“อ๊ากกกก...”
การร้องอย่างน่าเวทนาของมนุษย์โคลนยังคงต่อเนื่อง ดังไปทั่วทั้งในผืนป่า ทำให้นกอพยพจำนวนมากแตกตื่น
เสียงที่ทุกข์ทรมานเช่นนี้ ร่างกายของหลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ ได้ฟังแล้วก็สั่นสะท้านขึ้นมา
ด้านบนของกำปั้นได้ซ่อนข้อต่อและจุดฝังเข็มเอาไว้มากมายเหมือนกับใต้ฝ่าเท้า... ถ้าหากบีบกระดูกข้อต่อของกำปั้นแตกทีละข้อ ๆ จะทรมานสักเพียงใด?
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนไม่กล้าจะคิดต่อไปแล้ว เพราะลำพังเพียงแค่คิด พวกเธอก็รู้สึกเจ็บปวดแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมนุษย์โคลนที่ประสบกับตัวเองเลย
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์โคลน แต่ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด
นี่ก็คือความโกรธของถังเฉา จากที่ความเข้าใจที่พวกเธอมีต่อถังเฉา นี่... เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
เขาไม่มีทางปล่อยให้มนุษย์โคลนคนนี้ตายอย่างง่าย ๆ เช่นนี้แน่ แต่ต้องทุกข์ทรมานสารพัด!
ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าและสายตาของถังเฉายังไม่ได้เปลี่ยนเลย
เวลาผ่านไปทีละน้อย เขาและมนุษย์โคลนรักษาท่าทางนี้เอาไว้ไม่ขยับเขยื้อนมาโดยตลอด เหมือนกับเป็นรูปปั้นสองตัว
แต่สามารถมองเห็นหมัดข้างที่ถูกกำเอาไว้ของมนุษย์โคลนค่อย ๆ เหี่ยวลงไปอย่างช้า ๆ ราวกับถูกสูบเอาส่วนที่เป็นของเหลวและน้ำเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังจนแห้งเหือด แม้แต่หลอดเลือดก็ยังผอมแห้งลงไป ลู่ลงไปอย่างไร้เรี่ยวแรง
ไม่เพียงเท่านี้ ข้อต่อทุกแห่งบนฝ่ามือยังบิดเบี้ยวผิดรูปผิดรอยอย่างรุนแรง หักไปทางด้านหลัง
ใช่แล้ว ถังเฉาใช้แรงภายในกลุ่มใหญ่เข้าไปข้างในกำปั้นของมนุษย์โคลน แรงภายในเหล่านั้นเผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง ระเหยน้ำเลือดและของเหลวในข้อต่อส่วนหนึ่งของเขาจนแห้งเหือด ตอนนี้จึงได้แห้งลีบไป
ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนกับที่หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนคิด ถังเฉาไม่มีทางยอมให้คนที่ทำร้ายเจียงไป๋เสว่ตายไปอย่างง่าย ๆ แน่
“พี่เขยสุดยอดมาก...”
หลินจ้าวหยูนเบิกตากลมโต พูดออกมาอย่างตะลึง
หลินชิงเสว่ช็อกจนไม่สามารถจะช็อกไปกว่านี้ได้แล้ว นี่เป็นถึงมนุษย์โคลนที่เจียงไป๋เสว่รับมือจนเหนื่อยล้าเชียวนะ ต่อหน้าถังเฉากลับอ่อนแอเช่นนี้
ไม่ใช่ว่าเธอมีเคยเห็นถังเฉาลงมือ เพียงแต่ว่าดูเหมือนว่าการลงมือของถังเฉาแต่ละครั้ง ศักยภาพของถังเฉาก็จะเลื่อนขึ้นไปหนึ่งขั้น มองไม่เห็นเลยว่าขีดจำกัดของเขาอยู่ตรงไหน
ปัง!
ในที่สุดถังเฉาก็ปล่อยมนุษย์โคลน โยนเขาออกไปเหมือนกับขยะชิ้นโตชิ้นหนึ่ง
แต่ว่าเขาไม่ได้บุกโจมตีเข้าไปต่อ เพียงแค่กดสายตามองเขาพลางเอ่ยว่า “เมื่อก่อนผมเคยเจอขยะชิ้นใหญ่เช่นนี้อย่างพวกคุณที่เมืองเจียงเฉิง แต่ดูเหมือนว่าคุณจะชั้นสูงกว่าพวกเขาอยู่บ้าง ทำไมหรือ คุณเป็นรุ่นที่เหนือกว่าพวกเขาหรือ?”
“เขาเป็นร่างโคลนของหลี่เห้า!”
หลินชิงเสว่ร้องตะโกนอยู่ด้านข้าง พูดข้อเท็จจริงที่ค้างคาวพูดออกมาก่อนหน้านี้ออกมา
“อะไรนะ?”
สายตาของถังเฉามืดครึ้ม รังสีสังหารในดวงตาไหลเวียนและเด่นชัดยิ่งขึ้น
“หว่างเหลี่ยงทำเรื่องได้ดีจริง ๆ เลย...”
ถังเฉาเอ่ยเสียงเย็น เขากับเจียงไป๋เสว่ตามหาหลี่เห้ามาสามปีแล้ว ผลสุดท้ายหลี่เห้ากลับถูกเป็นแม่แบบงานวิจัย บ่มเพาะมนุษย์โคลนออกมามากมายก่ายกอง
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ที่เมืองเอกของมณฑล ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ก็เคยมองเห็นหลี่เห้ามาก่อน เขาลืมพวกเธอไปสนิท ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่หลี่เห้าตัวจริง แต่เป็นหนึ่งในร่างโคลน
พวกเขาระดับสูงกว่าอาวุธสงครามที่ปรากฏตัวในสนามกีฬาเมืองเจียงเฉิงอยู่ส่วนหนึ่ง มีไอคิวของตัวเอง จะมีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ถังเฉาไม่ชอบใจ นั่นก็คือใบหน้าของพวกเขา
“นายแข็งแกร่งมาก แต่ว่า ทั้งร่างของฉันเป็นเหล็กกล้า นายจะเอาชนะฉันได้อย่างไร?”
มนุษย์โคลนลุกขึ้นยืน เอ่ยเสียงต่ำ
“ใครบอกคุณกันว่าคุณเป็นเหล็กกล้าแล้วผมจะสู้ไม่ได้?”
ถังเฉาถามกลับ
ตามเสียงที่สิ้นสุดไป ในที่สุดเขาก็ขยับแล้ว ครั้งนี้เขาบุกโจมตี กระแทกหมัดหนึ่งไปที่ใบหน้าของมนุษย์โคลน
เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็มองออกแล้วว่าส่วนหัวของมนุษย์โคลนไม่ได้รับการป้องกันจากเหล็กกล้า
ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าร่างกายของมนุษย์โคลนจะทำมาจากเหล็กกล้า แต่มีเพียงเซลล์ป้องกันด้านนอกหนึ่งชั้นส่วนที่ประกอบเป็นร่างกายก็ยังคงเป็นเลือดเนื้อ
สาเหตุที่เจียงไป๋เสว่หมดปัญญากับเขาแล้ว ก็เพราะว่าการโจมตีของเธอยังไม่เพียงพอที่จะทะลุชั้นเหล็กกล้าที่ผิวหนังนั้น
แต่ว่าถังเฉาทำได้
มนุษย์โคลนร้องเฮอะเสียงต่ำหนึ่งที แล้วก็ขยับตามไป มือข้างหนึ่งป้องกันศีรษะของตัวเองเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ใช้กำปั้นที่เหลือเพียงข้างเดียวซัดเข้าไป
หมัดทั้งสอง มือหนึ่งเป็นเลือดเนื้อ อีกมือหนึ่งเป็นเหล็กกล้า แต่ถังเฉาก็ยังไม่หลบหลีก ดันทุรังรับไปตรง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม