ท่านผู้นำเฒ่านั้นดูโกรธเป็นอย่างมาก ในน้ำเสียงของเขามีความกลัวอยู่ ซึ่งนั่นทำให้คุณจินรู้สึกเหลือเชื่อ
ท่านผู้นำเฒ่านั้นถือเป็นหนึ่งในสมาคมการค้าเก้าราชาระดับสูง แม้จะมองเยี่ยนจิงไปโดยทั่วแล้วก็หาชายคนที่เขาจะให้ความเคารพได้น้อยมาก ทำไมน้ำเสียงในตอนนี้นั้นดูหวาดกลัวจะเลยล่ะ?
แต่สิ่งที่ทำให้จินวู่นั้นรู้สึกเหลือเชื่อเลยก็คือคำพูดของท่านผู้นำเฒ่า
เขากำลังส่งตั๋วให้จริงๆ!
ให้ใคร?
ถังเฉาเหรอ?
จินหวู่รู้สึกเหลือเชื่อ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“ท่านผู้นำเฒ่า ท่านพูดว่าอะไรนะครับ?ส่งอะไรนะครับ?ทำไมผมฟังไม่ค่อยเข้าใจเลย?”
จินหวู่อดไม่ได้ที่จะพูด
แต่ท่านผู้เฒ่านั้นไม่อยากที่จะมาอธิบายอะไร จึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “อย่าถามมาก แกก็อยู่ตรงนั้นรอไปก่อน ไม่ใช่แค่ห้านาที ต่อให้เป็นห้าสิบนาทีหรือหนึ่งชั่วโมง แกก็ต้องรอฉัน แกยังมีความรู้สึกที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่ไหมล่ะ?”
พูดไปด่าไป ท่านผู้นำเฒ่าก็ได้วางสายลง ทิ้งให้จินหวู่อยู่ตามลำพังอย่างงุนงง
จางขุยที่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไปจึงอดไม่ได้ที่จะถามจินหวู่
จินหวู่ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไร ราวกับคนโง่เขลาที่ยืนอยู่ในความงุนงง
กริ๊ง กริ๊ง!
ขณะนั้น โทรศัพท์ของถังเฉาก็ดังขึ้น
ยังคงเป็นสายโทรศัพท์จากผู้นำเฒ่าคนนั้น
“ฮัลโหล คุณถัง ไม่เกินหนึ่งนาที ผมกำลังจะไปถึงที่นั่นแล้วครับ!”
“ท่านไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบร้อน”
หลังจากที่บอกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท่านผู้นำเฒ่าก็ได้วางสายไป
ถังเฉายิ้มพร้อมกับจับมือหลินชิงเสว่
ทันใดนั้นก็พบว่ามือเล็กๆของหลินชิงเสว่นั้นเย็นเฉียบ ใบหน้าของเธอเองก็ดูตื่นตระหนก
ดังนั้นถังเฉาจึงพูดปลอบโยนไปว่า “ไม่ต้องกลัว อีกเดี๋ยวตั๋วเชิญจะถูกส่งมา”
ด้วยคำปลอบโยนของถังเฉา หลินชิงเสว่ก็รู้สึกสงบขึ้นเล็กน้อย
จางขุยเย้ยหยัน “พวกนายนี่ท้ายที่สุดก็ยังจะกระเสือกกระสนจนได้ ถึงแม้ว่าจะรอพวกนายห้าทีแล้วยังไงล่ะ ห้านาทีต่อมา พวกนายก็ยังคงไม่มีตั๋วเชิญอยู่ดีและก็จะถูกโยนออกไป...”
บึ๊นบึ๊น!
ก่อนที่จางกุยจะพูดจบ เสียงคำรามของเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นไม่ไกลนัก
รถยนต์เชิงพาณิชย์เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำคันแวววาวจอดอยู่ที่ประตูวังคริสตัล
ประตูรถเปิดออก ชายชราในชุดสูทผู้ซึ่งผมสีขาวและมีเคราก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
อายุก็ป่าไปห้าสิบหกแล้ว แต่ยังวิ่งพุ่งราวกับวิ่งร้อยเมตรเข้าไปในวังคริสตัล ทุกคนต่างตกตะลึง
“นี่คงไม่ใช่ท่านผู้นำโดยตรงของคุณจิน ผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมการค้าเก้าราชา ท่านชิวใช่ไหม?”
“เขามาได้ยังไงกัน?”
“...”
ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“พวกนายดูสิ อะไรอยู่ในแขนของท่านชิวกันน่ะ?”
ทันใดนั้น ไม่รู้ว่าใครอุทาน สายตาของทุกคนก็หันไปสังเกตเห็นกระเป๋าของท่านชิว
เห็นเพียงเขาวิ่งไปหาจินหวู่ด้วยจดหมายเชิญมากมาย
จินหวู่ลุกขึ้นทักทายในทันที “ท่านผู้นำเฒ่า ท่านช้าหน่อย...”
“ออกไป!อย่ามาขวางทาง!”
ท่านชิวผลักเขาออกไป
ท่ามกลางสายตาอันน่าเหลือเชื่อของผู้คนนับไม่ถ้วน ท่านชิวรีบตรงเข้าไปหาถังเฉาพร้อมกับยื่นจดหมายเชิญกองหนึ่งในมือให้
“คุณถัง นี่คือจดหมายเชิญของคุณครับ ส่งถึงแล้ว!”
“คุณลองนับดู ไม่ขาดเลยแม้แต่ใบเดียว!”
เมื่อพูดจบ ท่านชิวถึงจะกล้าที่จะหายใจเสียที
เขาไม่กล้าออกเสียงอะไร ได้แต่ยืนตรงหน้าถังเฉาอย่างระมัดระวัง ไม่รู้ว่าถังเฉานั้นจะพอใจหรือไม่
ผู้คนต่างมองไปที่ท่านชิวผู้ที่มีความสามารถมากและตำแหน่งที่สูงส่งที่กำลังโค้งตัวไปครึ่งหนึ่งราวกับเด็กน้อยที่ทำผิดและรอให้ถังเฉาตอบ
ถังเฉาที่มองไปเห็นจดหมายเชิญก็ขมวดคิ้วในทันที “ใครให้นายเอามาเยอะขนาดนี้กัน?เอามาแค่สามแผ่นก็พอแล้ว เอามาเยอะขนาดนี้ก็เสียของกันพอดีน่ะสิ?”
ถังเฉาดุ
ใบหน้าของท่านชิวดูหวาดกลัว เขากล่าวว่า “คุณถังพูดถูกแล้วครับ คุณถังพูดถูกแล้ว”
ถังเฉาหยิบจดหมายเชิญออกมาสามใบ จากนั้นส่งคำเชิญใบอื่นกลับไปให้เขาและพูดว่า “เอามาเยอะขนาดนี้แล้วทำยังไงดีล่ะเนี่ย?”
ท่านชิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเห็นถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ด้านข้างถังเฉากำลังพับเครื่องบินกระดาษอยู่ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น “ให้ลูกสาวเอาไปพับเครื่องบินกระดาษเล่นก็แล้วกันครับ!”
“อืม วิธีนี้เชื่อถือได้อยู่”
ถังเฉาคิดว่าวิธีนี้นั้นใช้ได้ จากนั้นจึงพาหลินชิงเสว่มายืนที่ด้านหน้าของจินหวู่ จากนั้นมอบจดหมายเชิญทั้งสามฉบับให้
เขามองจินหวู่ที่กำลังตกตะลึง จากนั้นยิ้มและพูดว่า “เป็นยังไงล่ะคุณจิน การรอไม่กี่นาทีนี้มีความหมายต่อนายหรือเปล่า?”
“.....”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนตะลึงไปทันที
จินหวู่ที่สงสัยว่าดวงตาของเขานั้นผิดปกติหรือเปล่าจึงได้ทำการขยี้จากนั้นมองอีกครั้ง เห็นเพียงในมือของถังเฉาและหลินชิงเสว่ถือจดหมายเชิญอยู่จริงๆ
จดหมายเชิญเป็นสีดำทั้งหมด บริเวณโดยรอบยังฝังด้วยเพชรสีดำ ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเหลือเชื่อ
เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนส่งจดหมายเชิญให้กับถังเฉาจริงๆ
แถมคนที่ส่งให้ยังเป็นคนที่ท่านผู้นำเฒ่า ผู้ที่เขาเคารพรักมากที่สุดอีกด้วย!
ขณะที่หลินชิงเสว่ถือจดหมายเชิญอยู่นั้น ทุกๆคนก็ต่างอยู่ในท่าทางที่งุนงง
ถังเฉาได้รับจดหมายเชิญมามากมายขนาดนี้ นี่มันมีราคามากเสียจนไม่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว
ขณะนี้ ในใจของหลินชิงเสว่ที่เดิมทีไม่สงบนั้นก็ค่อยๆลดลงไป
“นี่ นี่นี่นี่...มันเป็นไปได้ยังไง?”
ทั้งจางขุยและสองสาวฝาแฝดนั้นดูโง่ในทันที แม้กระทั่งพูดจาก็ยังดูติดขัด
ฉากที่ท่านชิวนั้นมอบจดหมายเชิญให้กับถังเฉานั้นทำให้ในใจของจางขุยและสองสาวฝาแฝดนั้นสั่นคลอน
พวกเขาหวังว่านี่มันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน ไม่นานก็จบไป
“จาง คุณชายจางคะ ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะได้รับจดหมายเชิญจริงๆด้วย ตัวตลกดูท่าแล้วจะเป็นพวกเราเองใช่ไหม?”
ใบหน้าของสองสาวฝาแฝดซีดเผือดพร้อมกับจ้องมองไปที่ถังเฉา ทั้งอิจฉาและรู้สึกตื่นตระหนก
“ไม่ได้พูดว่า เขาเป็นแค่ลูกเขยที่เกาะู้หญิงกินหรอกเหรอ?ทำไมถึงสามารถให้ท่านชิวมามอบจดหมายเชิญได้ด้วยตนเองล่ะ?”
“คุณหลินเองก็ยังเป็นเจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลิน ทั้งหมดนี้คือนายที่มั่วนิ่มไปเอง!”
“คนปล่อยความลือสมควรตายจริง”
“...”
คนรอบข้างต่างมองจางขุยและสองสาวฝาแฝดด้วยแววตาที่เย็นชา
เมื่อถูกคนจำนวนมากจ้องมอง จางขุย ทั้งสามคนแทบจะเป็นลม
ทันใดนั้น จางขุยก็เหลือบไปมองจดหมายเชิญของแขกคนหนึ่ง มันเป็นสีทอง ซึ่งแตกต่างจากจดหมายเชิญที่อยู่ในมือของถังเฉาและหลินชิงเสว่อย่างเห็นได้ชัด
จางขุยผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมาราวกับว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง
“ฉันเข้าใจแล้ว ทุกๆท่าน ลองมองไปที่จดหมายเชิญที่อยู่ในมือของเขาสิ จดหมายเชิญในมือของพวกเขาไม่ใช่สีทอง มันคือของปลอมอย่างแน่นอน!”
“จดหมายเชิญปลอมยังกล้าที่จะเอามาหลอกเราอีกเหรอ?”
ป้าบ!
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สิ้นเสียงลง จินหวู่ก็รีบขึ้นมาตบเข้าไปที่ปากของจางขุยฉาดใหญ่
“นายน่ะหุบปากไปเลยไป!”
จางขุยนั้นเกือบเป็นลมล้มไปจากการตบครั้งนี้แล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “คุณจิน นี่ท่านตบผมทำไมครับ?ทำไมท่านถึงไม่ไปตรวจสอบว่ามันเป็นจดหมายเชิญปลอมหรือเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม