สำหรับถังเฉาแล้ว ความสัมพันธ์ของลูกพี่ลูกน้องที่ธรรมดาเช่นนี้ กลับแปลกเป็นอย่างยิ่งในสายตาของน้องน้อยโจว
น้องน้อยโจวในตอนนี้จึงได้รู้ว่า ที่แท้แล้วคนในสังคมก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ทันใดนั้นในใจก็เย็นชาขึ้นมา เดินเข้าไปทางข้างในตระกูลถังอย่างโมโห
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่นะ ทำไมถึงได้ไม่กลัวตาย นี่เป็นถึงตระกูลถังของพวกเราเชียวนะ ถ้าหากไม่ใช่พี่ละก็ คาดว่ายายเด็กโง่คนนี้ในตอนนี้คงจะถูกหิ้วออกมาแล้ว”
“เป็นสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือจริง ๆ”
ถังเฉาชินเรื่องการโต้เถียงกันระหว่างผู้หญิงมาตั้งนานแล้ว ส่วนถังฉไม่ได้ตัดสินใจที่จะใส่ใจเรื่องนี้ ขอเพียงตนเองปฏิบัติต่อพวกเธอทั้งสองคนดี ๆ ก็พอแล้ว
เช้าของวันถัดมา ลูกศิษย์มากมายของตระกูลถังก็เตรียมที่จะฝึกการต่อสู้ในห้องโถงใหญ่กันตามปกติ
และในเวลานี้เอง ถังเฉาก็พาเด็กสาวสองคนเดินเข้ามา ทุกคนมองถังเฉาและสาวสวยสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ศิษย์พี่ใหญ่เพียงแค่เตรียมจะสอนพวกเธอสองคนฝึกการต่อสู้เหรอ? ทำไมถึงไม่ได้ยืนอยู่ข้างหน้าของพวกเรา แต่ไปยืนอยู่ตรงหน้าของผู้หญิงสองคน?”
“ไม่รู้สิ หรือว่าศิษย์พี่ใหญ่จะยังคงยืนหยัดอยู่ว่าจะฝึกให้กับสายของตัวเองเท่านั้นเหรอ? แล้วพวกเราสายฟ้าล่ะจะทำยังไง”
คำพูดพวกนี้ได้ยินไปถึงหูของถังซานฉ่าย แต่เขาไม่ได้ตัดสินใจที่จะไปสอดมือ ถึงอย่างไรตอนนี้ถังเฉาก็เป็นไพ่ลับที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลถัง ถ้าหากไปยุแหย่เขาเข้า ทุกคนในตระกูลถังคงไม่สบายใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการชิงแชมป์กันในราชวงศ์ต้าเซี่ยเลย
แต่ว่าศักยภาพที่แท้จริงของถังเฉา จะไม่ได้ยินเสียงคำเล่าลือนี้ได้อย่างไร?
รอจนหลังจากที่ทุกคนเงียบลงแล้ว ถังเฉาก็เดินช้า ๆ มาอยู่ตรงหน้าของคนมากมาย ท่าทางสบาย ๆ พูดเสียงดังกับทุกคนว่า
“ศิษย์น้องทุกคน ผมรู้ว่าเมื่อก่อนกังฟูของพวกคุณล้วนแต่มีศิษย์พี่ใหญ่ของพวกคุณนำฝึก ในเมื่อตอนนี้ผมเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของพวกคุณแล้ว แน่นอนว่าผมจะต้องรับผิดชอบสอนพวกคุณฝึกกังฟู”
“แต่ว่าทุกคนก็ล้วนแต่รู้ว่า สายของผมกับพวกคุณไม่เหมือนกัน ดังนั้นกังฟูที่ฝึกมาก็ไม่เหมือนกัน”
“แต่เป็นเพราะว่าผมจำเป็นจะต้องสอนพวกคุณฝึกกังฟู ดังนั้นเมื่อวานผมแอบไปเรียนเพิ่มเติมมานิดหน่อย ดังนั้นตอนนี้มีอยู่ไม่กี่กระบวนท่าที่เอามาสอนพวกคุณฝึกได้พอดี”
ตอนนี้ถังโจ่ก็หัวเราะออกมา
“ก่อนหน้านี้ถ้าไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ถังยวนสอนกังฟูพวกเขา แต่ถึงแม้ว่าศักยภาพของพวกเราสองคนจะไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่านาย แต่สำหรับการต่อสู้ของสายฟ้า ไม่ว่าจะอย่างไรฉันก็เหนือกว่านาย”
“นึกไม่ถึงว่าตอนนี้นายจะพูดจาเพ้อพกอยู่ที่นี่ เพียงแค่เมื่อคืนฝึกมาไม่กี่กระบวนท่า นึกไม่ถึงว่านายจะกล้าเอามาโชว์ อย่ามาทำให้ฉันขำไปหน่อยเลย”
“เหล่าศิษย์น้อง พวกนายจะต้องเข้าใจให้แจ่มแจ้งนะ สิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดก็คือ เขาฝึกมาเพียงคืนเดียว หรือว่าพวกนายเชื่อว่าเขาฝึกมาเพียงคืนเดียวแล้วจะมาแข็งแกร่งกว่ากังฟูพวกนายที่ฝึกกันมาหลายปีอย่างนั้นเหรอ?”
และนี่ก็เกี่ยวพันไปถึงปัญหาหนึ่งที่สอดคล้องกับความจริงเป็นอย่างมาก ว่าศักยภาพของถังเฉาก็คือสามารถฝึกการต่อสู้ชุดหนึ่งได้อย่างชำนาญภายในเวลาอันสั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว หลี่เห้าในตอนนั้นคงไม่เห็นเขาดีขนาดนั้น
“นี่ผมก็ไม่รู้ด้วยแล้ว แต่ว่าผมยอมรับให้ศิษย์น้องทุกคนขึ้นมาท้าประลองผมได้ ถ้าหากว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกคุณ แน่นอนว่าผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปสอนกังฟูพวกคุณแล้ว เช่นนั้นโอกาสนี้ก็ให้ถังโจ่ ศิษย์พี่รองของพวกคุณ”
หลังจากที่ถังโจ่ฟังจบก็ยิ้มเยือกเย็นออกมาทันที เพียงแต่ว่าเขาไม่ขึ้นไปประลองฝีมือแน่ ๆ เพราะตอนนี้เขามองเห็นจิตมืดของถังเฉาแล้ว
คราวก่อนที่ถูกต่อยทำให้คนอื่นยากที่จะลืมจริง ๆ ถ้ามีอีกครั้ง ถังโจ่อาจจะไม่กล้ามาแตะของอย่างกังฟูอีกแล้ว แต่ถังโจ่ก็รู้จักพลิกแพลงมาก ในเมื่อรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องขึ้นไปประลองก็พอแล้ว
รออยู่นาทีสองนาที สุดท้ายก็มีศิษย์น้องคนหนึ่งลุกขึ้นมา เดินไปพูดอยู่ตรงหน้าของถังเฉาว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม