ในตำนาน คนคนนี้แค่หมัดเดียวก็ทำลายหินจนสั่นสะเทือนไปทั่วชั้นฟ้าได้ น่าอัศจรรย์ใจมากๆ ต่อให้มีวัวหนึ่งตัวมาอยู่ตรงหน้า ก็รับหมัดของเขาไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคน
ในข่าวเมื่อสมัยก่อน คนคนนี้ก็ไม่ได้ว่าจะไม่เคยประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก่อน
หวังหรูเมิ่งเมื่อตอนยังวัยรุ่นก็เคยต่อสู้กับกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกกองทัพปราณมังกรเป็นผู้นำด้วยพละกำลังของตัวเองมาก่อน แถมทำให้สมาชิกของกองทัพปราณมังกรคนนั้นบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย สุดท้ายก็ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลชั้นสูง จึงได้จัดการหวังหรูเมิ่งลงได้
ดังคำกล่าวที่ว่ามีเงินจะทำอะไรก็ได้ ไม่รู้ว่าพระอริยมารดรที่สามใช้แผนการอะไร ถึงเอาคนคนนี้มาได้ แถมยังให้มาอยู่ข้างกาย คอยเป็นบอดี้การ์ดให้กับตัวเองอีกด้วย
ถ้าถังเฉาผลีผลามบุกเข้ามาในตอนนี้ เจียงสือเหนียนก็ไม่กล้ายืนยันว่าถังเฉาจะถูกฆ่าในทันทีไหม
พระอริยมารดรที่สามที่ตาลุกเป็นไฟเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้บอดี้การ์ดที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของตัวเองทั้งหมดกระโจนเข้าไป ส่วนพวกบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงประตูเหล่านั้นก็ถูกเฟิ่งหวงจัดการล้มลงไปกองก่อนเรียบร้อยแล้ว
พอเห็นว่าบอดี้การ์ดพวกนี้สู้กับถังเฉาแล้วก็โซเฟียไม่ได้ พระอริยมารดรที่สามก็รีบกดปุ่มฉุกเฉินทันที พอกดปุ่มนี้ไปแล้ว ตรงประตูก็มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
“เหอะ ก็มีพอมีทักษะความสามารถนี่ แต่ก็แค่นั้นแหละ ตอนนี้คนที่อยู่ตรงประตูทางเข้าของพวกเรากำลังจะเข้ามาแล้ว พวกแกสองคนจะต้านไหวได้ยังไง?”
พระอริยมารดรที่สามหัวเราะออกมาราวกับนังตัวร้าย หมดแล้วซึ่งสถานภาพของพระอริยมารดร
แต่หลังจากที่สงบลงสักพัก จู่ๆพระอริยมารดรที่สามก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาไม่น้อย
มองไปที่ประตู ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะไม่มีใครมาแม้แต่คนเดียว มีแค่ถังเฉาแล้วก็โซเฟียที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่ รวมถึงเย่จงซือด้วย
“เกิดอะไรขึ้น? แม่? ทำไมคนของพวกเราถึงไม่เข้ามาสักที แม่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่แห่งนี้ ไม่มีใครสามารถมาทำอะไรพวกเราได้? ถ้าไม่มีใครมาอีกแล้วล่ะก็ พวกเราต้องตกอยู่ในอันตรายแล้วนะ!”
เย่จงซือสีหน้าท่าทีตื่นตกใจ เพราะว่าเรื่องเมื่อครั้งที่แล้วมันทำให้เขารู้สึกไม่พึงพอใจอยู่พอสมควรก่อนแล้ว ตอนนี้พอมาเจอถังเฉา ก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ต่อให้มีแม่ที่แข็งแกร่งทรงพลังของตนเองอยู่ด้วยก็ตาม
“อย่าใจร้อนสิ น่าจะเจอเรื่องอะไรที่ตรงประตู ไม่เป็นไรหรอก พวกมันจะมาในไม่ช้า”
ผ่านไปอีกสักพัก บรรยากาศก็เงียบสนิทอย่างผิดปกติ ส่วนถังเฉาก็อยากจะดูเหมือนกันว่าพระอริยมารดรที่สามจะเล่นไม้ไหนกันแน่
ตึงๆๆ!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พระอริยมารดรที่สามหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“ฉันบอกแล้ว ว่าคนของฉันแค่มาช้าเท่านั้น เดี๋ยวกลับไปลงโทษพวกมันก็ได้แล้ว แต่พวกแก จะต้องตายซะ!”
พระอริยมารดรที่สามพูดขึ้นด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม“แต่ฉันมีเงื่อนไข นั่นก็คือให้ไอ้หมอนี่ช่วยรักษาสองมือของลูกชายของฉัน ฉันก็จะให้พวกแกถอยกลับไปอย่างปลอดภัย แต่ถ้าเกิดเจอฉันข้างนอกล่ะก็ ฉันก็จะยังคงฆ่าพวกแกอยู่ดี”
ด้วยเหตุนี้ ถังเฉาแค่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากที่ประตูถูกผลักเปิดออกมาอย่างแรงแล้ว สีหน้าท่าทีของพระอริยมารดรที่สามก็นิ่งชะงักไปทันที เพราะว่าคนที่เธอเห็นไม่ใช่ลูกน้องของตัวเอง แต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เฟิ่งหวง
เฟิ่งหวงท่าทางง่ายๆสบายๆ เช็ดรอยเลือดตามตัวของตนเอง
“จัดการเรียบร้อยแล้ว”
พอพระอริยมารดรที่สามได้ฟัง ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“หรือว่าพวกคนหลายสิบคนนั้น จะถูกเด็กสาวแค่คนเดียวจัดการ……!”
เฟิ่งหวงรู้ว่าพระอริยมารดรที่สามกำลังพูดถึงตัวเองอยู่ จึงพูดเยาะเย้ยขึ้น“คุณหมายถึงพวกลูกกะจ๊อกที่อยู่ข้างในบ้านเหรอ? ขอโทษทีนะ ตะกี้ฉันคันไม้คันมือจัดการไปหมดเรียบร้อยแล้วล่ะ”
ใครๆก็รู้ว่า ลูกกะจ๊อกที่เฟิ่งหวงพูดถึง ก็คือลูกน้องของพระอริยมารดรที่สามนั่นเอง แล้วพวกลูกน้องเหล่านี้เป็นแค่ลูกกะจ๊อกที่ไหนกัน นั่นเป็นถึงนักเลงมืออาชีพที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเชียวนะ!
“น่ารังเกียจสิ้นดี!แกหยุดเหิมเกริมบ้าคลั่งเดี๋ยวนี้นะ แกนึกว่าจัดการกับพวกลูกน้องไม่กี่คนของฉันได้แล้วแกจะไร้เทียมทานอย่างนั้นเหรอ? ฉันยังมีไพ่ตายอยู่ พวกแกวางใจเถอะ ถ้าไพ่ตายนี้ของฉันออกมา พวกแกได้ตายแบบไร้ที่ฝังศพแน่นอน”
พูดพลาง พระอริยมารดรที่สามก็ตบมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม