ไม่ใช่แค่คนที่จับมือถังเฉาคนเดียวเท่านั้น พวกคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังก็ไม่ต่างกัน ต่างก็มองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่ตื่นเต้น
ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือ ต่างก็ถูกพวกเขามองข้ามไปหมดแล้ว
“……”
บรรยากาศรอบๆ นั้นเงียบลงไปทันที
ไม่ว่าจะเป็นหลินชิงเสว่ หรือว่าหลินรั่วหวีกับลั่วเย่นหัว แม้แต่เย่หรูอี้ยังทำหน้าตกใจเลย
พวกเขาไม่ได้โง่!
ชายชราพวกนี้มาจากบ้านพักคนชราอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ต่อให้เป็นต้าเซี่ยทั้งประเทศ ก็อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้อย่าง่ายดายแม้แต่ตระกูลหวงที่พวกเขาอาศัยอยู่ ก็ยังต้องเกรงอกเกรงใจเลย
ไม่นึกเลยว่าพอมาอยู่ต่อหน้าถังเฉาแล้ว จากแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา!
ดูแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะดีมาก!
มีเพียงเจียงไป๋เสว่คนเดียวที่ยังคงทำหน้าปกติ เหมือนราวกับว่าการที่ชายชราที่น่าเกรงขามพวกนี้จับมือกับถังเฉานั้นเป็นเรื่องที่ควรจะทำอยู่แล้ว
ถังเฉาจับมือกับชายชราพวกนั้นทีละคน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมไม่เป็นไรครับลำบากผู้อาวุโสทุกท่านแล้วต้องที่วิ่งมาถึงนี่รอบหนึ่ง”
“พูดอะไรน่ะ?”
ผู้นำของชายชราที่น่าเกรงขามโบกไม้โบกมือ และพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผล
“นี่เสี่ยวถัง เธอมาที่เยี่ยนจิงก็ไม่ยอมบอกเราสักคำ เราจะได้ไปต้อนรับเธอได้สะดวกไง!”
“ใช่ๆ เราต่างก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอที่สนามบินแล้ว ทำเอาชุมชนทหารสนามรบแตกตื่นไปหมด ทุกคนต่างก็เป็นห่วงเธอกันใหญ่ ยังดีที่เธอไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นเราคงต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ!”
“……”
ชายชราหลายคนต่างก็ทำหน้ารู้สึกผิด
พอเห็นบรรดาคนใหญ่คนโตของชุมชนต่างก็ทำหน้าเป็นห่วงต่อหน้าถังเฉา หลงเฟยหยู่กับหลงชื่อเทาก็ช็อกไปตามๆ กัน
โดยเฉพาะหลงชื่อเทา ดวงตาทั้งสองข้างนั้นเบิกกว้าง จ้องมองด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“พ่อครับ พ่อเป็นคนเชิญคุณปู่พวกนี้มาเองไม่ใช่เหรอครับ? แล้วทำไมไม่แม้แต่จะมองเรา แต่กลับเดินเข้าไปหาไอ้หนูนั่นล่ะครับ?”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
หลงเฟยหยู่ช็อกรู้สึกเหมือนกัน นี่มันไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้เลยสักนิด!
หรือว่า ไอ้หมอนี่ก็มีเส้นสายในสนามรบเหมือนกัน?
เป็นไปได้ยังไง?
หลงเฟยหยู่ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
เขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลหลินที่ไม่เป็นที่ยอมรับคนนั้นก็ถือว่ามีชื่อเสียงในเก้าตระกูลหลวงแห่งเยี่ยนจิงเหมือนกัน
เมื่อห้าปีก่อน เจ้าหญิงองค์โตของตระกูลหลินถูกชายคนหนึ่งย่ำยีที่เมืองหมิงจู และเรื่องที่เธอได้ตั้งท้องของชายคนนั้นก็ได้รู้กันไปทั่ว
แทบทุกคนต่างก็คิดว่าชายที่ไปย่ำยีราชกุมารของตระกูลหลินนั้น ต้องถูกตระกูลหลินฆ่าตายแน่นอน แต่ไม่นึกเลยว่าไม่เพียงไม่ตาย แถมยังได้แต่งเข้าบ้านอีก
ในสายตาของคนนอก มันคือการที่ตระกูลหลินต้องการทำให้เรื่องมันจบลงอย่างสงบเท่านั้น
เขยแต่งเข้าบ้านที่ไม่เป็นที่ยอมรับ ใครจะไปสนใจกันล่ะ?
ไม่นึกเลยว่าจะมีคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้มาเป็นห่วงเป็นใยเขา!
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สีกว่ามันผิดปกติ หลงเฟยหยู่ถึงขั้นคิดว่าโลกนี้มันกลับตาลปัดไปหมดแล้ว
“ทุกท่าน ผู้อาวุโสทุกท่าน ผมต่างหากที่เป็นคนของสนามรบใหญ่เยี่ยนจิงครับ พวกคุณไม่สนใจผมก็ช่างมันไป แต่ทำไมถึงต้องไปสนใจไอ้เศษสวะนั่นด้วยล่ะครับ?”
หลงเฟยหยู่รวบรวมความกล้า แล้วถามพวกชายชราที่น่าเกรงขามพวกนั้นไป
ป๊าบ!
แต่สิ่งที่ตอบกลับเขา กลับเป็นเสียงตบบ้องหูที่ดังลั่น
“เศษสวะอย่างนั้นเหรอ? ฉันว่าแกต่างหากล่ะที่เป็นเศษสวะ”
ผู้นำของชายชราที่น่าเกรงขามนั้นรู้สึกโมโห จ้องเขม็งมาที่หลงเฟยหยู่ด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว “แกเป็นลูกน้องของใคร?”
หลงเฟยหยู่ตอบไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ผมเป็นสมาชิกของหน่วยที่หนึ่งครับ”
“โอเค จากนี้ไปแกก็ไม่ใช่อีก เก็บข้าวเก็บของ แล้วไสหัวไปซะ!”
ชายชราที่น่าเกรงขามไล่เขาราวกับไล่แมลงวัน
ตึ้ง……
หลงเฟยหยู่นั้นเสียศูนย์ไปทันที หัวสมองขาวโพลน
“ผู้อาวุโส เพราะอะไรครับ? พวกคุณมาเพื่อจัดการปัญหาระหว่างเราไม่ใช่เหรอครับ?”
หลงเฟยหยู่ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ
“ถูกต้อง เรามาเพื่อจัดการเรื่องของแก แต่ไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับแก การที่กล้ามาหาเรื่องเสี่ยวถัง ฉันว่าแกคงอยากตายมากแน่ๆ!”
ชายชราที่น่าเกรงขามแสดงสีหน้าที่โหดเหี้ยมออกมา
ชายชราคนอื่นๆ ก็พากันมองมาที่เขาอย่างไม่ชอบใจเหมือนกัน
กริ้งๆๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม