ในฐานะผู้ใหญ่ สถานะของถังเฉานั้นชัดเจน ถังเย่ไม่กล้าปฏิเสธความเกี่ยวดองทางสายเลือดนี้หรอก แต่ที่เห็นได้ชัดคือหลังจากถังเย่ได้ยินที่ถังเฉาพูดแล้ว สีหน้าของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
แต่พอถังเฉาเห็นท่าทีกระวนกระวายเช่นนี้ของถังเย่แล้วก็รู้สึกสุขี
ถังเฉามองถังเย่อยู่อย่างนั้น รอให้ถังเย่ตอบคำถามของตัวเอง
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่นี่ย่อมมีที่ของแก สถานะของแกชัดเจนอยู่แล้วในตระกูลถังของเรา แกสบายใจเถอะ”
“ต่อให้ตัวแกไม่กลับมา ถึงเวลาสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้าน พวกเราก็ต้องตามหาตัวแกจนเจอไม่ใช่หรือไงเล่า?”
ถังเย่พูดได้ดี แต่ตอนถังเฉาอยู่ข้างนอกก็ใช่ว่าคนของตระกูลถังไม่เคยพบเขาซะเมื่อไหร่ แต่กลับไม่เคยพูดเรื่องสืบทอดมรดกเลย มิหนำซ้ำยังคิดฆ่าถังเฉาอยู่ตลอดเวลา
แต่หลังจากที่ถังเชียนเชียนได้ยินว่าถังเฉาสามารถสืบทอดตำแหน่งผู้นำก็มีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าในทันที แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้เป็นไปในเชิงลบ หากแต่มีท่าทีคาดหวัง
"พ่อคะ เราอย่ามัวยืนกันที่นี่อยู่เลย รีบเข้าไปดื่มชากันเถอะค่ะ ที่นี่มีพระอริยามารดรใหญ่และพระอริยามารดรที่สองอยู่ไม่ใช่หรอคะ?"
คำพูดไร้เดียงสาของถังเชียนเชียน ทำลายแผนร้ายทั้งหมดในที่นี่ลง
"จริงด้วย ผิดที่ฉันเอง เสียมารยาทกับแขก ไปกันเถอะ เรารีบเข้าไปที่ห้องโถงกัน"
พอเดินเข้าไปในห้องโถง ถังเฉาก็เห็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อสู้จำนวนมาก
อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือฝึกซ้อมที่ถังเฉาไม่เคยเห็นมาก่อน
และด้านข้างของเครื่องมือฝึกฝนเหล่านี้ย่อมมีคนยืนอยู่เป็นธรรมดา คนเหล่านี้ก็คือคนตระกูลถังที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อยู่
"เหอะๆ คิดไม่ถึงว่าคนของตระกูลถังจะให้ความสำคัญกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ขนาดนี้"
ตัวถังเฉาเองก็คิดไม่ถึงว่าคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เหล่านี้จะสะท้านเพียงเพราะสายตาเมื่อกี้ของตัวเอง จนบัดนี้ยังไม่ได้สติ จนกระทั่งพวกเขาเห็นถังเฉาเดินเข้ามาทางประตูใหญ่ ถึงเริ่มรู้ตัว
แต่ประโยคนี่ของถังเฉาไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการยั่วยุคนตระกูลถัง เมื่อกี้มีคนตะลึงเพราะตัวเองไปมากขนาดไหนนั้น ถังเฉาพอจะรู้อยู่
ถังเย่ได้ยินแล้วรอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มจะแข็งทื่อไป เขาได้แต่พูดอย่างกระอักกระอ่วน
“แน่นอนว่าต้องมีฝึกฝนกันบ้าง แม้ว่าพวกเราคนตระกูลถังจะรักสงบมากกว่า แต่ก็ต้องมีวิชาป้องกันตัวบ้างสิ"
คำพูดนี้ก็แค่หน้าใหญ่ไปอย่างนั้นอย่างเห็นได้ชัด ถังเชียนเชียนอีกด้านฟังที่พ่อของตัวเองพูดแล้วก็อึดอัดในใจเหมือนกัน เพราะเธอรู้ว่าปกติแล้วพ่อของตัวเองตั้งเกณฑ์ให้ลูกศิษย์สูงขนาดไหน
แต่แม้ว่าเกณฑ์จะสูงมาก ฝีมือของลูกศิษย์ในมือก็ยังเป็นพวกดาดๆ
แน่นอนว่าดาดๆนี้สำหรับถังเฉาคนเดียวเท่านั้น แต่สำหรับทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ย ฝีมือของคนตระกูลถังถือว่าติดอันดับต้นๆ
ถังเฉาฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กลับคิดว่าคำอธิบายนี้ค่อนข้างสมเหตุสมผลอยู่ จึงพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกดูแคลน "ก็จริงนะครับ ไม่อย่างนั้นมีฝีมือแค่นี้ออกไปก็โดนเขาดูถูกเปล่าๆ"
ฟึ่บ!
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนในที่นี้เดือดกันหมด ปกติแล้วลูกศิษย์เหล่านั้นเป็นคนมีหน้ามีตาในราชวงศ์ต้าเซี่ย แต่ตอนนี้กลับต้องโดนเด็กไร้หัวนอนปลายเท้าถากถางถึงเพียงนี้
หนึ่งในผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้คนหนึ่งเดินออกมา
"ศิษย์พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นหรอคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม