ถังเฉาตายแล้ว
เรื่องนี้ไม่ได้ดึงดูดคลื่นลูกใหญ่ของเยี่ยนจิง
หลินชิงเสว่ยังคงเข้างานเลิกงานตามปกติ บุกเบิกกิจการที่เยี่ยนจิง
ทางด้านตระกูลหลินนั่นไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับการตายของถังเฉาไม่ได้สร้างคลื่นลมใด ๆ
ระหว่างนั้นลั่วเย่นหัวมาอยู่หลายครั้ง ปลอบใจหลินชิงเสว่ไม่กี่ประโยคแล้วก็กลับไป
สถานการณ์สงบสุข
โรงการต่อสู้ปรมาจารย์
ที่นี่เป็นโรงการต่อสู้ของเย่จงซือเอง ในวันปกติก็จะติดต่อกับพวกระดับกลางถึงระดับสูงของสมาคมการต่อสู้ใหญ่
เย่จงซือไม่มีความสนใจในเรื่องของการทำธุรกิจ... ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนโง่ในด้านการทำธุรกิจ ตรงกันข้าม ไม่ว่าเขาทำอะไรก็ล้วนแต่หลักแหลม จุดนี้ได้รับสืบต่อมาจากเย่จงเวิ่น บิดาของเขาผู้ชายที่ได้เลื่อนขั้นเป็นราชวงศ์ต้าเซี่ยไปแล้วคนนั้น
เพียงแต่เทียบกับด้านการธุรกิจแล้ว เขาชอบบูโดมากกว่า
พละกำลังจึงจะเป็นต้นกำเนิดของการตัดสินทั้งหมด
หมัดใครหนัก ทุกคนก็ล้วนแต่จะเคารพเขา ได้เงินทอง อำนาจ ผู้หญิงมาอย่างง่ายดาย
เขาจึงเปิดโรงการต่อสู้แห่งหนึ่งขึ้นมา ปกติตอนที่ไม่มีธุระอะไรก็ชอบมาดูการฝึกผู้แข็งแกร่งของทุกที่บนโลก
ผัวะ ๆ...
ในโรงการต่อสู้ ทุกที่ล้วนแต่เป็นเสียงหมัดกระทบเนื้อที่น่าอึดอัด ในอากาศเต็มไปด้วยเสียงกระทบอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงหยาดเหงื่อที่หยดกระเด็นไปทั่ว
ฮอร์โมนเพศชายกำลังแพร่กระจายอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้ว่าหน้าตาของพวกเขาไม่ได้หล่อเหลา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนุ่มน้อยแบบที่ผู้หญิงสมัยนี้ชอบกันเลยสักนิด... แต่คนที่ฝึกการต่อสู้จะมีกลิ่นอายที่สง่างามอย่างหนึ่งโดยธรรมชาติ
ถังหลินมองจนตาแทบถลน บนหน้าผากปรากฏเหงื่อเย็น ๆ ในทันที... มองคนพวกนี้ต่อสู้กันก็เหมือนกับตนเองขึ้นไปโดนต่อยอย่างไรอย่างนั้น
ตระกูลถังไม่ใช่ตระกูลหลิน ทุกคนชื่นชอบการต่อสู้ ถังหลินไม่เข้าใจบูโดเลยแม้แต่น้อย เขาชอบแบบนุ่มนวลมากกว่า
“นายว่าถังเฉาตายแล้วจริงไหม?”
ผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่สวมชุดเปิดเผยที่โอบอยู่ในอ้อมอกถามขึ้น ถังหลินกลับขมวดคิ้วแน่น ในใจกระวนกระวายสุดขีด
หลังจากที่ได้รู้ว่าถังเฉาตายแล้ว ถังหลินก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับทั้งคืน แต่ตอนเช้าหลังจากที่เอาน้ำเย็นล้างหน้าแล้ว เขาก็ค่อย ๆ ใจเย็นลงได้
สองวันนี้ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูไม่ยอมทำการใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องการตายของถังเฉา ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก
ถ้าว่ากันตามหลักแล้ว ถังเฉาเคยมีการขัดแย้งกับตระกูลหลวงในเยี่ยนตูมาอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง การตายของเขา ตระกูลหลวงไม่มาร่วมพิธีศพ ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ตีฆ้องร้องป่าวก็ต้องมีบ้างไหม?
ทว่ากลับยังทำราวกับว่าไม่รู้ข่าวนี้ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใหญ่โตใด ๆ
ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้นะ?
เย่จงซือไม่พูดไม่จา เพียงแต่ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองการประลองของตระกูลบูโดทั้งสองที่อยู่ข้างหน้ามาโดยตลอด
นั่นคือยอดฝีมือสองท่านของสมาคมการต่อสู้ใหญ่ เทียบกันกับเสียงหมัดกระทบเนื้อของเวทีประลองอื่น ๆ แล้ว ทางฝั่งของพวกเขานั้นเงียบไปมาก
ทั้งสองฝ่ายยืนอยู่ทางซ้ายและขวาของเวทีประลอง ใช้การกระจายกำลังพลเพื่อคุมเชิง สายตาดุดัน
“ชู่ว... อย่าพูด”
เย่จงซือเอ่ยเตือน
“...”
ดังนั้นถังหลินจึงทำได้เพียงหุบปากแล้วมองดูยอดฝีมือทั้งสองท่านคุมเชิงกันด้วยกันกับเย่จงซือ
มองดูอยู่นานเขาก็ล้วนแต่มองสาเหตุไม่ออก ค่อย ๆ หมดความอดทนไป
แต่ในตอนนี้เอง ทั้งสองคนก็ขยับแล้ว
ขวับ...
แทบจะหายไปจากที่เดิมในชั่วพริบตา จากนั้นแต่ละคนก็ต่อยออกไปหมัดหนึ่ง
พลั่ก!
เสียงหนึ่งดังสนั่นหวั่นไหว เสียงนั้นปกคลุมไปทั้งพื้นที่
ทันใดนั้นคลื่นพลังกลุ่มหนึ่งก็แผ่กระจายไปทั่ว ส่งผลกระทบไปถึงผู้แข็งแกร่งที่สนามประลองอื่น ๆ ใบหน้าล้วนแต่ปรากฏความหวาดผวาออกมา มองไปยังการประลองของยอดฝีมือของสมาคมการต่อสู้ใหญ่ทั้งสองท่าน
แต่ทั้งสองคนนั้นไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด ในดวงตาเหลือเพียงฝ่ายตรงข้าม
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
เย่จงซือแสยะปากยิ้มออกมา ปรบมือเบา ๆ ดูเหมือนกับพอใจการประลองของทั้งสองคนมาก
“เห็นหรือยังล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม