้วยความโกรธ

“หุบปาก!ไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใครอีก?”

หงเทียนหยาชำเลืองมองหลัวเฉิงด้วยความโกรธ“หลัวเฉิง คุณต้องเข้าใจ หลัวจวินเป็นหลานของคุณ หลานชายของคุณถูกทำร้าย คุณกลับปล่อยไปโดยที่ไม่แก้แค้น คุณไม่รู้สึกละอายใจต่อวิญญาณที่อยู่บนฟ้าของหลานชายของคุณเหรอ คุณไม่รู้สึกละอายใจต่อจิตใจนักสู้ที่บริสุทธิ์นี้ของคุณเหรอ?”

หลัวเฉิงก้มหน้าลงทันที

ถังเฉาหรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคมกริบ

“ดูท่า สมาคมการต่อสู้ของคุณกะที่จะเอาชีวิตนี้มาลงที่ผมใช่ไหม?”

ถังเฉาน้ำเสียงแฝงไปด้วยอันตราย

ถ้าเกิดเป็นสิ่งที่เขาทำ เขาก็จะยอมรับอย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนทำ คนอื่นดึงดันจะคิดบัญชีกับเขาให้ได้ เขาจะทำให้อีกฝั่งได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าการชดใช้ตอบแทน

“แกเป็นคนฆ่าแท้ๆ ยังจะมาเล่นลิ้นอีกอย่างนั้นเหรอ?”

หงเทียนหยาพูดขึ้นอย่างน่ากลัว“จำไว้ ชีวิตของแก เป็นของสมาคมการต่อสู้ของพวกเรา”

พอคำพูดนี้ออกมา สายตาของหลินชิงเสว่ หลินฉ่ายเวยก็หันมองถังเฉาด้วยความเป็นห่วงทันที

ถังเฉายิ้มๆ ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย

อย่างอื่นไกลไม่พูดถึง  ภายในต้าเซี่ย คนที่สามารถคร่าชีวิตเขาได้ จะมีสักกี่คนกันเชียว?

“ประธานหง เมื่อตะกี้คุณ จะคร่าชีวิตของใครนะ?”

ในตอนนี้เอง ข้างหลังจู่ๆก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมา แถมยังเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต

หงเทียนหยาสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย หันหน้ากลับไปทันที

เห็นเย่เทียนหลงพุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับผู้คนจำนวนมาก แรงอาฆาตในตาก่อตัวกัน

“สมาคมการต่อสู้หมิงจู?”

หงเทียนหยารูม่านตาหด

เย่เทียนหลงยิ้มอย่างเย้ยหยัน“คุณคิดจะคร่าชีวิตของคุณถัง ถามสมาคมการต่อสู้หมิงจูของพวกเราแล้วยัง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม