บทที่ 77 ความทะเยอทะยานของหมาป่า
สิ่งที่พิมพ์อยู่บนกระดาษ เป็นนกอินทรีแดงขนาดใหญ่เหมือนจริง ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ของสมาคมการค้าหงยิง ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในสามพื้นที่ของเจียงเจ้อหู้ ประกอบด้วยมณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียงและเมืองเซี่ยงไฮ้ สองมณฑลกับหนึ่งเมือง
สีหน้าซ่งเทียนซานยิ่งอยู่ยิ่งดูแย่ลง รู้สึกเสียใจที่วู่วามก่อนหน้านั้น
ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลซ่ง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ถึงอิทธิพลของสมาคมการค้าหงยิง ขอแค่เป็นนักธุรกิจใหญ่จากเจียงเจ้อหู้ ประกอบด้วยมณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียงและเมืองเซี่ยงไฮ้ ทุกคนต่างก็อยากเข้าสู่สมาคมการค้าหงยิงทั้งนั้น
เพราะนั่นไม่ใช่เพียงแค่โควตาเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะอีกด้วย การเข้าสู่สมาคมการค้าหงยิง เท่ากับการเข้าสู่แวดวงของธุรกิจหลักของหัวเซี่ย
ทุกปีสมาคมการค้าหงยิงจะมองบริษัทหน้าใหม่ที่มีศักยภาพในโลกธุรกิจ คนของตระกูลไหน ได้รับเชิญจากสมาคมการค้าหงยิง แต่ว่า ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนได้ยื่นเอกสารขอเข้าสมาคม แต่ถูกซ่งหรูอี้โยนเอกสารลงถังขยะเหมือนเศษขยะ
ซ่งเทียนซานไม่ใช่ซ่งหรูอี้ จึงไม่สามารถเพิกเฉยสมาคมการค้าหงยิงได้ เพียงแต่เขาไม่อยากเข้าใจว่า ไม่ได้เจอกันมาสองสามวัน ทำไมเจิงเทียนเสียงถึงเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าหงยิงได้?
สีหน้าของเขายิ่งอยู่ยิ่งดูแย่ลง สายตาที่ซ่งเทียนซานมองไปที่เจิงเทียนเสียงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ไม่ ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าหงยิงแล้ว”
“คุณไม่เชื่อก็ตามใจ”
เจิงเทียนเสียงเคร่งขรึม “ฉันขอเตือนคุณสงบเสงี่ยมหน่อย ฉันยังเป็นใหญ่ที่สุดในอาคารกั๋วจี้แห่งนี้ คุณคิดว่าหลงเถิงกรุ๊ปเป็นบริษัทมหาชนจำกัด แต่ในสายตาของผม ไม่มีความหมายอะไรเลย!”
ซ่งเทียนซานทั้งตกใจและโกรธ พูดอะไรไม่ออกสักคำ
“ไสหัวออกไป!”
เสียงตะโกนดังขึ้น ซ่งเทียนซานตกใจ และรีบเดินออกไปจากห้องทำงานของเจิงเทียนเสียง
เขาไม่ได้ใช้ลิฟต์ แต่จับราวบันไดเดินลงไปทีละขั้น
ยังคงนึกถึงคำพูดของเจิงเทียนเสียงอยู่ในใจ แววตาของซ่งเทียนซานดูน่ากลัว
“แค่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าหงยิง หยิ่งอะไรนักหนา รอให้ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของอาคารกั๋วจี้ ฮึ่ม ๆ .........”
เมื่อนึกถึงงานเลี้ยงอาทิตย์หน้า ซ่งเทียนซานรู้สึกโล่งใจอีกครั้ง เขาได้ยินมาว่า เจ้าของอาคารผู้ลึกลับ ตกลงที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงของเขาแล้ว
นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับหลงเถิงกรุ๊ปในการเป็นผู้นำ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้โครงการใหญ่อีกต่อไป
ซ่งเทียนซานเดินลงบันไดทีล่ะขั้น โดยไม่รู้ตัว เขาเดินมาถึงที่ชั้น 88 ของอาคารกั๋วจี้
เป็นสำนักงานของประธานบริษัทลี่จิงกรุ๊ป
จับพลัดจับผลูโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาก็หยุดเดิน ลังเลสักครู่ ทำใจแข็ง แล้วก้าวเดินไปที่ห้องประธาน
เวลานี้พนักงานของลี่จิงกรุ๊ปเลิกงานกลับบ้านไปกันจนหมดแล้ว มีแต่ห้องประธานเท่านั้นที่ไฟยังสว่างอยู่
เมื่อเดินไปใกล้ประตูออฟฟิศ ซ่งเทียนซานได้ยินเสียงขี้อ้อนของเด็ก
“แม่ เมื่อไหร่พวกเราถึงจะกลับ หนูคิดถึงพ่อแล้ว”
หลังจากนั้นหลินชิงเสว่ก็ตอบว่า “โอเค เราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน มันแตกต่างกับน้ำเสียงเฉียบขาดที่เธอใช้เป็นปกติทุกวัน!
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทำให้ซ่งเทียนซานนึกถึงงานแต่งงานของหลินชิงเสว่ในคืนนั้น ทันใดนั้น ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีเมฆหมอกควันปรากฏอยู่ตรงหน้า
เอี๊ยด----
ขณะนี้ ประตูได้เปิดออก หลินชิงเสว่จูงมือของถังเสี่ยวลี้เดินออกมาจากห้องประธาน
แวบแรกที่เห็นซ่งเทียนซาน สีหน้าหลินชิงเสว่เปลี่ยนทันที “เป็นคุณ?!”
ซ่งเทียนซานไม่คิดว่าหลินชิงเสว่จะเปิดประตูเร็วขนาดนี้ เขารู้สึกตกใจ แต่ก็กลับสู่ปกติอย่างรวดเร็ว ยิ้มบาง ๆ “สวัสดี ชิงเสว่”
จากนั้น หลินชิงเสว่เพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา และหมดอารมณ์อย่างสิ้นเชิง
“เสี่ยวลี้ พวกเราไปกันเถอะ”
หลินชิงเสว่พาถังเสี่ยวลี้เดินมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์
แววตาที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของซ่งเทียนซาน เขารีบเดินตามหลินชิงเสว่ และขวางเธอไว้ “ชิงเสว่ นี่ก็ค่ำแล้ว คุณน่าจะยังไม่ได้ทานข้าว เราไปทานข้าวด้วยกันดีไหม?”
สายตาของหลินชิงเสว่เย็นชาขึ้นมาทันที กล่าวเน้นทุกถ้อยคำว่า “ซ่งเทียนซาน ฉันแต่งงานแล้ว อีกอย่าง สามีฉันก็มารออยู่ข้างล่างแล้ว”
“สามี?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของซ่งเทียนซานก็ฉายแววเป็นศัตรูทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม