การสร้างโลก หนีไม่พ้นความคิดสร้างสรรค์
แต่ผู้คนมักจะมองเห็นเพียงความสวยงามของความสร้างสรรค์ และมองข้างเบื้องหลังของความสร้างสรรค์ที่เป็นการทำลายอย่างโหดร้าย... โลกก็สร้างกันอย่างนี้แหละ
ดาวนิวตรอนดวงนี้ ผ่านการระเบิดครั้งใหญ่ กลายเป็นเนบิวลา สุดท้ายก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นโลกที่สวยงามในกาลเวลาที่ยาวนาน
สรรพสิ่งอื่น ๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ในเมื่อค้างคาวอยากจะกลับเข้ากองทัพแดนมังกรใหม่อีกครั้งหนึ่ง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนปกติ ทำได้เพียงทำลายกองทัพปราณมังกรทิ้ง จากนั้นก็สร้างกองทัพปราณมังกรใหม่ขึ้นมา... ถังเฉาจนปัญญาจะจินตนาการได้ว่ากองทัพปราณมังกรที่เกิดขึ้นมาใหม่หลังจากที่ทำลายไปจะเป็นอย่างไร แต่มีจุดหนึ่งที่ยืนยันได้ว่านั่นจะต้องเปิดฉากการสังหารอย่างโหดร้าย ถึงขั้นที่อาจจะเกิดความวุ่นวายจากสงครามขนาดย่อม
นี่เป็นข่าวที่เฟิ่งหวงได้มาจากการแทรกซึมเข้าไปในฐานทัพของศัตรู ไม่มีทางผิดพลาดแน่
อีกทั้งการมาต้าเซี่ยในครั้งนี้ ค้างคาวเองก็มาด้วย เตรียมแผนการร้ายครั้งที่สอง
ถังเฉาจะยอมให้แผนชั่วของค้างคาวสำเร็จได้อย่างไร?
เมื่อเทียบกันแล้ว เรื่องของเย่จงซือเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย ๆ ถังเฉาไม่เอามาใส่ใจโดยสิ้นเชิง
“ดังนั้นนายก็เลยคิดวิธีนี้ออกมาได้ ใช้ความตายของตัวเองมาล่อให้เยี่ยนซื่อเฉิงปรากฏตัวออกมาด้วยตนเอง?”
ท่านเจ้ามังกรเอ่ยถาม สายตาเปลี่ยนเป็นดุดันจ้องมองถังเฉาในทันที
“ใช่ครับ”
ถังเฉาเอ่ยว่า “คนที่เขากลัวมากที่สุดก็คือผม ถ้าหากเขาอยากกลับกองทัพปราณมังกรก็จำเป็นจะต้องผ่านด่านผมไปให้ได้ ถ้าหากผมตายไปแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องพะว้าพะวังแล้ว นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด”
ครั้งก่อนที่สนามกีฬาเมืองเจียงเฉิง เขาฟาดค้างคาวอย่างโหดเหี้ยมไปยกหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่ว่าไวโอเล็ตขวางเอาไว้ เป็นไปได้ว่าค้างคาวจะถูกเขาต่อยจนตายไปทั้งเป็น
“ก่อเรื่องจริง ๆ!”
ทว่าท่านเจ้ามังกรไม่เพียงแต่ไม่ได้ชมเชยถังเฉา กลับตวาดด้วยใบหน้าเข้มครึ้ม
ตวาดออกไปครั้งหนึ่งนี้ บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเข้มงวดอบอวลไปด้วยรังสีสังหารในทันที แม้แต่เจียงไป๋เสว่ที่อยู่ข้าง ๆ ล้วนแต่เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย
ถังเฉาเองก็มองท่านเจ้ามังกรด้วยสีหน้าทึ่มทื่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเจ้ามังกรถึงได้ปล่อยโทสะมากมายเพียงนี้
“ตกลงมันมีเรื่องอะไรกันแน่ที่จำเป็นจะต้องให้นายใช้ชีวิตของนายมาเป็นเหยื่อล่อไปล่อให้ศัตรูออกมา?”
ท่านเจ้ามังกรเดือดดาลถึงขีดสุด เอ่ยถามเสียงดัง
“...”
พอคำนี้ลั่นออกมา พูดจนถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ล้วนจมอยู่ในความเงียบ
โดยเฉพาะถังเฉา กำปั้นกำแน่น ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ท่านเจ้ามังกรยังไม่ตาย เรื่องที่อันตรายขนาดนี้ไหนเลยจะถึงตาเขาต้องไปทำ?
พ่อแม่บนโลกนี้ล้วนแต่รักลูก ถึงแม้ว่าถังเฉากับท่านเจ้ามังกรไม่ได้มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ว่าในสายตาของท่านเจ้ามังกร ถังเฉาก็คือลูกของเขา
ต่อให้เขาแก่แล้ว โค้งเอวไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังเป็นคนที่นำทางให้แก่ถังเฉา
อุปสรรคมากมายเพียงใดก็ล้วนแต่ไม่ถึงตาถังเฉาจะต้องแบกรับเอาไว้
หลงไป่ชวนถลึงตาเพราะโกรธจนเกินไป บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรง
เงียบอยู่นาน เจียงไป๋เสว่เองก็มองถังเฉา เอ่ยว่า “ครั้งนี้คุณทำซี้ซั้วเกินไปจริง ๆ”
“คุณเป็นเจ้ามังกรก็จริง แบกรับภาระภารกิจสำคัญของอาณาประชาราษฎร์ในใต้หล้า แต่การที่คุณมีชีวิตอยู่นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าใด ๆ ทั้งหมด”
“ผมยังไม่ได้ตายสักหน่อย”
หลงไป่ชวนเองก็มองถังเฉาพลางเอ่ยขึ้น
ประโยคที่พูดว่าผมยังไม่ได้ตายสักหน่อย ชั่วพริบตาก็ทำให้ในใจของถังเฉาสั่นไหวขึ้นมาทันที
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง โค้งกายต่ำ ๆ ครั้งหนึ่ง เอ่ยว่า “ขอโทษครับ อาจารย์!”
ท่านเจ้ามังกรไม่ได้พูดอะไร ผ่านไปนานสีหน้าของเขาถึงได้อ่อนโยนลงมานิดหน่อย เอ่ยว่า “อย่าทำอีกนะ”
เห็นท่านเจ้ามังกรอภัยให้กับตนเอง ในใจของถังเฉาจึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เจียงไป๋เสว่เอ่ยถามว่า “แล้วต่อไปคุณตัดสินใจจะทำอย่างไรคะ จะปิดบังไปตลอดหรือ? แม้แต่คุณหลิน... ก็ปิดบังหรือ?”
ถังเฉาเงียบอยู่พักหนึ่ง ถึงอย่างไรก็แข็งใจให้หลินชิงเสว่เสียอกเสียใจเช่นนี้ไม่ได้ เอ่ยว่า “ผมจะบอกความจริงกับเธอ”
ครั้งก่อนที่สนามกีฬาเมืองเจียงเฉิงเธอได้จัดงานศพให้กับเขาไปแล้วหนึ่งครั้ง การล้อเล่นเช่นนี้ไม่อาจทำได้อีกแล้ว
หัวคิ้วของเจียงไป๋เสว่จึงได้คลายลง เอ่ยกับถังเฉาว่า “ช่วงหลายวันนี้ฉันจะบัญชาการกองทัพปราณมังกร รอจับเหยื่อ ทางด้านตระกูลเจียงนั้นฉันให้เจียงสือเหนียนดูแลแล้ว”
ถังเฉาพยักหน้า ไม่ได้อยู่กับที่นานเกินไป จากไปจากฐานฝึกด้วยกันกับท่านเจ้ามังกร
แต่เขาก็ไม่ได้ไปไกลเกินไป อยู่ดูเจียงไป๋เสว่บังคับบัญชาต่อไปด้วยตาตัวเองอีกหลายวัน ทุกคนภายในกองทัพปราณมังกรล้วนเข้าสู่การเตรียมป้องกันสถานการณ์คับขันแล้วถึงได้จากไป
‘ความตาย’ ของถังเฉาเป็นเพียงสัญญาณหนึ่งเพื่อดูว่าตกลงแล้วค้างคาวจะออกมาหรือไม่
......
หลินชิงเสว่เพิ่งจะถึงบ้านตอนตีสาม
ตลอดทางเธอจำเป็นจะต้องให้หูอีซานคุ้มกันไปส่ง ถึงจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
เธอไม่ได้ส่งเสียงดังจนปลุกครอบครัวของหลินฉ่ายเวยที่กำลังหลับสนิท แล้วก็ไม่ได้เข้าไปในห้องของถังเสี่ยวลี้ แต่กลับไปถึงห้องรับแขกเพียงลำพัง นั่งอยู่บนโซฟา
ในห้องรับแขกไม่ได้เปิดไฟ หลินชิงเสว่นั่งอยู่ในความมืดเพียงคนเดียวเช่นนี้ ในเวลานี้การหลบอยู่ในความมืดถึงจะทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย... บางครั้งแสงสว่างก็ลวกให้คนบาดเจ็บได้
ดูเหมือนหัวใจของเธอจะหายไปเสี้ยวหนึ่ง อยากร้องไห้ แต่กลับร้องไม่ออก
จิตใจทั้งหมดพังสลายไปทั้งหมดในช่วงเวลานี้
เมื่อห้าปีก่อนถูกถังเฉาทำให้ด่างพร้อยอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตั้งครรภ์เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ก็ยังไม่เคยพังทลายขนาดนี้มาก่อน
เธอเปิดโทรศัพท์อย่างสั่น ๆ อาศัยแสงสว่างจากโทรศัพท์ส่องดูแหวนสีโลหิตที่แวววาวสะดุดตาที่ปลายนิ้ววงนั้น
Tears of Venus
นี่คือแหวนแต่งงานที่ถังเฉาสวมให้เธอกับมือชดเชยงานแต่งงานของเธอ
ขอเพียงเมื่อมองเห็น Tears of Venus ความรู้สึกก็จะพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ฉากต่าง ๆ ในอดีตตัดผ่านเข้ามาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอทีละฉาก ๆ
ความสุขที่เคยสัมผัสได้ ในตอนนี้กลับไปไกลจากตน
“อา...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม