“อ้าว!”
เห็นผู้ที่เข้ามาไม่ใช่หลินรั่วหวีที่หล่อนเฝ้ารอด้วยความคิดถึง สีหน้าของเว่ยหมิงจวินซีดเผือดอย่างฉับพลัน
ตัวอ่อนปวกเปียกล้มพับลงกับพื้น
ถังเฉายืนก้มมองหล่อน สาวเท้าก้าวไปยืนตรงข้างหน้าหล่อน ไม่พูดไม่จา ยืนจ้องหล่อนอย่างเย็นเยือก
ในชั่วพริบตา เว่ยหมิงจวินให้รู้สึกมีความกดดันอย่างมหาศาล
ภายใต้แววตาเย็นชืดของถังเฉา เว่ยหมิงจวินดูเหมือนเก็บซ่อนความลับอะไรไม่ได้แล้ว ไม่มีทางจะหนีรอดไปไหนได้
“ถัง......ถังเฉา ทำไมเป็นแก?”
เว่ยหมิงจวินพูดเสียงสั่น ขดตัวขยับถดถอยไม่หยุด
ถังเฉาปิดประตู เสียงล็อคประตูดังฟังชัด
การกระทำนี้ ยิ่งทำให้เว่ยหมิงจวินหวาดกลัวเพิ่มหนักขึ้นอีก
ถังเฉาก็ได้เดินไปที่ข้างหน้าเว่ยหมิงจวิน ยิ้มอย่างไร้ความอบอุ่น “คุณอาผู้หญิงครับ ผมรู้สึกว่าระหว่างเรามีปัญหาที่จะต้องจัดการให้ขาด”
เสียงถังเฉาไม่ได้หนักหน่วง แต่ใส่ไปที่เว่ยหมิงจวิน กลับทำให้หล่อนหวาดผวาจนตัวสั่น
หล่อนหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำอยู่หลายครั้ง แล้วค่อย ๆ คลานงก ๆ เงิ่น ๆ ลุกขึ้น
ใบหน้าที่ขาวซีด พยายามฝืนให้มีรอยยิ้มออกมา “ถัง..ถังเฉา น้ายอมรับนะ เพื่ออนาคตของลูกสาวน้า น้าอาจจะทำอะไรที่เห็นแก่ตัวกับเธอกับชิงเสว่ ไม่มีความเป็นธรรมกับพวกเธอ แต่ว่า น้าก็ไม่เคยใจร้ายถึงขนาดจะเอาชีวิตกันถึงตายกับพวกเธอนะ”
“ถังเฉา----ถังเฉา----เธอสงบใจลงนิด!ถ้าเธอทำอะไรฉันนะ รั่วหวีไม่ปล่อยเธอแน่----”
เห็นถังเฉามีสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจกับสิ่งที่หล่อนพูด เว่ยหมิงจวินยิ่งร้อนรน ยิ่งให้ใจเสีย ร้องเสียงแหบแห้ง
ถังเฉายังคงแสดงอาการเย็นชา “ในเมื่อคุณพูดเองแล้วว่า คิดจะเอาพวกเราให้ถึงตาย งั้นผมก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว”
“มีสองทางเลือกให้คุณ-------”
ถังเฉาหยุดชะงักนิดหนึ่ง พูดต่อไปว่า “ไม่ก็คือ ปล่อยวางทิ้งการอยู่ในตำแหน่งคุณนายคุณนายหญิงตระกูลหลิน อีกไม่หรือผมก็คงต้องทำอะไรบางอย่างกับคุณ”
ทีละตัวทีละคำ ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
ความจริงแล้ว เรื่องไม่น่าจะถึงต้องเลวร้ายขนาดนี้
จนกระทั่งมาถึงคำพูดของหลินอิ่นคำนั้น ‘ยิงใส่ที่ท้องหล่อนเลย!’
เขาถึงได้เข้าใจในที่สุดว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขากับตระกูลหลิน ภายใต้การโหมพัดลมนรก จุดไฟเผาผีของเว่ยหมิงจวิน ได้เข้าไปถึงขั้นไม่มีอะไรจะปรับเข้าหากันได้อีกแล้ว
ถึงขนาดก่อการสังหารหนึ่งศพสองชีวิตยังคิดทำได้ลง
หลินอิ่นยังเป็นถึงขนาดนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความบ้าระห่ำ เล่ห์เหลี่ยมลุ่มลึกอย่างเว่ยหมิงจวินเลย
ในเมื่อเป็นกันแบบนี้ แล้วยังจะมีอะไรต้องพูดกันอีก?
ถังเฉาไม่อยากจะฆ่าเว่ยหมิงจวิน เพราะถึงยังไงก็เป็นผู้หญิงของหลินรั่วหวี แม่บังเกิดเกล้าของหลินจ้าวหยูน
แต่ทว่า เจาะจงบังคับพฤติกรรมของหล่อน ก็ยังคงพอทำได้
ก่อนหน้านี้ซ่งหมิงเวย ก็ได้ถูกใช้วิธีนี้บังคับให้เป็นหนอนบ่อนไส้ให้กับเย่หรูอี้
แต่ในสายตาเว่ยหมิงจวิน ถังเฉาในขณะนี้ท่าทีจ้องจะฆ่าหล่อนเป็นแน่ ตกใจกลัวจนหน้าซีดขาวในทันที
“ถังเฉา แกหยุดนะ รั่วหวีกำลังจะมาถึงเดี๋ยวนี้ละ แกกล้าจะทำอะไรฉันเรอะ?”
หล่อนคิดจะใช้หลินรั่วหวีมาขู่ถังเฉา
ที่ไหนได้ว่าถังเฉากลับย้อนหัวเราะเย้ยไปว่า “ไม่ต้องเอาพ่อตาผมมาข่มผมหรอก เห็นแก่หน้าชิงเสว่นะผมถึงได้ไว้หน้าพ่อตาผม”
บรึม!
ได้ยินคำพูดนี้ เว่ยหมิงจวินจึงได้รู้ซึ้งชัดว่า ถังเฉามีความอึดอัดในการเก็บกดความโกรธในการอยู่ร่วมกับพวกหล่อนขนาดไหน
ปัญหาการสืบทอดที่หลงเหลือในประวัติของตระกูลหลวง มันเป็นรากฝังลึกแน่น โดยข้อเท็จจริงแล้วเพียงใช้ความเพียรของคนแค่ในรุ่นเดียว ก็สามารถปรับแก้ได้อย่างสบาย ๆ
และในฐานะที่หล่อนเป็นส่วนหนึ่งในคนจำนวนมากมาย ที่เป็นตัวสร้างปัญหาการสืบทอด มีหรือจะหนีพ้นจากการถูกสะสาง?
มองดูเว่ยหมิงจวินที่อยู่ในสภาพตัวสั่นงันงก ถังเฉาหยุดมือ ตกอยู่ในภวังค์คิด
“เว่ยหมิงจวิน คุณลองบอกซิ ทำไมคนฉลาด ๆ ในประวัติศาสตร์ ในบั้นปลายล้วนลงท้ายกันไม่ค่อยจะดีเอาเลย?”
ถังเฉาก็ไม่ได้รีบร้อน ลากเอาเก้าอี้มาตัวหนึ่ง
มุมมองในจุดที่นั่งลง สามารถมองเห็นความดำมืดของกลางคืนได้อย่างชัดเจน
เว่ยหมิงจวินสะท้านขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้ถังเฉาถามปัญหานี้มาเพื่ออะไร
แต่หล่อนก็ตอบออกไปว่า “เพราะคนที่ยิ่งฉลาด ก็ย่อมได้อะไรต่ออะไรยิ่งมาก สุดท้ายก็ต้องตายกับความฉลาดของตัวเอง”
ถังเฉาถอนหายใจเนือย ๆ “ถึงว่าไง คุณรู้สึกไหม?คุณจัดว่าฉลาดไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม