การรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันจบลงอย่างรวดเร็ว
ตอนทานอาหารกลางวันนั้น ซุนหงเจี๋ยยังแนะนำวิธีการเล่นให้กับบรรดาเพื่อนร่วมชั้นที่มางานเลี้ยงรุ่น ทั้งยังหลอกให้พวกเขาลงเดิมพันอีกด้วย
คนส่วนใหญ่ในบรรดาคนพวกนั้นล้วนเอาเงินสะสมหลายปีมานี้ของตัวเองออกมา ยังมีคนที่ยิ่งกว่านี้ ไปขอยืมเงินจากพ่อแม่มา เอาชีวิตคนมาลงเดิมพันด้วย
ผู้ติดการพนันเป็นพวกบ้าคลั่ง บนโลกใบนี้มนุษย์เงินเดือนเป็นส่วนใหญ่
พวกเขาไม่จนและไม่รวย แค่ผ่อนรถผ่อนบ้านก็หนักหน่วงกดดันจนไหล่แทบทรุด
พวกเขามักจะคิดอยู่เสมอว่า แท้ที่จริงแล้วคนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันแน่ ถ้าหากว่าสามารถร่ำรวยกันในชั่วข้ามคืนก็คงจะดีมาก
ตอนนี้มีโอกาสที่ดีเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็เทหมดหน้าตักทันที
ดังนั้นคนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่น เงินทุนที่ใช้ลงทุนทั้งหมดมีมากเกินสามสิบล้าน
นี่สำหรับคนทั่วไปก็เป็นเงินที่มากมายมหาศาลแล้ว
แต่สำหรับนายทุนแล้ว ก็แค่เงินที่พอซื้อไพ่แค่สำรับเดียว น้อยมากจนน่าเวทนาจริง ๆ
ซุนหงเจี๋ยถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียดาย
“ที่รัก ทำไมเหรอคะ? พวกคนโง่พวกนั้นแป๊บเดียวก็ลงเงินมามากมายขนาดนี้เลยนะ!”
หวางเฉียนมองการโอนเงินในโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ ดีใจจนตาพร่า
ชาตินี้เธอไม่เคยเจอเงินมากมายขนาดนี้
ซุนหงเจี๋ยกลับมองหวังเฉียนเหมือนมองคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหนึ่งที “คุณจะไปรู้เรื่องอะไรล่ะ เงินน้อยขนาดนี้ยังไม่ถึงขึ้นเงินที่หลินชิงเสว่ลงทุนแค่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ ถ้าหากสามารถลากหลินชิงเสว่มาได้ ครึ่งชีวิตหลังจากนี้ของพวกเราก็หมดกังวลแล้ว”
หวางเฉียนลองคิดดูก็เป็นความจริง ขนาดองค์กรของลี่จิงกรุ๊ปในตอนนี้ มีความร่วมมือในครั้งไหนบ้างที่ต่ำกว่าสามสิบล้าน?
ที่ต่ำกว่าสามสิบล้าล้วนแต่เป็นโครงการเล็ก ๆ คนอื่นไม่สนใจหรอก
“จะต้องหาวิธีลากเธอเข้ามาร่วมด้วย...”
ซุนหงเจี๋ยพูดพึมพำกับตัวเอง
หวางเฉียนหัวเราะคิก ๆ “นี่มันง่ายมาก เธอเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจนั้นล้วนขี้อิจฉา ขอเพียงพวกเราทำให้บรรดาเพื่อนเก่าของฉันหาเงินมาได้ในครั้งแรก ฐานะก็สูงขึ้นเป็นสิบเท่า ในใจของเธอจะต้องเอนเอียงแน่ ๆ”
“เธอลำบากมาห้าหกปีถึงจะก่อตั้งบริษัทมาถึงขั้นนี้ได้ พวกเราเพียงแค่ลงทุนเงินตามไปนิดหน่อยก็ตามเธอทันแล้ว ใครจะไปทำเรื่องที่เปลืองแรงแล้วได้ผลประโยชน์อันน้อยนิดแบบนั้นกันล่ะ?”
ได้ยินอย่างนั้น ซุนหงเจี๋ยก็พยักหน้า “พูดได้มีเหตุผล รอจนเธอสนใจแล้ว เงินที่เธอหามาได้อย่างยากลำบากเหล่านั้นก็จะตกอยู่ในกระเป๋าของพวกเราแล้ว”
กริ๊ง ๆ!
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของซุนหงเจี๋ยก็ดังขึ้น นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้านายของเขา และก็คือประธานของบริษัทลอตเตอรีอินหวงโทรมา
“สวัสดีครับ ประธานเจี่ยง มีเรื่องอะไรครับ?”
เจี่ยงหยูเหลียงเอ่ยว่า “ข้อมูลล่าสุด ม้ามืดที่ใหญ่ที่สุดของประชุมแดนเหนือนั่นจะลงสนามปะทะกับมู่เจียง แต่เขาตัดสินใจจะแกล้งยอมแพ้แล้ว ดังนั้นผู้ชนะจะเกิดขึ้นระหว่างมู่เจียงกับหลินรั่วหวีจากตระกูลหลินแน่ ๆ ให้คนของนายลงที่มู่เจียงทั้งหมด”
“จริงหรือครับ?”
ได้ยินอย่างนั้นซุนหงเจี๋ยก็ตื่นเต้นจนหน้าแดงไปทั้งหน้า
รอยนี้ไม่ใช่การดูสถิติแล้ว แต่กลับแม่นยำถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
หวางเฉียนเองก็ตื่นเต้นมาก “หรือไม่... ฉันเองก็ซื้อสักหน่อย?”
“อืม คุณก็ซื้อไว้สักหน่อยเถอะ เรื่องกำไรมั่นคงไม่ขาดทุน”
หลังจากที่ซุนหงเจี๋ยได้รู้ว่า ‘เจ้ามังกร’ จะแกล้งแพ้ หวางเฉียนก็ซื้อตามไปห้าแสน
ไม่มาก เป็นเงินเก็บหอมรอมริบที่เธอประหยัดมัธยัสถ์มาหลายปี
ลงเดิมพันเสร็จหวางเฉียนก็ยิ้มแหะ ๆ ไม่หยุด จินตนาการถึงชีวิตที่หรูหราหลังจากที่ตัวเองได้กลายเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงแล้ว
ในเวลาเดียวกันนี้เอง ถังเฉาพาหลินชิงเสว่ไปนั่งในโซนอาหารและเครื่องดื่มแล้ว สั่งอาหารมานิดหน่อย
“คุณรู้ไหมคะ ว่าตอนนี้หงเทียนหยาจากสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงตายไปแล้ว? ถูกเจ้ามังกรฆ่าตายไป”
รอจนอาหารมาเสิร์ฟแล้ว หลินชิงเสว่ก็เอ่ยปากขึ้นกะทันหัน มองถังเฉาแล้วเอ่ยขึ้น
สายตาเหมือนกับบอกอะไรเป็นนัย ๆ
ถังเฉาไหนเลยจะไม่รู้ว่าหงเทียนหยาตายไปแล้ว?
เขาถูกเขาฆ่าเอง!
แต่เขากลับไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ แสร้งทำเป็นว่าเพิ่งจะรู้เรื่อง ยิ้มออกมา “อย่างนั้นหรือครับ? ดูเหมือนว่า ‘เจ้ามังกร’ คนนั้นจะแข็งแกร่งน่าดู”
ดวงตางดงามของหลินชิงเสว่จ้องมองถังเฉาเขม็ง “เขาเหมือนกับคุณมาก ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม