สรุปเนื้อหา บทที่ 630 ไม่เล่นตามกติกา – เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน
บท บทที่ 630 ไม่เล่นตามกติกา ของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
กริบ!
หลังจากที่ถังเฉาพูดประโยคนี้ออกมา ทั้งสนามกีฬาก็เงียบสงัด
สีหน้าของคนรอบ ๆ ไร้ชีวิตไป เขาไม่เพียงแต่เหน็บแนมมู่เจียง ทั้งยังสงสัยทั้งงานประชุมแดนเหนือ?
ประโยคนี้ทำให้ถังเฉาตกเป็นเป้าโจมตีของผู้คนในทันที คนทั้งหมดที่เคยเข้าร่วมประชุมแดนเหนือ ไม่มีใครที่ไม่มองเขาด้วยสายตาเย็นชา
ราวกับเพิ่งจะสังเกตเห็นสายตาของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ในเวลาเดียวกันกับที่สีหน้าของมู่เจียงมืดครึ้มลงนั่นเอง เขาก็หัวเราะเสียงดังออกมา “นี่แกกำลังล่วงเกินทุกคนอยู่นะ!”
“ล่วงเกินฉันยังพอมีความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิตไปได้ แต่ว่าแกสงสัยประชุมแดนเหนือ ก็เท่ากับสงสัยมู่ตงเฟิงพี่น้องของฉัน ไม่มีทางที่จะฟื้นขึ้นมาได้เด็ดขาด!”
น้ำเสียงของมู่เจียงมีความโอหัง
ในแดนตะวันตก ทุกคนล้วนแต่เกรงใจและเคารพเขา บูชาเขา
เพราะว่าเขาเป็นพี่น้องของมู่ตงเฟิง
ในสนามรบ ยิ่งช่วยชีวิตมู่ตงเฟิงจากยอดฝีมือมาหลายครั้งอย่างยากลำบาก เคยถูกคนอื่นดูหมิ่นดูแคลนเช่นนี้ที่ไหนกัน?
“เจ้าหมอนี่จบเห่แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะแตะต้องพี่น้องของผู้พิทักษ์มู่ ได้ยินมาว่ามู่เจียงคนนี้ ศักยภาพที่แท้จริงด้อยกว่ามู่ตงเฟิงนิดหน่อยก็ท่านั้น”
“อีกทั้งเขายังเอ่ยปากอย่างบ้าระห่ำ มู่เจียงไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่”
“เขาตายแน่!”
กลุ่มคนวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ ไม่มีใครที่ไม่มีสีหน้าเยาะหยัน
แม้แต่หวางเฉียนก็ยังหัวเราะตามไปด้วย “หงเจี๋ย คนคนนี้ พวกคุณล้วนต้องเอาเงินไปซื้อตัวเขาหรือ? ต่อให้ต้องสู้ขึ้นมาจริง ๆ เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เจียงนะ?”
ที่จริงจากสายตาของคนนอกวงการ พลังบนร่างของมู่เจียงเต็มเปี่ยม รังสีสังหารเข้มงวด แค่มองดูก็รู้ว่าสังหารผู้แข็งแกร่งมามากมาย
แต่ถังเฉากลับไม่เหมือนกัน กลิ่นอายของเขาเก็บอยู่ภายใน ดูไม่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป
ถ้าหากจะพูดสิ่งที่พิเศษจริง ๆ ละก็ นั่นก็คือหน้ากากโลหะบนใบหน้าของเขา
ซุนหงเจี๋ยไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่บนใบหน้ามีรอยยิ้มเยือกเย็น
เขาไม่สนใจความเป็นความตายของผู้ถูกคัดเลือก สนใจแค่ผลลัพธ์ในตอนท้ายเท่านั้น
ทางด้านตระกูลเย่ เย่หรูอี้ก็ตึงเครียดจนเหงื่อออกฝ่ามือ
ศักยภาพของมู่เจียงสูงกว่าหงเทียนหยาอย่างแน่นอน แม้แต่ยอดฝีมือของภายในตระกูลเย่ก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้
ถังเฉาจะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่?
มองดูบนเวที มู่ตงเฟิงกำลังดื่มชาอย่างสบายใจ สายตาทอดมองวัวที่อยู่ไกล ๆ จิตใจดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ที่ประชุมแดนเหนือโดยสิ้นเชิง
เพราะว่ามู่เจียงขึ้นสนามไปแล้ว นี่ได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นการต่อสู้ที่ไม่ต้องกังวลใจ
ถ้าหากเป็นการต่อสู้ปกติ ไม่แน่ว่ามู่เจียงอาจจะทำร้ายชีวิตของเขาได้ แต่ใครใช้ให้เขาพูดจาไม่เกรงใจกันล่ะ?
“อย่างนั้นเหรอ?”
ถังเฉาเพียงแค่ยิ้มอย่างเย็นชาให้กับเหตุการณ์นี้ ไม่เอามาใส่ใจแม้แต่น้อย
มู่ตงเฟิงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แล้วมู่เจียงจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?
“รนหาที่ตาย!”
เห็นถังเฉายังคงไม่สะทกสะท้าน ถึงขึ้นที่น้ำเสียงยังมีความเยาะหยันอย่างคลุมเครือ มู่เจียงเดือดดาลขึ้นมาในชั่วพริบตา พุ่งเข้าไปทางถังเฉาตรง ๆ
บึ้ม!
เขาเคลื่อนไหวฝีเท้า เคลื่อนไหวไปทางถังเฉาในแนวนอนอย่างรวดเร็ว
ตอนที่กำลังจะไปถึงตรงหน้าของถังเฉา เขาก็กระโดดขึ้นสูง ฟาดขาเตะอย่างหนัก ๆ ไปทางศีรษะของถังเฉา
ทว่าถังเฉาเพียงแค่เบนศีรษะหลบ ก็หลบการโจมตีนั้นไปได้
มู่เจียงรู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แปลกใจจนเกินไป
ถังเฉายังคงยืนเอามือไพล่หลัง ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ผมว่านะ ถ้าหากอยากจะสู้จริง ๆ ก็อย่าหยั่งเชิงเลย คุณหยั่งเชิงไม่ออกหรอก จัดมาเต็มเหนี่ยวตรง ๆ เลย”
เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าเมื่อกี้มู่เจียงเพียงแค่หยั่งเชิง?
ทั้งสองฝ่ายสู้กัน หยั่งเชิงดู นั่นล้วนแต่ไม่มีประโยชน์!
คนส่วนใหญ่พอขึ้นมาก็ล้วนสู้เต็มแรง เพราะใคร ๆ ก็ล้วนแต่อยากจะฆ่าอีกฝ่ายภายในเวลาอันสั้น
มู่เจียงหัวเราะเยาะออกมา “ให้ฉันจัดสุดแรง แกมีคุณสมบัตินั้นเหรอ?”
ขวับ!
ตามเสียงของประโยคนี้ที่สิ้นไป ช่วงเวลาที่ถังเฉาย้ายตำแหน่ง นึกไม่ถึงว่าจะมาอยู่ตรงหน้าของมู่เจียงแล้ว
พลั่ก!
เตะออกไปหนึ่งที ทั้งร่างของมู่เจียงก็ถูกถังเฉาเตะออกไปจากเวทีประลอง
“ตอนนี้มีหรือยัง?”
ถังเฉายืนอยู่บนเวทีประลอง มองกดเขาจากมุมสูง
สายตานั้นเหมือนกับเทพเจ้าที่พิพากษาสรรพสัตว์
กริบ
เงียบราวกับความตาย
ทุกคนล้วนเอ๋อไป
แม้แต่มู่ตงเฟิงที่อยู่บนเวทีก็ยังไร้จิตวิญญาณไปทั้งหน้า มองฉากนี้ที่ด้านล่างของเวทีอย่างไม่อยากจะเชื่อ
มู่เจียงพี่น้องของเขา นึกไม่ถึงว่าจะถูกเจ้ามังกรเตะตกเวทีตามไปแล้ว?
ไม่เพียงเท่านี้ ตัวมู่เจียงเองก็ยิ่งไม่กล้าจะเชื่อฉากนี้เลย นั่งจนตรอกมองถังเฉาอยู่ที่เดิม
ตัวเขาเอง... นึกไม่ถึงว่าจะถูกเตะตกเวที?
บึ้ม!
หลังจากที่ไร้จิตวิญญาณอยู่นาน ทั้งสนามกีฬาก็เกิดผลกระทบขึ้น
“ตัวเต็งแชมป์มู่เจียง นึกไม่ถึงว่าจะถูกเตะตกเวที?!”
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
“ฉันไม่ได้ตาลายใช่ไหม?”
มีคนที่ยิ่งไปกว่านั้น ไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังขยี้ตาดูต่อไป
ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เขามองเห็นก็ยังคงเป็นฉากที่มู่เจียงนั่งจนตรอกอยู่ด้านนอกเวที
มู่เจียงตกรอบจริง ๆ แล้ว!
“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”
ทางด้านตระกูลฉิน ฉินโช่ววง ฉินกวนฉีและฉินผู้หยางล้วนแต่มองฉากที่เกิดขึ้นที่ด้านล่างของเวทีด้วยความไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าประหลาดใจอย่างถึงที่สุด
ตระกูลฉินกับมู่ตงเฟิงผู้พิทักษ์แดนตะวันตกมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน นี่คือสิ่งที่ทุกคนล้วนรู้กัน
เดิมทีตระกูลฉินล้วนแต่หวังว่ามู่ตงเฟิงจะขึ้นต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้
เพราะว่ามู่ตงเฟิงเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ไม่สามารถจะขึ้นต่อสู้ด้วยตัวเองได้
แต่ว่ามู่ตงเฟิงสามารถให้มู่เจียงพี่น้องของเขาขึ้นต่อสู้เพื่อตระกูลฉินได้
คนที่เคยช่วยชีวิตของมู่ตงเฟิงเอาไว้ในสนามรบ ศักยภาพจะอ่อนด้อยได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงเอาทั้งหมดไปลงเดิมพันไว้ที่มู่เจียง
ผู้ชนะเลิศสุดท้าย คือเป้าหมายร่วมของพวกเขา
แต่ใครจะไปนึกถึงว่ามู่เจียงที่แข็งแกร่งในสายตาของพวกเขาจะถูกคนตัวเล็กที่ไม่ถูกกล่าวขานถีบตกเวทีในทีเดียว?
ในฉากน่าประหลาดใจจนเกินไป พวกเขาล้วนไม่กล้าจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
“ดี!”
เย่หรูอี้อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนตะโกนออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความฮึกเหิม
เดิมทีเธอยังกังวลว่าถังเฉาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะคิดมากไป
คนที่ตะลึงตาค้างยังมีหวางเฉียนกับซุนหงเจี๋ย
บึ้ม!
พอคำนี้ลั่นออกมา ทุกคนก็ล้วนแต่เหม่อลอย
แม้แต่มู่เจียงก็ยังมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
อวดดี
นอกจากจะอวดดีแล้วเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก
คนอื่นเอาชัยชนะหนึ่งไปจากในมือของเขาได้ก็ถือเป็นความโชคดีในความโชคดีแล้ว
นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ต้องการ?
หวางเฉียนกับซุนหงเจี๋ยเองก็ตะลึงอยู่บ้าง
เด๋อด๋าอยู่นาน ทั้งสองคนก็ปรากฏสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
ถ้าหากว่าการแข่งขันจบลงอย่างนี้แล้ว เช่นนั้นความจริงที่พวกเขาขาดทุนนั้นก็เป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้แล้ว
แต่ว่าถังเฉาให้มู่เจียงขึ้นเวทีไปอีก ทำให้เขามองเห็นความหวังอีกครั้ง
เมื่อครู่ฝ่าเท้าเดียวของถังเฉานั้นกะทันหันเกินไป เหมือนเป็นการลอบจู่โจมโดยสิ้นเชิง ถ้าหากให้โอกาสมู่เจียงอีกครั้ง พวกเขาเชื่อว่าคนที่จะชนะก็คือมู่เจียง!
แบบนั้นเงินที่พวกเขาทำพังไปเมื่อกี้ก็จะสามารถเอาทุนคืนมาได้
เรื่องทั้งหมดก็จะเปลี่ยนไป!
หวางเฉียนกับซุนหงเจี๋ยตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หวังว่ามู่เจียงจะต้องตอบรับแน่
“เขากำลังทำอะไร?”
ทางด้านตระกูลเย่ เย่หรูอี้เบิกตากว้าง สีหน้าคล้ายจะพังทลาย
เธอจนปัญญาจะเข้าใจชัยชนะที่อยู่ในมือแล้ว ทำไมถึงจะให้เขาขึ้นเวทีอีก?
ด้านล่างของสนาม ดวงตาของมู่เจียงได้เปลี่ยนเป็นล้ำลึกแล้ว อีกทั้งความคิดที่จะสังหารก็ปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง
“แกแน่ใจ?”
เสียงของมู่เจียงเย็นชาอย่างถึงที่สุด
“แน่นอน”
ถังเฉายิ้มน้อย ๆ หยักหน้า
ตู้ม!
พริบตาถัดมา มู่เจียงที่ก่อนหน้านี้ยังอยู่บนพื้นก็ขึ้นเวทีดังสะเทือนเลื่อนลั่น
พลังที่เหนือกว่าก่อนหน้านี้หมุนวนออกเหมือนกับพายุมรสุม พื้นผิวของเวทีประลองล้วนแต่แตกหักกันในระดับที่ต่างกัน
รองเท้าคอมแบทสีดำแบบที่ทหารใช้คู่นั้นดูเหมือนว่าจะแบกรับน้ำหนักของพลังที่มหึมา ค่อย ๆ ลุกลามปริขาดเหมือนกับใยแมงมุม
ทันใดนั้นทุกคนล้วนสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าไปหนึ่งเฮือก
ถึงแม้ว่าระยะห่างจะห่างกันมาก พวกเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัว
มองดูบนเวที สีหน้าของมู่ตงเฟิงก็เคร่งขรึม
ตอนนี้มู่เจียงขึ้นเวทีอีกครั้ง ถ้าหากไม่ชนะ เช่นนั้นหน้าของเขาก็คงแหกไปเยอะมาก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็จัดให้ตามคำขอ!”
เสียงของมู่เจียงเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
ถังเฉาแย้มยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
“เอ่อ... คุณมู่เจียง...”
กรรมการที่อยู่ข้าง ๆ ใบหน้าปรากฏความลำบากใจ เอ่ยกับมู่เจียงว่า “งานประชุมมีกฎระเบียบ ตกจากเวทีก็ถือว่าแพ้ คุณขึ้นมาอีก ไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบนะครับ....”
ไม่ได้รอให้พูดจนจบ ถังเฉาก็ตัดบทพูดของเขา
“กฎระเบียบคือสิ่งที่ตายแล้ว คนคือสิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่จะตัดสินแพ้ชนะ ไม่ว่าเขาจะตกลงไปกี่ครั้ง ก็ให้เขาขึ้นเวทีมาเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม