เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 675

สรุปบท บทที่ 675 ทำพ่อตาตกใจ: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

สรุปเนื้อหา บทที่ 675 ทำพ่อตาตกใจ – เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน

บท บทที่ 675 ทำพ่อตาตกใจ ของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ไม่นึกเลยว่าการที่ถังเฉาเรียกคนมามากมายขนาดนี้ ก็เพื่อต้องการให้หลงเฟยหยู่กับหลงชื่อเทาคุกเข่าเท่านั้น!

แต่ทุกคนที่มา ก็ไม่มีใครบ่นอะไรเลยสักคำ

พวกเขาต่างก็เต็มใจที่จะติดตามถังเฉาไป

อีกอย่างพวกเขาต่างก็รู้ถึงสถานะที่แท้จริงของถังเฉาอยู่แล้ว จึงต้องบูชาเขาราวกับเป็นบรรพบุรุษเลย!

หลินรั่วหวี ลั่งเย่นหัวและเย่หรูอี้นั้นมีการหันมาสบตากันเล็กน้อย

พวกเขามีจุดที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง

นั่นก็คือพวกเขาต่างก็เคยสืบดูประวัติของถังเฉาแล้ว สืบรู้แค่ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งนั้นไม่ว่าจะสืบยังไงก็สืบไม่ได้

เมื่อไม่มีทางเลือก ไม่มีอำนาจในจุดนี้ ทั่วทั้งต้าเซี่ยมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์อ่านฐานะที่แท้จริงของถังเฉาออกได้!

จนถึงตอนนี้พวกเขายังทำใจยอมรับไม่ได้ กับการที่ถังเฉาสามารถเชิญใหญ่คนโตที่อำนาจล้นมือมาได้!

โดยเฉพาะเย่หรูอี้ พอนึกถึงเมื่อก่อนนั้นตัวเองยังทำตัวเป็นศัตรูกับถังเฉา ร่างกายของเธอก็รู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาทันที

ถ้าถังเฉาใช้อำนาจที่ตัวเองมีอยู่มาจัดการกับเธอจริงๆ ต่อให้มีสิบชีวิตก็ไม่พอแน่นอน

หลงเฟยหยู่กับหลงชื่อเทานั้นได้คุกเขาลงไปทันที พร้อมกับสีหน้าที่ตื่นเต้น

ตอนนี้พวกเขานั้นอยากที่จะคุกเข่าด้วยความเต็มใจแล้วจริงๆ จนถึงขั้นคำนับให้ถังเฉากับหลินชิงเสว่แล้วด้วย

“คุณถัง คุณหลิน ผมผิดเองที่ไม่ได้สั่งสอนลูกชายให้ดี!”

“ลูกชายผมมันหวังสูงอยากจะเด็ดดอกฟ้า จนไปล่วงเกินคุณหลินเข้า ต้องขอโทษด้วยครับ!”

ตุบๆ!

พูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นสองครั้ง ทั้งคู่ก้มหัวลงไปโขกพื้น

เมื่อเคยได้เห็นความน่ากลัวของถังเฉาแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ได้รู้ตัวว่าตนนั้นได้ไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย แค่คุกเข่าขอโทษ มันก็กลับกลายเป็นโทษที่เบาที่สุดแล้ว

ไม่อย่างนั้นมีแต่ชีวิตก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้!

ถังเฉาไม่ได้สนใจ แต่เขากลับมองไปที่หลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่แทน “พอใจรึยังครับ?”

หลินชิงเสว่พยักหน้าเบาๆ ส่วนเจียงไป๋เสว่นั้นทำหน้าไม่สบอารมณ์ “เฉยๆ”

ความจริงหลินชิงเสว่นั้นไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรมากมาย เจียงไป๋เสว่ต่างหากที่โดนหนักกว่า ——คนที่ถูกใจเธอก็คือซ่งเต๋อโหย่ว

พอเห็นว่าหญิงสาวทั้งสองสบายใจแล้ว หลงเฟยหยู่กับหลงชื่อเทาก็รู้สึกโล่งอกไปที

ตอนนี้พวกเขาไม่ได้สนใจอนาคตอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงที่สุดก็คือยังจะสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้อีกรึเปล่า

“ขอบคุณครับคุณถัง ขอบคุณครับคุณหลิน!”

“ผมจะพาลูกชายของผมออกไปเดี๋ยวนี้เลยครับ……”

หลงเฟยหยู่ตั้งใจจะพาหลงชื่อเทาจากไปทันที

แต่พอเดินไปแค่ก้าวเดียว เสียงของถังเฉาก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ผมอนุญาตให้พวกคุณไปแล้วเหรอ?”

ทันใดนั้น หลงเฟยหยู่กับหลงชื่อเทาก็แข็งเกร็งไปทั้งตัว แล้วหันหน้ากลับไปอย่างเกร็งๆ

“ก็ให้อภัยพวกเราไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ? แล้วยังคิดจะทำอะไรอีก?”

หลงชื่อเทาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

ถังเฉายิ้มๆ “ภรรยาของผมนั้นให้อภัยพวกคุณแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่พวกคุณยังไม่ได้จัดการเลยไม่ใช่เหรอ?”

มันเป็นคำพูดที่ชวนตกใจ

ทุกคนในที่นั้นต่างก็ช็อกไปทันที แล้วมองไปที่ถังเฉาด้วยความสงสัย

หลงชื่อเทากับหลงเฟยหยู่นั้นทำหน้าช็อกยิ่งกว่าใคร

พอตั้งสติได้ หลงเฟยหยู่ก็ตบไปที่หน้าของหลงชื่อเทาอย่างแรง “นี่แกยังสร้างเรื่องอะไรให้ฉันอีก?” หลงชื่อเทานั้นแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว “ไม่มีแล้วครับพ่อ ไม่มีเรื่องอย่างอื่นแล้ว”

“ถ้าไม่มีเรื่องอย่างอื่น แล้วคุณถังจะรั้งเราไว้อีกทำไม?”

หลงเฟยหยู่ตวาดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

หลินชิงเสว่เองก็มองหน้าถังเฉาด้วยความสงสัยเหมือนกัน “ยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ?”

ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ค่อยๆ หมุนตัว มองไปยังซ่งเต๋อโหย่วที่กำลังจะแอบย่องหนีไป

“กำลังจะไปไหนครับ? เถ้าแก่ซ่ง?”

พรึบพรับ!

ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ก็ไปรวมกันที่ซ่งเต๋อโหย่ว

คนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็เป็นคนใหญ่ที่มีอำนาจอย่างล้นหลาม เกิดมาพร้อมกับออร่าที่เป็นเอกลักษณ์ สายตาดุร้ายอย่างถึงที่สุด

ในเวลาสั้นๆ ซ่งเต๋อโหย่วก็รู้สึกเหมือนถูกลูกศรนับหมื่นทิ่งแทงเข้ามาที่หัวใจ กระดูกสันหลังของเขาเย็นวาบ เหงื่อเย็นๆ นั้นไหลออกมาอย่างรวดเร็ว

“คุณ คุณคิดจะทำอะไร?!”

ซ่งเต๋อโหย่วล้มพรึบลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง การที่ถูกคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้จ้องมอง เขาก็แทบจะเป็นลมไปเลย

“ผมรู้สึกว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยข้ามชาติของคุณนั้นไม่สะอาด จึงตั้งใจจะตรวจสอบดูสักหน่อย”

ถังเฉาหรี่ตามองมาที่เขา ค่อยๆ เดินมาหาเขาอย่างช้าๆ

พอคำพูดนั้นถูกพูดออกไป สีหน้าของซ่งเต๋อโหย่วกับหลงชื่อเทาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที

ในที่สุดพวกเขาก็นึกถึงคำพูดที่ถังเฉาเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับช่องทางการจัดหาคนของบริษัทความปลอดภัย

เบื้องหน้านั้นเป็นการใช้เงินว่าจ้างทหาร แต่ที่มาที่แท้จริงนั้น มันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลงชื่อเทาจริงๆ

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

ซ่งเต๋อโหย่วทำหน้าละอายใจ พูดพร้อมกับโบกไม้โบกมือว่า “บริษัทของเรานั้นมีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายรปภ.ของเราทุกคนต่างก็มีประวัติที่ขาวสะอาด แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะเข้ามาตรวจสอบ?”

ถังเฉายิ้มออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ถ้าพวกคุณขาวสะอาดจริง แล้วทำไมต้องกลัวเราเข้าไปตรวจด้วยล่ะ?”

ทันใดนั้น เจียงไป๋เสว่ก็ได้ก้าวมาข้างหน้า เหลือบมองไปยังบอดี้การ์ดร่างกายกำยำที่ยืนอยู่ด้านหลังหลงชื่อเทาแวบหนึ่ง

“คุณกำลังสงสัยว่าพวกเขาใช้สนามรบเป็นแห่งหาคน เพื่อส่งให้บริษัทรักษาความปลอดภัยใช่มั้ย?”

ถังเฉาพยักหน้า “ถูกต้อง คุณดูบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังหลงชื่อเทาสิ คนไหนบ้างที่ไม่ได้มาจากสนามรบ?”

สีหน้าของเจียงไป๋เสว่ก็เคร่งขรึมลงไปแวบหนึ่ง “ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดดู”

พวกเขาต่างก็ออกมาจากสนามรบ จึงไม่เห็นชอบกับการที่คนจากสนามรบถูกเอาไปใช้งานอย่างตามใจชอบที่สุด

ถังเฉาอธิบายถีงรายละเอียดที่มาให้พวกชายชราที่น่าเกรงขามฟังอย่างรวดเร็ว ชายชราที่น่าเกรงขามแววตาเคร่งขรึมจากนั้นก็โบกมือ “ไปตรวจสอบบริษัทรักษาความปลอดภัยข้ามชาติให้ละเอียด!”

“ครับ!”

กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังเข้ามารวมตัวกัน แล้วขับรถไปยังบริษัทรักษาความปลอดภัยข้ามชาติอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยว รอเดี๋ยว……”

ซ่งเต๋อโหย่วร้อนรนขึ้นมาทันที อยากที่จะเข้าไปห้ามคนกลุ่มนั้น

ต้าเซี่ยนั้นมีกฎอยู่ข้อหนึ่ง ห้ามเอาคนของสนามรบออกไปเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวเด็ดขาด

ถ้าเกิดมาใครรู้เข้า โทษที่ได้รับก็จะหนักมาก

แต่ก่อนที่จะตามไปถึง พวกเขาก็ขับรถออกไปแล้ว

สมาคมการค้าเก้าราชาต่างก็ไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่คนของตระกูลลั่ว ตระกูลหลินและตระกูลเย่เท่านั้น

เย่หรูอี้ ลั่วเย่นหัว หลินรั่วหยู่ต่างก็มองเขาด้วยสายตาที่หวาดระแวง

“มีอะไรครับ?”

ถังเฉาอดไม่ได้ที่จะขำออกมา

เย่หรูอี้ดึงสายตากลับ ทำหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วตอบเสียงดังอย่างไม่ชอบใจว่า “ไม่มีอะไร”

พูดจบ เย่หรูอี้ก็เดินออกจากสนามบินไป

ก่อนที่จะไป ถังเฉามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ร่างกายของเธอนั้นเกร็งไปทั้งตัวเลย

ตอนนี้ลั่วเย่นหัวก็ดึงสติกลับมาได้แล้ว รอยยิ้มอ่อนๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ แล้วพูดชมออกมาจากใจจริง

“ชิงเสว่ สายตาของลูกนี่ดีกว่าแม่อีกนะ”

ไม่นึกเลยว่าหลินชิงเสว่จะพยักหน้ากลับไป “แน่นอนค่ะ และไม่ได้ดีกว่าแค่นิดเดียวด้วย”

ตอนที่พูดคำนั้นออกมา มุมปากของหลินชิงเสว่ก็ได้แย้มขึ้น สีหน้าค่อนข้างภาคภูมิใจ

จนแอบมีความรู้สึกอวดปะปนอยู่นิดหนึ่ง

ถังเฉานั้นรู้สึกจนใจ ต่อให้เป็นผู้หญิงที่ดีเลิศขนาดไหน ต่างก็มีความรู้สึกที่อยากเด่นอยากดังกันทั้งนั้น

ความอยากเด่นอยากดังของผู้หญิงมันคืออะไร?

มันไม่ใช่รองเท้าส้นสูง ไม่ใช่ความงามหรือเรือนร่าง

แต่เป็น ผู้ชาย

ลั่วเย่นหัวนั้นออกจากสนามบินด้วยรอยยิ้ม

เรื่องการเลือกผู้ชายนั้น เธอสู้ลูกสาวไม่ได้จริงๆ

มีเพียงหลินเรั่วหวีเท่านั้นที่ยังไม่ได้ออกจากสนามบิน

เขายืนตงาดอยู่ที่หน้าประตูตั้งนานแล้ว หลังจากที่สูบบุกรี่หมดไปมวนหนึ่ง เขาก็กวักมือเรียกถังเฉา “มานี่หน่อย”

“มีอะไรครับ?”

ถังเฉารู้ว่าพ่อตานั้นอย่าคุยเป็นการส่วนตัวกับเขา ว่าแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปห่างๆ

อันที่จริง มันก็อยู่ห่างจากเวลาของทั้งคู่ไม่มากนัก ซึ่งมันก็คือตอนที่ประชุมแดนเหนือนั่นเอง

ตอนนี้ทั้งคู่ได้ยืนอยู่ด้วยกันอย่างใจเย็น

แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย แค่ยืนสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ

“พูดตามตรง ผมชอบมากที่เราสองคนสามารถยืนสูบบุหรี่อยู่ด้วยกันอย่างสงบแบบนี้ แต่ไม่ใช่พอเจอกันก็แสดงความเครียดแค้นใส่กัน

ถังเฉาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ โดยการพูดด้วยรอยยิ้ม

หลินรั่วหวีพูดไปว่า “ขอแค่แกยอมออกไปจากชีวิตของลูกสาวฉัน ฉันก็สามารถพูดคุยกับแกอย่างเป็นมิตรได้”

ถังเฉายิ้มๆ “ผมไม่เข้าใจครับ”

“ไม่เข้าใจอะไร?”

ถังเฉายิ้มๆ “จำได้ว่าครั้งก่อนที่ไปตระกูลหลิน พ่อเคยถามผมคำถามหนึ่งว่า มีคุณสมบัติอะไรที่ไปแต่งงานกับชิงเสว่ตอนนี้ผมสามารถตอบคำถามนั้นได้แล้วครับ”

“ก็ใช้พวกนี้ไงครับ มากพอรึเปล่า?”

ถังเฉาเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปที่หลินรั่วหวี

กับภูมิหลังแบบนี้ มันก็เหนือกว่าหลินรั่วหวีไปแล้ว

แล้วหลินรั่วหวีก็ได้เงียบไปนาน และจู่ๆ ก็พูดออกมาว่า “แกคือเจ้ามังกรใช่มั้ย?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม