มีคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
การตะโกนในครั้งนี้มันไม่สำคัญ มันดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในทันที
หลินรั่วหวี ลั่วเย่นหัว หลงชื่อเทา หลงเฟยหยู่ต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน
แม้แต่ถังเฉาก็ยังอึ้งไปแวบหนึ่ง
เขาไม่ได้เรียกคนของตระกูลเย่มาด้วยนี่
ท่ามกลางการต้อนรับของทุกคน ผู้หญิงกลิ่นอายโบราณคนหนึ่งที่สวมชุดกี่เพ้าสีม่วงได้เดินเข้ามา
ต็อก! ต็อก! ต็อก!
รองเท้าส้นสูงอันแหลมคมทิ่มแทงลงไปที่พื้น จนก่อให้เกิดเสียงอันเยือกเย็นที่ดังขึ้นอย่างเด่นชัด
เหมือนเธอกำลังเหยียบย่ำอยู่บนหัวใจของทุกคน ความรู้สึกกดดันค่อยๆ ก่อเกิดขึ้น
หลินชิงเสว่ทำเสียงฮึดฮัด เบือนหน้าออกไป พร้อมกับสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร
ถังเฉารู้สึกจนใจ คนของตระกูลเย่ ก็คงเป็นเย่หรูอี้
“ที่นี่ ทำไมถึงดูคึกคักจังเลยคะ?”
“งั้นตระกูลเย่ขอเข้าร่วมนะคะ?”
เย่หรูอี้เดินมาข้างๆ ถังเฉาด้วยท่าทางที่สง่างาม เหลือบมองเขาทีหนึ่ง “คุณนี่มันไม่เบาเลยจริงๆ ไปถึงไหนก็มีปัญหาถึงนั่น”
ถังเฉายิ้มๆ “ผู้ที่ไม่ถุกคนอื่นอิจฉาต่างก็เป็นแค่คนธรรมดา”
มุมปากของเย่หรูอี้แย้มขึ้นมาเล็กน้อย ค่อยๆ มองไปยังหลงชื่อเทา ซ่งเต๋อโหย่วและคนอื่นๆ คนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างเธอ สามารถเข้าใจทุกอย่างได้นานแล้ว
ในตอนนี้ ข้างๆ ของเขามีผู้หญิงสามคนที่ดูแตกต่างกันสุดขั้วยืนอยู่ แต่ก็พวกเธอนั้นต่างก็เป็นหญิงสาวที่งดงามเหมือนกัน
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะดูออกว่า พวกเธอทุกคนต่างก็เป็นคนที่ไม่ยอมฟังใคร เอาแต่ใจสุดๆ ยากมากที่จะยอมทำตามที่ใครพูด แต่ตอนนี้กลับมายืนอยู่ข้างๆ ถังเฉาอย่างพร้อมเพรียงกัน
นี่มันหมายถึงอะไร?
ก็หมายความว่าถังเฉาสามารถเอาพวกเธออยู่นะสิ!
โดยเฉพาะเย่หรูอี้!
ไม่ว่าใครๆ ก็รู้ ตระกูลเย่ได้มีคนนอกมาเยือนคนหนึ่ง
ไม่ว่าเป็นใครเธอก็จะทำตัวเย็นชาใส่ ใครก็ตามที่เป็นศัตรูของเธอ ต่างก็ต้องพบกับจุดจบที่น่าอนาถ
เหมือนจะไม่เคยมีใครได้เห็นเธอยิ้มมาก่อนเลย
ตอนที่ได้เห็นหน้าถังเฉา เธอกลับได้เผยรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาจากใจจริงๆ!
“การที่คุณบอกว่าสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลเย่ได้ ก็แสดงว่าหลังการประชุมแดนเหนือ คุณก็สามารถยืนอยู่ในตระกูลเย่ได้อย่างมั่นคงแล้วสินะ”
ถังเฉามองเธอแล้วพูดออกไป
เย่หรูอี้พยักหน้า “ถูกต้อง ฉันสามารถยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เย่เซ่าเตี๋ยคนเดียวไม่สามารถทำอะไรฉันได้อีกแล้ว ต้องร่วมมือกับเย่จงซือเท่านั้นถึงจะเอาฉันอยู่”
ถังเฉาไม่พูดอะไร แต่กลับจำชื่อๆ หนึ่งเอาไว้ในหัว
หลังจากที่เย่หรูอี้กลับไปตระกูลเย่แล้ว ตระกูลเย่ก็ได้มีมังกรหนึ่งตัวกับหงส์อีกสองตัว
หงส์สองตัวก็คือเย่หรูอี้กับเย่เซ่าเตี๋ย ส่วนมังกรอีกตัว ก็คือเย่จงซือนั่นเอง
เย่จงซือก็ได้ฝึกฝนบูโดเหมือนกัน ไม่เพียงแค่ไร้เทียมทาน บูโดเองก็แข็งแกร่งมาก
ว่ากันว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าฉินกวนฉีเลย
“นั่นถือเป็นศัตรูที่ร้ายกาจมาก”
ถังเฉาพูดขึ้น
“แต่ฉันมีคุณ ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย”
เย่หรูอี้ยิ้มออกมาอย่างงดงาม
“แค่กๆ!”
หลินชิงเสว่ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้ไอออกมาดังๆ สองที
เย่หรูอี้ถึงได้หยุดพูด แล้วหันมองไปทางหลงชื่อเทากับหลงเฟยหยู่
แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆ จากหายไป
“คุณลุงหลงคะ ฟังคำแนะนำของหรูอี้เถอะค่ะ เขาสั่งให้คุณลุงทำอะไร คุณลุงก็ยอมทำเถอะค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้น ผลที่ตามมาคุณลุงไม่มีทางรับไหวแน่นอนนะคะ”
ถังเฉาสีหน้าเรียบเฉย ในเมื่อต่อไปศูนย์กลางก็จะถูกย้ายมาที่เยี่ยนจิงอยู่แล้ว งั้นก็ต้องย้ายมาที่อยู่มาที่เยี่ยนจิงด้วยเหมือนกัน
ถังเฉานั้นไม่อยากถูกพวกคนต่ำต้อยยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนตอนอยู่ที่เมืองหมิงจูกับเมืองเจียงเฉิงอีกแล้ว
ตอนที่มาถึงเยียนจิง เขาก็ตั้งใจจะใช้ไม้แข็งออกมาซะเลย
หลงชื่อเทากับหลงเฟยหยู่นั้นกลับไม่ได้รู้สึกถึงจุดนี้เลย
“สาวน้อยของตระกูลเย่ นี่เธอกำลังข่มขู่ฉันอยู่เหรอ?”
“คำพูดนี้ถ้าปู่ของเธอมาพูดยังพอมีความหมายบ้าง เธอนั้นยังอ่อนไปหน่อยนะ!”
เย่หรูอี้ไม่ได้โมโห แค่ผายมือยักไหล่ “คุณลุงไม่ยอมเชื่อก็ช่างมันเถอะค่ะ”
พูดจบ เหมือนเธอก็ไม่ยากจะลงมือแล้ว ยืนดูอยู่ข้างๆ
ไม่ต่างอะไรกับหลินรั่วหวีและลั่วเย่นหัว เย่หรูอี้ก็มาช่วยคุมสถานการณ์เหมือนกัน
เรื่องนี้จะจบลงแบบไหน ก็ยังต้องดูว่าถังเฉานั้นจะตัดสินใจยังไง
หลงเฟยหยู่จ้องมองถังเฉาอย่างมีนัยยะ หลังเงียบไปนาน เขาก็ได้พูดออกไปว่า “งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เราถอยกันคนละก้าว ขอแค่แกไม่ติดใจเอาความเรื่องนี้ต่อ และเราก็ไม่ต้องคุกเข่าขอโทษ ข้อเสนออย่างอื่น แกพูดมาได้เลย——ถือว่าหลงเฟยหยู่คนนี้ติดหนี้บุญคุณแกครั้งหนึ่งก็ได้!”
ยังไงแรงกดดันมันก็มีมากเกินไปจริงๆ หลินรั่วหวี ลั่วเย่นหัว เย่หรูอี้ ออร่าที่สามคนนั้นส่งออกมามันมากเกินไป แค่ยืนเฉยๆ อยู่ตรงนั้น ก็ทำให้หลงเฟยหยู่กดดันอย่างถึงที่สุดแล้ว
เอาเข้าจริง ก็ต้องโทษเขาที่มีลูกชายที่ไม่เอาไหน เอาผู้หญิงที่ไหนไม่เอา กลับดันอยากได้หลินชิงเสว่ซะได้
หลงเฟยหยู่นั้นยอมอ่อนข้อให้แล้ว แต่ถ้าจะให้คุกเข่านั้นไม่มีทาง!
แต่ว่า ถังเฉายังคงทำหน้าเรียบเฉย “นี่นะเหรอคือการขอโทษของตระกูลหลง?”
หลงเฟยหยู่เลิกคิ้วขึ้น “แล้วแกต้องการอะไร?”
“ไม่ต้องมาไร้สาระ ต้องคุกเข่าเท่านั้น ไม่อย่างนั้นตระกูลหลงก็ไม่มีที่สำหรับคุณ!”
ถังเฉานั้นดูทรงอำนาจ ไม่ยอมถอยให้แม้แต่ครึ่งก้าว
หลงเฟบหยู่สีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด คนที่เป็นถึงผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลงอย่างเขา จะเคยไปถูกใครมาบังคับข่มขู่แบบนี้ได้ยังไงล่ะ?
และสิ่งที่ทำให้หลงเฟยหยู่ทนไม่ได้ที่สุดก็คือ คนที่ขู่บังคับเขา เป็นแค่คนที่อาศัยบารมีของคนอื่น เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านที่ใช้อำนาจของคนอื่นเท่านั้น!
ไฟแห่งโทสะกำลังลุกโชนขึ้นในใจของหลงเฟยหยู่
หลินรั่วหวีกับลั่วเย่นหัวนั้นกลับมองถังเฉาด้วยความแปลกใจ
ถ้าถังเฉาต้องการยืมอำนาจของพวกเขาไปใช้นั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ถังเฉานั้นจำเป็นต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองเท่านั้น!
เจียงไป๋เสว่เหมือนจะไม่กังวลเลยว่าถังเฉาจะไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ ได้แต่ยืนเบื่อหน่ายอยู่ข้างๆ
“แกมีสิทธิ์อะไรที่จะทำให้อยู่ตระกูลหลงต่อไปไม่ได้?”
หลงเฟยหยู่ทำหน้าเยือกเย็น จ้องมองถังเฉา แล้วถามออกไป
“พ่อครับ ไม่ต้องไฟสาธยายอะไรกับมันแล้ว เรียกพวกคุณลุงในชุมชนทหารมาเลยครับ เรื่องเส้นสายในสนามรบนั้นตระกูลหลงของเรานั้นไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม