หลังจากที่ไวโอเล็ตได้รับข้อความแล้ว ก็แอบ ๆ หันศีรษะกลับมามองออกไป เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูไม่สุภาพคนหนึ่งตามไวโอเล็ตมา ดูเหมือนว่าจะคอยสังเกตการณ์เธออยู่ตลอดเวลา
ไวโอเล็ตเองก็ส่งข้อความหนึ่งไปให้ถังเฉา บอกว่าตนเองจะไปจัดการสักหน่อย จากนั้นก็หายวับไปจากด้านหลังของถังเฉา
ไวโอเล็ตเลี้ยวเข้าไปในซอยซอยหนึ่งที่ไม่มีคน ส่วนนักฆ่าที่ตามมาด้านหลังคนนั้นก็ตามไวโอเล็ตมา มาอยู่ที่ปากซอยด้วยกัน
คนคนนี้เป็นคนที่หว่างเหลี่ยงส่งมา แน่นอนว่าไวโอเล็ตจะลงมือไม่ได้ แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ นั่งอยู่ข้างหนึ่งมองโทรศัพท์ของตน
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของคนคนนั้นก็ดังขึ้น ถูกไวโอเล็ตได้ยินเข้า จากนั้นไวโอเล็ตจึงสามารถใช้เหตุผลที่สมเหตุสมผลมองไปยังทิศทางของคนคนนั้น
“ใครกัน? นึกไม่ถึงว่าจะกล้าตามมาข้างหลังฉัน รีบเสนอหน้าออกมา”
เจอประโยคนี้ของไวโอเล็ตเข้า ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ปลอมตัวอีกต่อไป แต่กลับค่อย ๆ โผล่ศีรษะออกมาจากมุมกำแพงด้านหนึ่งอย่างช้า ๆ
มองเห็นรอยยิ้มไม่สุภาพของผู้ชายคนนั้นแล้ว ความรังเกียจในใจของไวโอเล็ตก็โหมขึ้นมาทันที แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความโชคดี
เพราะว่าคนคนนี้ไม่ได้ถูกส่งมาสะกดรอยตามตนเองเอง แต่เป็นคนโรคจิตคนหนึ่งที่อยู่ที่หว่างเหลี่ยง
ตั้งแต่คราวที่แล้วที่ไวโอเล็ตกลับไปถึงที่หว่างเหลี่ยงนั่น ก็ได้เจอคนคนนี้อยู่ในหว่างเหลี่ยงทางนั้นแล้ว
แต่ว่าเพราะอะไรคนคนนี้ถึงได้มาอยู่ในที่เดียวกันกับไวโอเล็ตได้ ไวโอเล็ตเองก็ไม่เข้าใจนัก เพียงแค่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้อัปลักษณ์เป็นพิเศษ ทั้งยังทำท่าจะตีสนิทกับเธอบ่อย ๆ คิดอยากจะเอาเอาอกเอาใจเธอ
“ทำไมคุณจะต้องตามฉันด้วย? ครั้งนี้ฉันมาปฏิบัติภารกิจ ถ้าหากมาทำให้ภารกิจล่าช้า ฉันยกโทษให้คุณไม่ได้แน่”
เห็นเพียงผู้ชายคนนั้นมีท่าทีสบาย ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่ใส่ใจคำพูดของไวโอเล็ตเลยแม้แต่น้อย พูดด้วยรอยยิ้มว่า
“จะไปทำให้ภารกิจของคุณล่าช้าได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าผมมาช่วยคุณเพราะกลัวว่าคุณจะได้รับบาดเจ็บหรอกหรือ? มีผมอยู่ ภารกิจที่คุณทำก็จะง่ายขึ้นเยอะ ถึงอย่างไรถังเฉาก็ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ ไม่ใช่หรือ?”
ได้ยินความหมายนี้แล้วไวโอเล็ตก็รู้จุดประสงค์ที่ชายคนนี้มาที่นี่ ชัดเจนมาก ๆ เป้าหมายที่เขามาที่นี่ก็เพื่อที่จะสะกดรอยตามไวโอเล็ต อีกอย่างก็คือสังหารถังเฉา
“หลี่เล่อ ทางฉันไม่จำเป็นจะต้องให้นายช่วย นายรีบไปจากฉันเสีย ถ้าหากทำให้ธุระของฉันผิดพลาด ฉันจะต้องรายงานกับเบื้องบนแน่ ๆ”
เห็นเพียงว่าหลี่เล่อไม่ใส่ใจเลยสักนิด กลับกันกลับค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ไวโอเล็ตทีละก้าว ๆ ท่าทางเหมือนคิดอยากจะยั่วยุไวโอเล็ต
“ผมเคยพูดเอาไว้แล้วนี่คุณไวโอเล็ตที่รัก ผมจะไม่เป็นตัวถ่วงคุณแน่ ถึงอย่างไรผมก็เป็นผู้บริหารสูงสุดห้าดาวคนหนึ่ง ความสามารถของผู้บริหารสูงสุดห้าดาวคุณเองก็น่าจะรู้ดีนะ นอกจากผมกับคุณแล้ว ยังมีหงเหลียนที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารสูงสุดห้าดาวอีกคนไม่ใช่หรือไง?”
“ถึงแม้ว่าคุณจะเข้ากับหงเหลียนไม่ได้ ทำให้การจับกุมถังเฉาเมื่อครั้งที่แล้วล้มเหลว แต่ว่าผมสามารถเข้ากับคุณได้นะ ผมจะต้องทำตามบัญชาของคุณแน่ ๆ ขอเพียงคุณสั่งมาคำเดียว ผมจะจัดการถังเฉาให้กลายเป็นสวะคนหนึ่งไปเลย”
ตอนที่ไวโอเล็ตอยู่ในหว่างเหลี่ยงนั้นก็เคยได้ยินมาบ้างว่าศักยภาพของถังเฉานั้นแข็งกร้าวมาก ห่างจากหงเหลียนอยู่โข และตนเองก็ด้วย เพียงแต่ตอนที่อยู่กับหลี่เล่อนั้น ไวโอเล็ตสัมผัสไม่ได้ถึงรังสีสังหารเลยแม้แต่น้อย
อย่างเดียวที่สามารถสัมผัสได้จากบนร่างของเขาก็คือกลิ่นอายของความหยาบคายก็เท่านั้น
“ทางที่ดีคุณอย่าเข้าใกล้ฉันเกินไปจะดีกว่า ในราชวงศ์ต้าเซี่ยคุณไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันจะทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จ คุณอย่ามาตามฉัน”
หลังจากที่พูดจบ ไวโอเล็ตก็หมุนตัวจากไปทันที หลี่เล่อกลับไม่ได้ตามไปจริง ๆ
“จริง ๆ เลย... ไม่ใช่ว่าผมจะต้องตามคุณตลอดเสียหน่อย ผมแค่พูดว่าจะทำภารกิจด้วยกันกับคุณแค่นั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม