เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 923

ในตำนาน คนคนนี้แค่หมัดเดียวก็ทำลายหินจนสั่นสะเทือนไปทั่วชั้นฟ้าได้ น่าอัศจรรย์ใจมากๆ ต่อให้มีวัวหนึ่งตัวมาอยู่ตรงหน้า ก็รับหมัดของเขาไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคน

ในข่าวเมื่อสมัยก่อน คนคนนี้ก็ไม่ได้ว่าจะไม่เคยประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก่อน

หวังหรูเมิ่งเมื่อตอนยังวัยรุ่นก็เคยต่อสู้กับกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกกองทัพปราณมังกรเป็นผู้นำด้วยพละกำลังของตัวเองมาก่อน แถมทำให้สมาชิกของกองทัพปราณมังกรคนนั้นบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย สุดท้ายก็ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลชั้นสูง จึงได้จัดการหวังหรูเมิ่งลงได้

ดังคำกล่าวที่ว่ามีเงินจะทำอะไรก็ได้ ไม่รู้ว่าพระอริยมารดรที่สามใช้แผนการอะไร ถึงเอาคนคนนี้มาได้ แถมยังให้มาอยู่ข้างกาย คอยเป็นบอดี้การ์ดให้กับตัวเองอีกด้วย

ถ้าถังเฉาผลีผลามบุกเข้ามาในตอนนี้ เจียงสือเหนียนก็ไม่กล้ายืนยันว่าถังเฉาจะถูกฆ่าในทันทีไหม

พระอริยมารดรที่สามที่ตาลุกเป็นไฟเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้บอดี้การ์ดที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของตัวเองทั้งหมดกระโจนเข้าไป ส่วนพวกบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงประตูเหล่านั้นก็ถูกเฟิ่งหวงจัดการล้มลงไปกองก่อนเรียบร้อยแล้ว

พอเห็นว่าบอดี้การ์ดพวกนี้สู้กับถังเฉาแล้วก็โซเฟียไม่ได้ พระอริยมารดรที่สามก็รีบกดปุ่มฉุกเฉินทันที พอกดปุ่มนี้ไปแล้ว ตรงประตูก็มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น

“เหอะ ก็มีพอมีทักษะความสามารถนี่ แต่ก็แค่นั้นแหละ ตอนนี้คนที่อยู่ตรงประตูทางเข้าของพวกเรากำลังจะเข้ามาแล้ว พวกแกสองคนจะต้านไหวได้ยังไง?”

พระอริยมารดรที่สามหัวเราะออกมาราวกับนังตัวร้าย หมดแล้วซึ่งสถานภาพของพระอริยมารดร

แต่หลังจากที่สงบลงสักพัก จู่ๆพระอริยมารดรที่สามก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาไม่น้อย

มองไปที่ประตู ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะไม่มีใครมาแม้แต่คนเดียว มีแค่ถังเฉาแล้วก็โซเฟียที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่ รวมถึงเย่จงซือด้วย

“เกิดอะไรขึ้น? แม่? ทำไมคนของพวกเราถึงไม่เข้ามาสักที แม่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่แห่งนี้ ไม่มีใครสามารถมาทำอะไรพวกเราได้? ถ้าไม่มีใครมาอีกแล้วล่ะก็ พวกเราต้องตกอยู่ในอันตรายแล้วนะ!”

เย่จงซือสีหน้าท่าทีตื่นตกใจ เพราะว่าเรื่องเมื่อครั้งที่แล้วมันทำให้เขารู้สึกไม่พึงพอใจอยู่พอสมควรก่อนแล้ว ตอนนี้พอมาเจอถังเฉา ก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ต่อให้มีแม่ที่แข็งแกร่งทรงพลังของตนเองอยู่ด้วยก็ตาม

“อย่าใจร้อนสิ น่าจะเจอเรื่องอะไรที่ตรงประตู ไม่เป็นไรหรอก พวกมันจะมาในไม่ช้า”

ผ่านไปอีกสักพัก บรรยากาศก็เงียบสนิทอย่างผิดปกติ ส่วนถังเฉาก็อยากจะดูเหมือนกันว่าพระอริยมารดรที่สามจะเล่นไม้ไหนกันแน่

ตึงๆๆ!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น พระอริยมารดรที่สามหัวเราะออกมาอีกครั้ง

“ฉันบอกแล้ว ว่าคนของฉันแค่มาช้าเท่านั้น เดี๋ยวกลับไปลงโทษพวกมันก็ได้แล้ว แต่พวกแก จะต้องตายซะ!”

พระอริยมารดรที่สามพูดขึ้นด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม“แต่ฉันมีเงื่อนไข นั่นก็คือให้ไอ้หมอนี่ช่วยรักษาสองมือของลูกชายของฉัน ฉันก็จะให้พวกแกถอยกลับไปอย่างปลอดภัย แต่ถ้าเกิดเจอฉันข้างนอกล่ะก็ ฉันก็จะยังคงฆ่าพวกแกอยู่ดี”

ด้วยเหตุนี้ ถังเฉาแค่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้พูดอะไร

หลังจากที่ประตูถูกผลักเปิดออกมาอย่างแรงแล้ว สีหน้าท่าทีของพระอริยมารดรที่สามก็นิ่งชะงักไปทันที เพราะว่าคนที่เธอเห็นไม่ใช่ลูกน้องของตัวเอง แต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

เฟิ่งหวง

เฟิ่งหวงท่าทางง่ายๆสบายๆ เช็ดรอยเลือดตามตัวของตนเอง

“จัดการเรียบร้อยแล้ว”

พอพระอริยมารดรที่สามได้ฟัง ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“หรือว่าพวกคนหลายสิบคนนั้น จะถูกเด็กสาวแค่คนเดียวจัดการ……!”

เฟิ่งหวงรู้ว่าพระอริยมารดรที่สามกำลังพูดถึงตัวเองอยู่ จึงพูดเยาะเย้ยขึ้น“คุณหมายถึงพวกลูกกะจ๊อกที่อยู่ข้างในบ้านเหรอ? ขอโทษทีนะ ตะกี้ฉันคันไม้คันมือจัดการไปหมดเรียบร้อยแล้วล่ะ”

ใครๆก็รู้ว่า ลูกกะจ๊อกที่เฟิ่งหวงพูดถึง ก็คือลูกน้องของพระอริยมารดรที่สามนั่นเอง แล้วพวกลูกน้องเหล่านี้เป็นแค่ลูกกะจ๊อกที่ไหนกัน นั่นเป็นถึงนักเลงมืออาชีพที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเชียวนะ!

“น่ารังเกียจสิ้นดี!แกหยุดเหิมเกริมบ้าคลั่งเดี๋ยวนี้นะ แกนึกว่าจัดการกับพวกลูกน้องไม่กี่คนของฉันได้แล้วแกจะไร้เทียมทานอย่างนั้นเหรอ? ฉันยังมีไพ่ตายอยู่ พวกแกวางใจเถอะ ถ้าไพ่ตายนี้ของฉันออกมา พวกแกได้ตายแบบไร้ที่ฝังศพแน่นอน”

พูดพลาง พระอริยมารดรที่สามก็ตบมือ

มีผู้ชายคนหนึ่งกระโจนเข้ามาจากหลังประตู ราวกับสัตว์ดุร้าย ในตาเต็มไปด้วยความอาฆาต ราวกับว่าวินาทีต่อจากนี้จะกลืนกินทุกคนไปจนหมดอย่างไรอย่างนั้น

คนคนนี้ก็คือคนที่เจียงสือเหนียนเพิ่งจะได้ยินเมื่อตะกี้นี้ หวังหรูเมิ่งนั่นเอง

หวังหรูเมิ่งรูปร่างสูงใหญ่ แล้วก็มีพลังบดขยี้ที่แข็งแกร่ง ทำให้เฟิ่งหวงตอบสนองกลับมาไม่ถูกอยู่ไม่น้อย

เมื่อตะกี้ยังจัดการรับมือกับพวกลูกกะจ๊อกอยู่เลย คิดไม่ถึงจริงๆว่า จะมีสิ่งที่ไม่เหมือนกับคนแบบนี้อยู่ในนี้ด้วยเหมือนกัน

แต่ในฐานะของลูกน้องของถังเฉา เฟิ่งหวงก็อยู่ในแนวหน้า พุ่งกระโจนเข้ามาอยู่ตรงหน้าของถังเฉา

“เหอะ สาวน้อย ฉันไม่ทุบตีเด็กผู้หญิง ฉันคือหวังหรูเมิ่ง ฉันเป็นถึงนักรบเทพเชียวนะ”

หวังหรูเมิ่งสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ มองพระอริยมารดรที่สามพร้อมกับพูดขึ้น“คุณให้ผมออกมาทำไม? หรือว่าให้ผมมาจัดการกับเด็กสามคนเนี่ยนะ?”

พระอริยมารดรที่สามสีหน้ามืดมน มองหวังหรูเมิ่งพร้อมกับพูดขึ้น“หยุดพล่ามได้แล้ว ไอ้พวกลูกน้องเลี้ยงเปลืองข้าวสุกของฉันพวกนั้นถูกคนพวกนี้จัดการไปแล้ว แกรีบไปฆ่าพวกมันซะ”

หวังหรูเมิ่งหัวเราะออกมายกใหญ่“ลูกน้องของคุณนี่มันไร้น้ำยาจริงๆ แค่คนแบบนี้ก็ยังสู้ไม่ได้”

พอได้ฟังถึงตรงนี้ เฟิ่งหวงก็ฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอทนเห็นใครมาเย้ยหยันถังเฉาไม่ได้

“รนหาที่ตาย!”

พอเจอสถานการณ์แบบนี้ เฟิ่งหวงก็พุ่งกระโจนเข้าไปอย่างไม่ลังเล

ร่างกายของเฟิ่งหวงรวดเร็วมาก พุ่งไปพุ่งมารอบๆตัวของหวังหรูเมิ่งอย่างต่อเนื่องไมหยุดไม่หย่อน

ขณะที่เคลื่อนไหวก็โจมตีหวังหรูเมิ่งไปด้วยอยู่หลายครั้ง พอเห็นว่าเริ่มได้เปรียบ พระอริยมารดรที่สามตื่นตระหนกไม่น้อย แต่ถังเฉากลับเห็นต่างกัน

“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ เฟิ่งหวงจะต้องพ่ายอย่างแน่นอน”

โซเฟียรู้สึกไม่เข้าใจ

ความเร็วที่ท่วมท้นขนาดนี้ ทำไมถึงบอกว่าจะแพ้?

“พลังกายของเฟิ่งหวงตามไม่ทันแล้ว”

เป็นอย่างที่คิดไว้ สองวินาทีหลังจากที่ถังเฉาพูดประโยคนี้จบ ฝีเท้าของเฟิ่งหวงก็หยุดชะงักลง

หลังจากที่หันมองหวังหรูเมิ่งที่ถูกจู่โจมจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนเอาสองมือออกจากหน้า เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มนิ่งๆ

“เป็นไรไป สาวน้อย ไม่สะกิดจั๊กจี้ต่อแล้วเหรอ?”

เฟิ่งหวงก้มลง กุมท้อง หอบอย่างแรง เสียงหายใจดังไปทั่วห้อง หายใจในแต่ละครั้งล้วนแต่บ่งบอกกับทุกคนแล้วว่า เฟิ่งหวงพ่ายแพ้แล้ว

“ต่อไปก็ถึงตาฉันแล้วสินะ? ถึงฉันจะไม่ทุบตีผู้หญิง แต่ฉันก็ชอบรังแกผู้หญิงเหมือนกัน”

พูดพลาง หวังหรูเมิ่งแค่พุ่งตรงเข้าไป เพราะว่าพลังกายของเฟิ่งหวงไม่รองรับ จึงไม่สามรถหลบได้ ถูกเฟิ่งหวงพุ่งกระโจนเข้าใส่ชนกับกำแพงอย่างจัง

เสียงดังตู้ม กำแพงของคฤหาสน์ถูกชนจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ เฟิ่งหวงหมดสติไปแล้ว เธอร่วงลงมาจากกำแพง

โซเฟียมองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ด้วยความตกใจ

“น่ารังเกียจสิ้นดี คิดไม่ถึงว่าตัวใหญ่ขนาดนี้ จะรวดเร็วได้ถึงระดับนี้”

หลังจากที่โซเฟียพูดจบ พระอริยมารดรที่สามก็รู้สึกดีใจขึ้นมาสักที เย่จงซือที่อยู่ข้างๆก็อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ลุกกระโดดขึ้นมา

“ถังเฉา ไอ้สารเลว ในที่สุดฉันก็สามารถแก้แค้นแกได้สักที ให้แกชดใช้ให้กับสองมือของฉัน เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ พวกแกอยากจะตายกันยังไงดีล่ะ!”

“แน่นอนว่า ถ้าตอนนี้พวกแกคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนฉัน จากนั้นก็ช่วยรักษาสองมือให้กับฉัน แล้วก็ยกเย่หรูอี้ให้กับฉันซะ ฉันก็อาจจะพิจารณาปล่อยพวกแกไปก็ได้นะ”

ตอนที่เย่จงซือพูดถึงชื่อของเย่หรูอี้ ไฟโกรธของถังเฉาก็ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟ จากเท้าก่อตัวรวมขึ้นมาจนถึงหัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม