ถังเฉาพักอยู่ในห้องของเจียงไป๋เสว่อยู่พักหนึ่งก็ออกไป
หลังจากที่เจียงไป๋เสว่ได้ผ่านการพูดโน้มน้าวไปแล้ว ในใจก็เบิกบาน เข้าใจได้ถึงหลักเหตุและผล อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจยังคงตกต่ำเป็นอย่างยิ่ง
ครั้งนี้ เธอตกต่ำเพื่อตัวเอง ยิ่งไม่ยินยอมเพื่อตัวเองด้วย
ชีวิตของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการกลายเป็นคนแข็งแกร่งและการต่อสู้เท่านั้น ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ความปรารถนาเหมือนคนทั่วไป
เธอมาถึงห้องรับแขก ถังเฉาเข้าไปเริ่มทำอาหารเช้าในห้องครัวแล้ว
“ทำไมถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะคะ?”
ในตอนนี้ด้านหลังก็มีเสียงทักทายอย่างอบอุ่นดังขึ้นมา
เจียงไป๋เสว่หันกลับไปมอง หลินชิงเสว่สวมชุดอยู่บ้านไหมแท้ทั้งตัว เดินลงมาอย่างช้า ๆ
เธอที่ใบหน้าไร้การแต่งแต้มยังคงสวยงาม
เจียงไป๋เสว่มองอย่างใจลอยไปในทันที พอตั้งสติได้ ก็ฝืนผุดรอยยิ้มออกมาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ผมนอนน้อยน่ะ นอนแป๊บเดียวก็พอแล้ว”
“อย่างนั้นหรือคะ...”
หลินชิงเสว่เดินลงมา เปิดหน้าต่างและม่านหน้าต่างออก แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในทันที
แสงแดดที่แสบตาส่องเข้ามาจนเจียงไป๋เสว่ลืมตาไม่ขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาบังดวงตาของตัวเองเอาไว้
“คุณเห็นหรือยังคะ?” หลินชิงเสว่เอ่ยถาม
“เห็นอะไรคะ?”
“แสง”
หลินชิงเสว่เอ่ยด้วยดวงตาที่ประดับด้วยรอยยิ้มว่า “ดอกทานตะวันจะบานได้ก็เพราะว่าเดินตามแสงตะวัน”
เจียงไป๋เสว่มีใบหน้างงงวย ฟังไม่ออกว่าหลินชิงเสว่หมายความว่าอย่างไร
“อาหารเสร็จแล้ว ไปทานกันเถอะครับ”
ตอนนี้เอง ถังเฉาก็เดินออกมาจากในครัว ในมือยังประคองโจ๊กเอาไว้หลายถ้วย
อาหารเช้าเป็นแบบจีนมาก ๆ นอกจากโจ๊กแล้วยังมีปาท่องโก๋อีกหลายตัว
เจียงไป๋เสว่ปฏิเสธไปตามสัญชาตญาณ “ฉันไม่ล่ะ... ไม่หิว...”
พูดยังไม่ทันจบก็ถูกดันไปอยู่หน้าโต๊ะทานอาหารแล้ว
ถังเฉามองเธอแล้วเอ่ยขึ้น “แผลยังไม่หายดี แน่นอนว่าจะต้องกินให้มันเยอะ ๆ หน่อย”
“แต่ว่า...”
“ทานเถอะค่ะ”
หลินชิงเสว่เองก็มองเธอด้วยรอยยิ้ม
แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ทำให้เธอและถังเฉาดูแล้วเหมือนมีออร่าศักดิ์สิทธิ์ออกมาทั้งร่าง
เจียงไป๋เสว่เหม่อไปในทันที ผ่านไปพักหนึ่งก็ยังพูดไม่ออก
ยิ่งคิดไปถึงคำพูดของหลินชิงเสว่อีก พักหนึ่งเธอก็เข้าใจได้ว่าหมายความว่าอย่างไร
ถังเฉาก็คือพระอาทิตย์ และเธอ... หลินชิงเสว่ รวมถึงผู้หญิงทุกคนที่มีใจให้กับเขาก็ล้วนแต่เป็นดอกทานตะวัน
แสงอยู่ที่ไหน พวกเธอก็บานไปทางนั้น
“เขาไม่เปลี่ยนไปโดยตลอดเลย ไม่ใช่หรือคะ?” หลินชิงเสว่ทานโจ๊กแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา
ดวงตาของเจียงไป๋เสว่ลืมขึ้นมาโตกว่าเดิม หลังจากผ่านไปนานก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา พยักหน้า
“ใช่ค่ะ ไม่เปลี่ยนมาโดยตลอด”
เธอเองก็ปล่อยวางแล้ว
ต่อให้พลาดจากถังเฉาแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาเธอเองก็ไม่เคยโดดเดี่ยวเดียวดาย
กริ๊งงงง!
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของถังเฉาก็ดังขึ้นมา
หยิบออกมาดูแวบหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเบอร์ต่างประเทศ
ถังเฉาขมวดคิ้ว ใครจะโทรข้ามประเทศมาหาเขากันนะ
“ถัง... ยังฟังเสียงของฉันออกไหม?”
ทว่าพริบตาที่รับโทรศัพท์นั้นเอง ก็มีเสียงฉอเลาะของผู้หญิงคนหนึ่งส่งออกมา
ถังเฉาตกตะลึงไป เพียงแค่รู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นหูมาก เหมือนว่าจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน
ผู้หญิงที่อยู่ในโทรศัพท์ถอนหายใจเบา ๆ ครั้งหนึ่ง “ฉันว่าแล้วเชียว คุณลืมฉันไปจริง ๆ ด้วย”
“เอาเถอะ จะบอกใบ้ให้นะ นิดเดียวพอ...”
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะยกโทษให้ถังเฉา และยังคงพูดด้วยเสียงหัวเราะคิก ๆ เหมือนเดิม “แก๊งโครงกระดูก...”
ตู๊ด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม