“อ๊าย......”
หลินจ้าวหยูนตกใจยกใหญ่ สีหน้าเปลี่ยนจนซีดเผือดในทันใด อยากส่งเสียงกรีดร้องโดยสัญชาตญาณ
หลินชิงเสว่รีบอุดปากของหล่อนเอาไว้ ร่างกายตึงแน่นถึงขีดสุดแล้ว
แม้ว่าเธอจะหวาดกลัวมากเช่นกัน คนผู้หนึ่งที่มาอยู่เหนือศีรษะของพวกเธอแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง จ้องพวกเธอไม่ขยับตัวสักนิด นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญมากอยู่แล้ว
แต่พวกเธอยังรักษาความสุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอด ปิดปากของหลินจ้าวหยูนเอาไว้ได้ทันเวลาด้วย
พวกเธอถูกคนจ้องไว้แล้ว อธิบายความได้ว่าพรรคพวกของเขาคงอยู่ไม่ไกลนัก ถ้าหลินจ้าวหยูนส่งเสียงร้อง จะต้องดึงคนเข้ามามากกว่านี้แน่ ถึงตอนนั้นสถานการณ์ของพวกเธอจะยิ่งย่ำแย่มากกว่าเดิม
หญิงสาวชุดกิโมโนญี่ปุ่นคนนั้นมองเห็นมองเห็นผู้ชายที่สวมหน้ากากสีดำคนนั้นเข้าก็ตกใจจนลูกตาหดเหมือนกัน ลุกขึ้นโดยจิตใต้สำนึก อยากหลบหนีไปจากตรงนี้
แต่ทว่าหล่อนได้รับบาดเจ็บหนัก ดวงตาทั้งสองพร่ามัว และอ่อนแรงล้มพับลงพื้นไป
หล่อนทำได้เพียงมองมาทางหลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนทั้งสองพี่น้อง ใช้ภาษาต้าเซี่ยที่ถือว่าชัดเจนพูดขึ้นว่า “คุณหนูจิตใจดีทั้งสอง พวกคุณรีบหนีไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันแล้ว”
หล่อนหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังอยู่บ้าง มีความหมายเหมือนยอมรับชะตากรรม
หลินจ้าวหยูนกลับทำสีหน้าตกใจ พยุงหล่อนขึ้นมาแล้วพูดด้วยเสียงทุ้ม “ในเมื่อพวกเราช่วยเธอแล้ว ย่อมจะไม่ทิ้งเธอเอาไว้กลางทางโดยไม่สนใจหรอก ช่วยใครก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุดสิ”
ถึงแม้หลินชิงเสว่จะไม่ได้พูดจาอะไร แต่ว่าความหนักแน่นในสายตาได้อธิบายทุกอย่างแล้ว
ห้าปีก่อน เธอเสียสละความบริสุทธิ์ของตนเอง ช่วยเหลือถังเฉาที่โดนวางยา ตอนนี้เธอก็ช่วยเหลือหญิงสาวผู้น่าสงสารที่โดนคนมากมายตามฆ่าอีก
ผู้ชายบนต้นไม้เหมือนสัมผัสได้ถึงการตัดสินใจของหลินจ้าวหยูนและหลินชิงเสว่เช่นกัน จึงค่อยๆ ลุกขึ้นมาแล้ว
จากนั้นแสยะปากออก ยิ้มไปทางพวกเธอแล้ว
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนถูกมองด้วยรอยยิ้มนี้จนรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว----นี่คือสายตาแบบที่แมวมองหนูอย่างหนึ่ง เขาเห็นพวกเธอเป็นเหยื่อ
“นายเป็นใคร? ทำไมต้องตามฆ่าหล่อนด้วย?”
หลินชิงเสว่ลุกขึ้นมา พยายามกดเสียงต่ำเอาไว้ แล้วสอบถามผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายคนนั้นไม่ตอบอะไร ยังคงมองหลินชิงเสว่อย่างจ้องตาไม่กะพริบแบบนี้อยู่
หลินจ้าวหยูนก็ทำเป็นกล้าหาญขู่ขวัญว่า “ฉันคือเจ้าหญิงรองของตระกูลหลินแห่งตระกูลหลวง บอดี้การ์ดของฉันก็อยู่แถวนี้ ถ้านายกล้าทำอะไรกับพวกฉันล่ะก็ ระวังหัวจะหลุดจากบ่าไว้เลย!”
“......”
ผู้ชายคนนั้นยังคงไม่พูดจา มองพวกเธออยู่แบบนี้ มองจนในใจหลินจ้าวหยูนสั่นเทาพักหนึ่ง
“พี่ ดูเหมือนว่าเขาจะฟังที่พวกเราพูดไม่เข้าใจนะ”
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าสายตากลับอึมครึมกว่าเดิม
ใช้ภาษาไม่เข้าใจกัน นี่คือเรื่องต้องห้ามที่สุดในการเจรจา
ถึงแม้หลินชิงเสว่จะยอดเยี่ยมในหลายๆ ภาษา แต่ล้วนเป็นภาษาที่นานาชาติมักใช้กัน ในบรรดาพวกนี้ไม่รวมภาษาญี่ปุ่นเอาไว้ด้วย
เวลานี้ หญิงสาวญี่ปุ่นที่นอนอยู่บนพื้นเอ่ยปากพูดขึ้นกะทันหัน พูดโฉงเฉงอยู่ตั้งนาน
ผู้ชายบนต้นไม้ก็มีปฏิกิริยากลับมา ตอบกลับมาแบบโฉงเฉงเช่นกัน
หญิงสาวญี่ปุ่นทำหน้าอึมครึม สีหน้าโกรธเคืองไม่น้อย จากนั้นด่าไปคำหนึ่ง
“โง่!”
“......”
คำพูดนี้หลินจ้าวหยูนฟังออก
“เขาพูดว่าอะไร?” หลินชิงเสว่มองทางหญิงสาวญี่ปุ่น ถามไป
หญิงสาวญี่ปุ่นสีหน้าย่ำแย่ ยิ่งมีความรู้สึกเสียใจ บอกว่า “ขอโทษจริงๆ นะคะ คุณหนูทั้งสอง ถ้าไม่ใช่เพราะมาช่วยฉันไว้ พวกเขาคงจะไม่จ้องพวกคุณเอาไว้ด้วย เขาบอกว่าจะเอาตัวคุณหนูทั้งสองไปขายและรับแขกที่ญี่ปุ่นค่ะ”
“อะไรนะ?”
หลินจ้าวหยูนพอได้ยิน ชั่วขณะนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เก็บก้อนหินบนพื้นก้อนหนึ่งขึ้นมา โยนเข้าไปยังผู้ชายบนต้นไม้แล้ว หลุดปากด่าทอ “ใจกล้ามากนะ ที่นี่คือเมืองซื่อจิ่ว ไม่ใช่ญี่ปุ่นของพวกแก คิดว่าพวกฉันกลัวแกจริงๆ งั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่ว่าฉันรอบอดี้การ์ดของฉัน......”
หลังจากนั้นหลินจ้าวหยูนก็ด่าต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะผู้ชายบนต้นไม้รับก้อนหินที่เธอโยนเข้าไปไว้ได้อย่างสบาย สายตามีความโหดเหี้ยมด้วย
เกิดเสียงกระทบกันของโลหะ เขาจับดาบที่เอวขึ้น มือทั้งสองกุมไว้ตรงด้าม กระโดดลงมา จากนั้นเชือดเฉือนลงไปทางหลินจ้าวหยูน
“อ๊าย----”
หลินจ้าวหยูนจะเคยเห็นอาวุธนี้มาก่อนที่ไหน? อยู่ตรงนั้นตกใจจนทนไม่ไว้อีกต่อไป ก่อนจะกรีดร้องออกมา
หลินชิงเสว่กัดฟันไว้แน่น กอดหลินจ้าวหยูนเอาไว้แน่น หลับตาลงแล้วเช่นกัน
สถานการณ์ในเวลานี้ เธอไม่มีหนทางแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม