เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 906

สรุปบท บทที่ 906 หว่างเหลี่ยงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

สรุปตอน บทที่ 906 หว่างเหลี่ยงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ – จากเรื่อง เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน

ตอน บทที่ 906 หว่างเหลี่ยงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดยนักเขียน เป๋ต้งสู่เพี่ยน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ถังเฉาพักอยู่ในห้องของเจียงไป๋เสว่อยู่พักหนึ่งก็ออกไป

หลังจากที่เจียงไป๋เสว่ได้ผ่านการพูดโน้มน้าวไปแล้ว ในใจก็เบิกบาน เข้าใจได้ถึงหลักเหตุและผล อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจยังคงตกต่ำเป็นอย่างยิ่ง

ครั้งนี้ เธอตกต่ำเพื่อตัวเอง ยิ่งไม่ยินยอมเพื่อตัวเองด้วย

ชีวิตของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการกลายเป็นคนแข็งแกร่งและการต่อสู้เท่านั้น ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ความปรารถนาเหมือนคนทั่วไป

เธอมาถึงห้องรับแขก ถังเฉาเข้าไปเริ่มทำอาหารเช้าในห้องครัวแล้ว

“ทำไมถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะคะ?”

ในตอนนี้ด้านหลังก็มีเสียงทักทายอย่างอบอุ่นดังขึ้นมา

เจียงไป๋เสว่หันกลับไปมอง หลินชิงเสว่สวมชุดอยู่บ้านไหมแท้ทั้งตัว เดินลงมาอย่างช้า ๆ

เธอที่ใบหน้าไร้การแต่งแต้มยังคงสวยงาม

เจียงไป๋เสว่มองอย่างใจลอยไปในทันที พอตั้งสติได้ ก็ฝืนผุดรอยยิ้มออกมาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“ผมนอนน้อยน่ะ นอนแป๊บเดียวก็พอแล้ว”

“อย่างนั้นหรือคะ...”

หลินชิงเสว่เดินลงมา เปิดหน้าต่างและม่านหน้าต่างออก แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในทันที

แสงแดดที่แสบตาส่องเข้ามาจนเจียงไป๋เสว่ลืมตาไม่ขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาบังดวงตาของตัวเองเอาไว้

“คุณเห็นหรือยังคะ?” หลินชิงเสว่เอ่ยถาม

“เห็นอะไรคะ?”

“แสง”

หลินชิงเสว่เอ่ยด้วยดวงตาที่ประดับด้วยรอยยิ้มว่า “ดอกทานตะวันจะบานได้ก็เพราะว่าเดินตามแสงตะวัน”

เจียงไป๋เสว่มีใบหน้างงงวย ฟังไม่ออกว่าหลินชิงเสว่หมายความว่าอย่างไร

“อาหารเสร็จแล้ว ไปทานกันเถอะครับ”

ตอนนี้เอง ถังเฉาก็เดินออกมาจากในครัว ในมือยังประคองโจ๊กเอาไว้หลายถ้วย

อาหารเช้าเป็นแบบจีนมาก ๆ นอกจากโจ๊กแล้วยังมีปาท่องโก๋อีกหลายตัว

เจียงไป๋เสว่ปฏิเสธไปตามสัญชาตญาณ “ฉันไม่ล่ะ... ไม่หิว...”

พูดยังไม่ทันจบก็ถูกดันไปอยู่หน้าโต๊ะทานอาหารแล้ว

ถังเฉามองเธอแล้วเอ่ยขึ้น “แผลยังไม่หายดี แน่นอนว่าจะต้องกินให้มันเยอะ ๆ หน่อย”

“แต่ว่า...”

“ทานเถอะค่ะ”

หลินชิงเสว่เองก็มองเธอด้วยรอยยิ้ม

แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ทำให้เธอและถังเฉาดูแล้วเหมือนมีออร่าศักดิ์สิทธิ์ออกมาทั้งร่าง

เจียงไป๋เสว่เหม่อไปในทันที ผ่านไปพักหนึ่งก็ยังพูดไม่ออก

ยิ่งคิดไปถึงคำพูดของหลินชิงเสว่อีก พักหนึ่งเธอก็เข้าใจได้ว่าหมายความว่าอย่างไร

ถังเฉาก็คือพระอาทิตย์ และเธอ... หลินชิงเสว่ รวมถึงผู้หญิงทุกคนที่มีใจให้กับเขาก็ล้วนแต่เป็นดอกทานตะวัน

แสงอยู่ที่ไหน พวกเธอก็บานไปทางนั้น

“เขาไม่เปลี่ยนไปโดยตลอดเลย ไม่ใช่หรือคะ?” หลินชิงเสว่ทานโจ๊กแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา

ดวงตาของเจียงไป๋เสว่ลืมขึ้นมาโตกว่าเดิม หลังจากผ่านไปนานก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา พยักหน้า

“ใช่ค่ะ ไม่เปลี่ยนมาโดยตลอด”

เธอเองก็ปล่อยวางแล้ว

ต่อให้พลาดจากถังเฉาแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาเธอเองก็ไม่เคยโดดเดี่ยวเดียวดาย

กริ๊งงงง!

ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของถังเฉาก็ดังขึ้นมา

หยิบออกมาดูแวบหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเบอร์ต่างประเทศ

ถังเฉาขมวดคิ้ว ใครจะโทรข้ามประเทศมาหาเขากันนะ

“ถัง... ยังฟังเสียงของฉันออกไหม?”

ทว่าพริบตาที่รับโทรศัพท์นั้นเอง ก็มีเสียงฉอเลาะของผู้หญิงคนหนึ่งส่งออกมา

ถังเฉาตกตะลึงไป เพียงแค่รู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นหูมาก เหมือนว่าจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน

ผู้หญิงที่อยู่ในโทรศัพท์ถอนหายใจเบา ๆ ครั้งหนึ่ง “ฉันว่าแล้วเชียว คุณลืมฉันไปจริง ๆ ด้วย”

“เอาเถอะ จะบอกใบ้ให้นะ นิดเดียวพอ...”

ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะยกโทษให้ถังเฉา และยังคงพูดด้วยเสียงหัวเราะคิก ๆ เหมือนเดิม “แก๊งโครงกระดูก...”

ตู๊ด!

ถังเฉาแกล้งโง่เอ่ยถามไป

แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมรับไปตรง ๆ แต่กลับจะหยั่งเชิงปฏิกิริยาตอบโต้ของไวโอเล็ตสักหน่อย

“นายแกล้งโง่กับฉันงั้นหรือ?”

ดูเหมือนว่าไวโอเล็ตจะโมโหจะบ้าไปแล้ว แม้แต่น้ำเสียงก็ยังสั่นเทา “เมื่อวานนายไปทำเรื่องอะไรมา เหยื่อของพวกเราถูกนายแย่งชิงไปแล้วใช่ไหม? ยังจะทำลายมนุษย์โคลนของเราไปคนหนึ่งอีก... เรื่องนี้รู้ไปถึงระดับบนขององค์กรแล้ว ถ้าหากว่าฉันไม่ขัดขวางเอาไว้ องค์กรจะต้องออกมาจัดการนายแน่!”

“อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอบคุณคุณด้วย ที่ช่วยผมขัดขวางภัยพิบัตินี้เอาไว้”

ถังเฉาหรี่ตาลงพลางเอ่ยขึ้น

ฟังความเยาะหยันของถังเฉาออก ไวโอเล็ตก็โกรธยิ่งขึ้น กัดฟันเอ่ยว่า “ถังเฉา ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับนายจริง ๆ นะ รีบส่งโอดะไอมาให้ฉัน เธอเองก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับนาย ทำไมจะต้องช่วยชีวิตเธอด้วย นายกำลังล้ำเส้นอยู่ ล้ำเส้น.. นายเข้าใจไหม?”

“ใครบอกคุณกันว่าไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับผม?”

เผชิญหน้ากับไวโอเล็ตที่โกรธจัด ถังเฉาหรี่ตาพลางเอ่ยว่า “เพราะว่าเป้าหมายของพวกคุณ ภรรยาของผมก็เลยซวยจนจะถูกฆ่า เพราะว่าเป้าหมายของพวกคุณ เพื่อนร่วมรบของผมจึงถูกโจมตีจนเกือบตาย บัญชีนี้ผมไม่ควรทวงคืนอย่างนั้นหรือ?”

“เอ่อ...”

ทันใดนั้น น้ำเสียงของไวโอเล็ตก็อ่อนลง

เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็รู้เรื่องที่เจียงไป๋เสว่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

“คุณไวโอเล็ตครับ ยังมีเรื่องเรื่องหนึ่งคุณอย่าลืมไปเสียล่ะ ผมร่วมงานกับคุณก็จริง แต่ระหว่างผมกับหว่างเหลี่ยงของคุณ ก็ยังคงมีความสัมพันธ์แบบสู้กันจนหัวเด็ดตีนขาดเหมือนเดิม”

ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นว่า “ถ้าหากสามารถทำเรื่องที่พวกคุณไม่พอใจได้ ผมก็มีความสุข”

“สาวน้อยชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่าโอดะไอคนนั้น กองทัพปราณมังกรจะรับช่วงต่อ ต่อไปเธอจะเป็นพยานพิเศษ ได้รับการตรวจตราเฝ้าระวังและการคุ้มครองจากกองทัพปราณมังกรตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าหากหว่างเหลี่ยงของพวกคุณไม่ยอมรับก็มาแย่งชิงตัวได้”

“...”

ไวโอเล็ตไม่พูดจาในทันที เธอไม่ใช่คนโง่ นี่เป็นการยั่วยุของถังเฉา

ถ้าหากว่าหว่างเหลี่ยงจะเคลื่อนทัพเข้าประเทศเป็นการใหญ่เพื่อโอดะไอคนเดียว นั่นก็เป็นสัญลักษณ์ว่าสงครามได้เริ่มขึ้นก่อนกำหนดแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งที่องค์กรปรารถนาจะได้เห็น

ตอนนี้องค์กรกำลังรอจังหวะและโอกาสหนึ่งอยู่ เห็นได้ชัดว่าจังหวะและโอกาสในตอนนี้ยังไม่สุกงอมเต็มที่

“เอาเถอะ ฉันจะไม่สืบสวนเรื่องมนุษย์โคลนก็ได้”

ไวโอเล็ตหายใจเข้าไปลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยว่า “แต่ว่านายจำเป็นจะต้องส่งโอดะไอมาให้ฉัน! องค์กรเริ่มที่จะไม่เชื่อถือฉันแล้ว มีผู้บริหารสูงสุดห้าดาวคนอื่นมาเดินทางข้ามทะเลมาเพื่อต้าเซี่ยแล้ว เป้าหมายก็คือเพื่อที่จะฆ่านาย!”

ขวับ!

พอคำนี้ลั่นออกมา สายตาของถังเฉาก็เย็นเยียบขึ้นทันที รังสีสังหารที่เข้มข้นกลุ่มหนึ่งม้วนตัวกันออกมา

เฟิ่งหวงที่กำลังขับรถอยู่ก็ตกใจขึ้นมาตามกัน แทบจะขับรถไปเส้นแบ่งเขตข้างถนนแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็มาเถอะ ดูซิว่าใครจะฆ่าใคร?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม